逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ความชอบธรรมเชิดชูประชาชาติให้สูงขึ้น แต่บาปเป็นที่น่าอัปยศอดสูแก่บรรดาชนชาติ
- 新标点和合本 - 公义使邦国高举; 罪恶是人民的羞辱。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 公义使邦国高举; 罪恶是百姓的羞辱。
- 和合本2010(神版-简体) - 公义使邦国高举; 罪恶是百姓的羞辱。
- 当代译本 - 公义能叫邦国兴盛, 罪恶是人民的耻辱。
- 圣经新译本 - 正义使国家兴盛, 罪恶是人民的羞辱。
- 中文标准译本 - 公义使国家兴起, 罪恶是国民的耻辱。
- 现代标点和合本 - 公义使邦国高举, 罪恶是人民的羞辱。
- 和合本(拼音版) - 公义使邦国高举, 罪恶是人民的羞辱。
- New International Version - Righteousness exalts a nation, but sin condemns any people.
- New International Reader's Version - Doing what is right lifts people up. But sin brings judgment to any nation.
- English Standard Version - Righteousness exalts a nation, but sin is a reproach to any people.
- New Living Translation - Godliness makes a nation great, but sin is a disgrace to any people.
- The Message - God-devotion makes a country strong; God-avoidance leaves people weak.
- Christian Standard Bible - Righteousness exalts a nation, but sin is a disgrace to any people.
- New American Standard Bible - Righteousness exalts a nation, But sin is a disgrace to any people.
- New King James Version - Righteousness exalts a nation, But sin is a reproach to any people.
- Amplified Bible - Righteousness [moral and spiritual integrity and virtuous character] exalts a nation, But sin is a disgrace to any people.
- American Standard Version - Righteousness exalteth a nation; But sin is a reproach to any people.
- King James Version - Righteousness exalteth a nation: but sin is a reproach to any people.
- New English Translation - Righteousness exalts a nation, but sin is a disgrace to any people.
- World English Bible - Righteousness exalts a nation, but sin is a disgrace to any people.
- 新標點和合本 - 公義使邦國高舉; 罪惡是人民的羞辱。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 公義使邦國高舉; 罪惡是百姓的羞辱。
- 和合本2010(神版-繁體) - 公義使邦國高舉; 罪惡是百姓的羞辱。
- 當代譯本 - 公義能叫邦國興盛, 罪惡是人民的恥辱。
- 聖經新譯本 - 正義使國家興盛, 罪惡是人民的羞辱。
- 呂振中譯本 - 公義使邦國崇高; 罪惡是民族的羞辱 。
- 中文標準譯本 - 公義使國家興起, 罪惡是國民的恥辱。
- 現代標點和合本 - 公義使邦國高舉, 罪惡是人民的羞辱。
- 文理和合譯本 - 公義興國、罪惡辱民、
- 文理委辦譯本 - 仁義則邦以興、否則國以辱。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 善義使邦興、過惡使國辱、
- Nueva Versión Internacional - La justicia enaltece a una nación, pero el pecado deshonra a todos los pueblos.
- 현대인의 성경 - 의는 나라를 높여도 죄는 백성을 부끄럽게 한다.
- Новый Русский Перевод - Праведность возносит народ, а грех – позор для него.
- Восточный перевод - Праведность возносит народ, а грех – позор для него.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Праведность возносит народ, а грех – позор для него.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Праведность возносит народ, а грех – позор для него.
- La Bible du Semeur 2015 - La justice grandit une nation, mais le péché est une honte pour tout peuple.
- リビングバイブル - 神を敬うことは国を高め、 罪は民をおとしめます。
- Nova Versão Internacional - A justiça engrandece a nação, mas o pecado é uma vergonha para qualquer povo.
- Hoffnung für alle - Gerechtigkeit macht ein Volk groß, doch Sünde ist für jedes Volk eine Schande.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Đức công chính làm cho quốc gia được tán tụng, nhưng tội lỗi đem lại sỉ nhục cho toàn dân.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ความชอบธรรมเชิดชูชาติ แต่บาปทำให้ชนชาติต่างๆ ถูกพิพากษา
交叉引用
- เอเสเคียล 22:1 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า
- เอเสเคียล 22:2 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจะตัดสินโทษพวกเขาไหม เจ้าจะตัดสินโทษเมืองที่นองเลือดไหม จงบอกเมืองนั้นเรื่องการกระทำอันน่าชังทั้งสิ้นของพวกเขา
- เอเสเคียล 22:3 - เจ้าจงพูดว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ‘จะถึงเวลาของเมืองที่นำการพิพากษาให้แก่ตนเองเนื่องจากการนองเลือดในท่ามกลางเมือง และทำให้ตนเป็นมลทินจากการทำรูปเคารพ
- เอเสเคียล 22:4 - เจ้ามีความผิดเพราะทำให้คนนองเลือดและเป็นมลทินจากรูปเคารพที่เจ้าทำขึ้น และเจ้าได้ทำให้ถึงวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว ถึงเวลาสิ้นสุดแล้ว ฉะนั้น เราได้ทำให้เจ้าเป็นที่ดูหมิ่นของบรรดาประชาชาติ และเป็นที่ล้อเลียนของดินแดนทั้งปวง
- เอเสเคียล 22:5 - บรรดาผู้ที่อยู่ใกล้และไกลจากเจ้าจะล้อเลียนเจ้า ชื่อของเจ้าเป็นมลทิน เจ้าเป็นเมืองที่เต็มด้วยความชุลมุนวุ่นวาย
- เอเสเคียล 22:6 - ดูเถิด บรรดาผู้ยิ่งใหญ่ของอิสราเอลที่อยู่ในเยรูซาเล็มใช้อำนาจซึ่งทำให้นองเลือด
- เอเสเคียล 22:7 - พวกเขาดูหมิ่นบิดามารดา กดขี่ข่มเหงคนต่างด้าวในท่ามกลางเจ้า กระทำผิดต่อเด็กกำพร้าและหญิงม่าย
- เอเสเคียล 22:8 - เจ้าดูหมิ่นสิ่งบริสุทธิ์และวันสะบาโตของเรา
- เอเสเคียล 22:9 - มีบรรดาผู้นินทาว่าร้ายเพื่อต้องการนองเลือดในเยรูซาเล็ม และมีคนที่รับประทานบนภูเขา พวกเขามักมากในกามในท่ามกลางเจ้า
- เอเสเคียล 22:10 - ในเยรูซาเล็มมีบรรดาผู้ละเมิดสิทธิของบิดาของตน พวกเขาข่มขืนบรรดาผู้หญิงที่มีมลทินระหว่างมีรอบเดือน
- เอเสเคียล 22:11 - มีคนกระทำสิ่งอันน่ารังเกียจต่อภรรยาของเพื่อนบ้าน บางคนมักมากในกามทำให้บุตรสะใภ้เป็นมลทิน บางคนข่มขืนพี่น้องผู้หญิงของเขาคือบุตรหญิงของบิดาของตน
- เอเสเคียล 22:12 - ในเยรูซาเล็มมีคนรับสินบนเพื่อฆ่าคน เจ้าเก็บดอกเบี้ยและกำไร และบีบคั้นเพื่อนร่วมชาติของเจ้าอย่างไม่ยุติธรรม และเจ้าลืมเราเสียแล้ว’” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 22:13 - “ดูเถิด เราจะใช้มือฟาดสินบนที่เจ้ารับมา และเลือดที่เจ้าทำให้หลั่งในท่ามกลางเจ้า
- เอเสเคียล 22:14 - เจ้าจะยังกล้าหาญต่อไปได้อีกหรือ หรือว่ากำลังของเจ้าจะแข็งแกร่งได้ในเวลาที่เราจะกระทำต่อเจ้า เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราได้กล่าวดังนี้ และเราจะกระทำตามนั้น
- เอเสเคียล 22:15 - เราจะทำให้เจ้ากระจัดกระจายไปในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และจะทำให้เจ้ากระเจิดกระเจิงไปในหลายดินแดน และเราจะทำให้มลทินของเจ้าหมดไปจากเมืองนี้
- เอเสเคียล 22:16 - และเจ้าจะถูกดูหมิ่นในสายตาของบรรดาประชาชาติเพราะการกระทำของเจ้า และเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า”
- เอเสเคียล 22:17 - และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า
- เอเสเคียล 22:18 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย พงศ์พันธุ์อิสราเอลได้กลายเป็นขี้แร่สำหรับเรา พวกเขาทุกคนเป็นทองสัมฤทธิ์ ดีบุก เหล็กกล้า และสารตะกั่วในเตาผิง พวกเขาเป็นขี้เงิน”
- เอเสเคียล 22:19 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ “เพราะพวกเจ้าทุกคนได้กลายเป็นขี้แร่ ดูเถิด เราจะรวบรวมพวกเจ้าเข้าด้วยกันในท่ามกลางเยรูซาเล็ม
- เอเสเคียล 22:20 - ผู้หนึ่งรวบรวมเงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็กกล้า สารตะกั่ว และดีบุกใส่ในเตาผิง เพื่อสุมไฟให้ไหม้และหลอมละลายอย่างไร เราก็จะรวบรวมพวกเจ้าในความโกรธและการลงโทษของเราอย่างนั้น และเราจะสุมพวกเจ้าไว้และทำให้พวกเจ้าละลายไป
- เอเสเคียล 22:21 - เราจะรวบรวมพวกเจ้าและพ่นไฟแห่งการลงโทษใส่พวกเจ้า และพวกเจ้าจะถูกหลอมละลายท่ามกลางเมือง
- เอเสเคียล 22:22 - อย่างกับเงินที่ถูกหลอมในเตาผิง เจ้าก็จะถูกหลอมในท่ามกลางเมือง และพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราได้กระหน่ำการลงโทษของเราลงบนพวกเจ้าแล้ว”
- เอเสเคียล 22:23 - และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า
- ผู้วินิจฉัย 2:6 - ครั้นโยชูวาปล่อยให้ชาวอิสราเอลไปแล้ว ทุกคนต่างก็ไปยึดครองแผ่นดินเป็นมรดกของตนเอง
- ผู้วินิจฉัย 2:7 - ประชาชนรับใช้พระผู้เป็นเจ้าตลอดชีวิตของโยชูวา และตลอดชีวิตของบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ที่มีอายุยืนกว่าโยชูวา และได้เห็นทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ากระทำเพื่ออิสราเอล
- ผู้วินิจฉัย 2:8 - โยชูวาบุตรของนูน เป็นผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า ได้เสียชีวิตเมื่ออายุได้ 110 ปี
- ผู้วินิจฉัย 2:9 - เขาทั้งหลายก็ฝังท่านไว้ในบริเวณที่ดินที่เป็นมรดกของท่านที่ทิมนาทเฮเรส ในแถบภูเขาเอฟราอิม ทางด้านเหนือของภูเขากาอัช
- ผู้วินิจฉัย 2:10 - ทุกคนในรุ่นนั้นด้วยที่ถูกบรรจุศพรวมไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขาที่ล่วงลับไปแล้ว หลังจากนั้นรุ่นถัดไปก็เติบใหญ่ตามมา เป็นรุ่นที่ไม่รู้จักพระผู้เป็นเจ้าและสิ่งที่พระองค์ได้กระทำเพื่ออิสราเอล
- ผู้วินิจฉัย 2:11 - ชาวอิสราเอลกระทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า และบูชาเทวรูปบาอัล
- ผู้วินิจฉัย 2:12 - พวกเขาทอดทิ้งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา และนำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ พวกเขาติดตามและก้มกราบบรรดาเทพเจ้า ซึ่งเป็นเทพเจ้าของชนชาติอื่นที่อยู่รอบข้างเขา นับว่าเป็นการยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้า
- ผู้วินิจฉัย 2:13 - พวกเขาทอดทิ้งพระผู้เป็นเจ้า แล้วไปบูชาพวกเทวรูปบาอัลและอัชโทเรท
- ผู้วินิจฉัย 2:14 - อิสราเอลยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้า และพระองค์มอบพวกเขาไว้ในมือของพวกผู้ร้ายที่เข้ามาปล้นสะดม และพระองค์ขายพวกเขาให้แก่บรรดาศัตรูที่อยู่รอบข้างจนเขาไม่สามารถยืนหยัดต่อศัตรูของเขาได้
- เอเสเคียล 16:1 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า
- เอเสเคียล 16:2 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงให้เยรูซาเล็มรู้การกระทำอันน่าชังของตน
- เอเสเคียล 16:3 - จงไปบอกว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวแก่เยรูซาเล็มดังนี้ว่า ‘บรรพบุรุษและแหล่งกำเนิดของพวกเจ้าอยู่ในแผ่นดินของชาวคานาอัน บิดาของเจ้าเป็นชาวอาโมร์ และมารดาของเจ้าเป็นชาวฮิต
- เอเสเคียล 16:4 - วันที่เจ้าเกิด สายสะดือก็ไม่ได้ตัด และเจ้าไม่มีใครใช้น้ำชำระล้างเจ้าให้สะอาด ไม่ได้ใช้เกลือถูตัวหรือพันผ้าให้เจ้า
- เอเสเคียล 16:5 - ไม่มีใครมองดูตัวเจ้าหรือมีเมตตาต่อเจ้าด้วยความสงสารพอที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้เจ้า แต่เจ้ากลับถูกโยนออกไปในทุ่งนากว้าง เพราะวันที่เจ้าเกิด เจ้าถูกดูหมิ่น
- เอเสเคียล 16:6 - เมื่อเราเดินผ่านเจ้า และเห็นเจ้าขยับตัวอยู่ในเมือกเลือด เราพูดกับเจ้าซึ่งอยู่ในเมือกเลือดของเจ้าว่า “จงมีชีวิตเถิด” เราพูดกับเจ้าว่า “จงมีชีวิตเถิด”
- เอเสเคียล 16:7 - เราทำให้เจ้าเติบโตอย่างพืชในทุ่งนา และเจ้าเติบโตขึ้นและเติบใหญ่ กลายเป็นพลอยเม็ดงาม เจ้าถูกบันดาลให้มีหน้าอก และผมของเจ้ายาว แต่เจ้าก็ยังเปลือยกายและไร้เครื่องนุ่งห่ม
- เอเสเคียล 16:8 - เมื่อเราเดินผ่านเจ้าไปอีก ดูเถิด เราแลดูเจ้า และเห็นว่า เจ้ามีอายุที่จะมีความรัก และเรากางชายเสื้อของเราให้เจ้าได้ห่มและปิดกายที่เปลือยของเจ้า เราปฏิญาณกับเจ้าและทำพันธสัญญากับเจ้า และเจ้าก็เป็นของเรา’” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:9 - “แล้วเราใช้น้ำชำระล้างเจ้า ล้างเลือดออก และเจิมน้ำมันให้เจ้า
- เอเสเคียล 16:10 - เราสวมเสื้อให้เจ้าด้วยผ้าปักลวดลาย และสวมรองเท้าหนังให้เจ้า เราให้เจ้านุ่งห่มด้วยผ้าป่านเนื้อดีและคลุมด้วยผ้าไหม
- เอเสเคียล 16:11 - เราตกแต่งตัวเจ้าด้วยเครื่องประดับ และสวมกำไลมือและสร้อยคอให้แก่เจ้า
- เอเสเคียล 16:12 - เราคล้องห่วงที่จมูกและสวมตุ้มหูให้แก่เจ้า อีกทั้งสวมมงกุฎงามบนศีรษะของเจ้า
- เอเสเคียล 16:13 - เจ้าได้รับการตกแต่งด้วยเงินและทองดังกล่าว และเสื้อผ้าของเจ้าเป็นผ้าป่านเนื้อดี ผ้าไหม และผ้าปักลวดลาย เจ้ารับประทานแป้งชั้นเยี่ยม น้ำผึ้ง และน้ำมัน เจ้ากลายเป็นผู้ที่งดงามยิ่งนัก และเลื่อนระดับสู่ความเป็นเจ้าหญิง
- เอเสเคียล 16:14 - กิตติศัพท์ของเจ้าเป็นที่เลื่องลือในบรรดาประชาชาติเพราะความงามของเจ้า เพราะความงามตระการที่เราได้มอบให้แก่เจ้าได้ทำให้เจ้างามอย่างหาที่ติมิได้” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:15 - “แต่ว่าเจ้าวางใจในความงามของเจ้า และทำตนเป็นหญิงแพศยาเพราะเจ้ามีกิตติศัพท์ และแสดงความโปรดปรานแก่ผู้ที่ผ่านมาเพื่อทำให้เขาพอใจ ความงามของเจ้าทำให้เจ้ากลายเป็นของเขา
- เอเสเคียล 16:16 - เจ้าเอาเสื้อผ้าของเจ้าไปจัดสถานบูชาบนภูเขาสูงให้ฉูดฉาด และเป็นที่ซึ่งเจ้ากระทำตนเป็นหญิงแพศยาเรื่อยมา การกระทำเช่นนี้ไม่เคยเป็นมาก่อน และจะไม่มีวันเป็นเช่นนี้อีก
- เอเสเคียล 16:17 - เครื่องประดับเงินและทองคำอันงดงามของเจ้าที่เราให้เจ้า เจ้าเอาไปหล่อเป็นรูปเคารพซึ่งเป็นร่างของผู้ชาย และกระทำตนเป็นหญิงแพศยาต่อรูปเคารพเหล่านั้น
- เอเสเคียล 16:18 - และเจ้าเอาเสื้อผ้าที่ปักลวดลายไปห่มรูปเคารพ และมอบน้ำมันและเครื่องหอมของเราที่ตรงหน้ารูปเคารพ
- เอเสเคียล 16:19 - ขนมปังที่เราให้แก่เจ้า เราให้เจ้ารับประทานแป้งชั้นเยี่ยม น้ำมัน และน้ำผึ้ง เจ้าก็เอาไปมอบให้ที่ตรงหน้าเขาด้วย ให้ส่งกลิ่นหอม นั่นเป็นสิ่งที่เจ้าทำ” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:20 - “เจ้าเอาบุตรชายและบุตรหญิงที่เจ้าได้ให้กำเนิดและมอบให้แก่เราแล้ว เจ้ากลับมอบพวกเขาเป็นเครื่องสักการะดั่งเป็นอาหารสำหรับรูปเคารพ เจ้ากระทำตนเป็นหญิงแพศยาเท่านั้นยังไม่เพียงพออีกหรือ
- เอเสเคียล 16:21 - เจ้าจึงได้ฆ่าลูกๆ ของเรา และมอบให้เป็นของถวายด้วยไฟแก่รูปเคารพ
- เอเสเคียล 16:22 - เมื่อเจ้ากระทำสิ่งอันน่ารังเกียจ และทำตนเป็นหญิงแพศยา เจ้าไม่ได้นึกถึงสมัยที่เจ้ายังเยาว์ ในเวลาที่เจ้าเปลือยกายและปราศจากเครื่องนุ่งห่ม ขยับตัวอยู่ในเมือกเลือดของเจ้า
- เอเสเคียล 16:23 - วิบัติ วิบัติจงเกิดแก่เจ้า” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น “นอกจากความชั่วร้ายทั้งสิ้นของเจ้าแล้ว
- เอเสเคียล 16:24 - เจ้าก่อเนินขึ้นและสร้างวิหารอันตระหง่านที่ลานเมืองทุกแห่ง
- เอเสเคียล 16:25 - ที่หัวถนนทุกแห่ง เจ้าสร้างวิหารอันตระหง่าน และใช้ความงามของเจ้ากระทำสิ่งอันน่าชัง ขายตัวให้แก่ทุกคนที่ผ่านมา และทำตนเป็นหญิงแพศยามากขึ้น
- เอเสเคียล 16:26 - เจ้าทำตนเป็นหญิงแพศยาให้กับชาวอียิปต์ เพื่อนบ้านที่บ้ากาม ทำตนเป็นหญิงแพศยามากขึ้น เพื่อยั่วโทสะเรา
- เอเสเคียล 16:27 - ฉะนั้น ดูเถิด เราจะยื่นมือของเราออกเพื่อลงโทษเจ้า และลดอาณาเขตที่เป็นส่วนแบ่งของเจ้าให้น้อยลง และมอบเจ้าให้แก่ความโลภของศัตรูของเจ้า บรรดาบุตรหญิงของชาวฟีลิสเตียซึ่งอับอายต่อการมักมากในกามของเจ้า
- เอเสเคียล 16:28 - เจ้าทำตนเป็นหญิงแพศยาต่อชาวอัสซีเรียด้วย เพราะเจ้าไม่หนำใจ และแม้แต่จากนั้นแล้ว เจ้าก็ยังไม่หนำใจอีก
- เอเสเคียล 16:29 - เจ้าทำตนเป็นหญิงแพศยามากขึ้นด้วยกับดินแดนพ่อค้าแห่งเคลเดีย และถึงกระนั้นเจ้าก็ไม่หนำใจ”
- เอเสเคียล 16:30 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้ว่า “เจ้าช่างใจง่ายอะไรเช่นนี้ เป็นเพราะเจ้ากระทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นการกระทำของผู้ที่บ่งบอกว่าเป็นหญิงแพศยา
- เอเสเคียล 16:31 - เมื่อเจ้าก่อเนินขึ้นที่หัวถนนทุกแห่ง และสร้างวิหารอันตระหง่านที่ลานเมืองทุกแห่ง แต่เจ้าไม่เป็นอย่างหญิงแพศยาเพราะเจ้าดูหมิ่นการจ่ายค่าตัว
- เอเสเคียล 16:32 - ภรรยาผู้ผิดประเวณี เจ้าต้อนรับบรรดาคนแปลกหน้าแทนสามีของตน
- เอเสเคียล 16:33 - หญิงแพศยาทุกคนรับค่าบริการ แต่เจ้าให้ของกำนัลแก่คนรักของเจ้าทุกคน ใช้สินบนกับพวกเขาเพื่อให้มาหาเจ้าจากทุกแห่งหนด้วยความแพศยาของเจ้า
- เอเสเคียล 16:34 - ฉะนั้น เจ้าต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ในการทำตนเป็นหญิงแพศยา ไม่มีผู้ใดวิ่งไล่ตามเจ้าและทำตนเป็นหญิงแพศยาต่อเจ้า และเจ้าเองที่เป็นฝ่ายจ่ายค่าจ้าง ในขณะที่ไม่มีใครจ่ายค่าจ้างให้แก่เจ้า เจ้าต่างจากคนอื่นในข้อนี้”
- เอเสเคียล 16:35 - ฉะนั้น โอ หญิงแพศยาเอ๋ย จงฟังคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า
- เอเสเคียล 16:36 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “เพราะเจ้าปล่อยราคะออกมา เปิดกายอันเปลือยเปล่าของเจ้าให้เห็นเมื่อทำตนเป็นหญิงแพศยากับบรรดาคนรักของเจ้า และกับรูปเคารพอันน่ารังเกียจทั้งสิ้นของเจ้า และเพราะเลือดของลูกๆ ของเจ้าที่เจ้าถวายให้แก่รูปเคารพ
- เอเสเคียล 16:37 - ฉะนั้น เราจะรวบรวมบรรดาคนรักทั้งสิ้นของเจ้าที่เจ้าสนุกสนานด้วย ทุกคนที่เจ้ารักและทุกคนที่เจ้าเกลียด เราจะรวบรวมพวกเขาจากทุกแห่งหนเพื่อมากล่าวโทษเจ้า และจะเปลื้องกายของเจ้าต่อหน้าพวกเขา เพื่อให้พวกเขาเห็นความเปลือยเปล่าของเจ้า
- เอเสเคียล 16:38 - และเราจะตัดสินเจ้าให้รับโทษสำหรับผู้หญิงที่ประพฤติผิดประเวณีและเป็นเหตุให้มีการหลั่งเลือด เราจะนำเลือดแห่งการลงโทษและความหวงแหนของเรามาลงที่ตัวเจ้า
- เอเสเคียล 16:39 - และเราจะมอบเจ้าไว้ในมือของบรรดาคู่รักของเจ้า และพวกเขาจะพังเนินและวิหารอันสูงตระหง่านของเจ้าให้ทลายลง พวกเขาจะเปลื้องเสื้อผ้าของเจ้า และเอาเครื่องประดับอันสวยงามของเจ้าไป ปล่อยให้กายของเจ้าเปลือยเปล่า
- เอเสเคียล 16:40 - พวกเขาจะนำฝูงชนมาโจมตีเจ้า พวกเขาจะใช้หินขว้างเจ้า และใช้ดาบฟันให้ขาดเป็นท่อนๆ
- เอเสเคียล 16:41 - พวกเขาจะเผาบ้านเรือนของเจ้า และลงโทษเจ้าต่อหน้าบรรดาผู้หญิง เราจะทำให้เจ้าหยุดทำตนเป็นหญิงแพศยา และเจ้าจะไม่จ่ายค่าจ้างบรรดาคนรักของเจ้าอีกต่อไป
- เอเสเคียล 16:42 - แล้วความกริ้วของเราที่มีต่อเจ้าก็จะสงบลง และความโกรธอันเกิดจากความหวงแหนจะหายไปจากเจ้า เราจะสงบลงและจะไม่โกรธกริ้วเจ้าอีกต่อไป
- เอเสเคียล 16:43 - เพราะเจ้าไม่ได้นึกถึงสมัยที่เจ้ายังเยาว์ แต่ได้ทำให้เรากริ้วด้วยสิ่งเหล่านี้ สิ่งใดที่เจ้าได้กระทำ เจ้าจะได้รับสนองตอบอย่างแน่นอน พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น นอกจากการกระทำที่น่าชังดังกล่าวแล้ว เจ้ายังจะมักมากในกามอีกมิใช่หรือ
- เอเสเคียล 16:44 - ดูเถิด ทุกคนที่ใช้คำในสุภาษิต จะใช้สุภาษิตนี้อ้างถึงเจ้าคือ ‘มารดาเป็นอย่างไร บุตรหญิงก็เป็นอย่างนั้น’
- เอเสเคียล 16:45 - เจ้าเป็นบุตรหญิงของมารดาของเจ้า ซึ่งดูหมิ่นสามีและลูกๆ และเจ้าเป็นหนึ่งในบรรดาพี่น้องผู้หญิงของเจ้า ซึ่งดูหมิ่นสามีและลูกๆ ของพวกเขา มารดาของเจ้าเป็นชาวฮิต และบิดาของเจ้าเป็นชาวอาโมร์
- เอเสเคียล 16:46 - พี่สาวของเจ้าคือสะมาเรีย ซึ่งอาศัยอยู่กับบรรดาบุตรหญิงของนางทางเหนือของเจ้า และน้องสาวของเจ้าอาศัยอยู่ทางใต้ของเจ้า คือโสโดม
- เอเสเคียล 16:47 - เจ้าไม่เพียงดำเนินในวิถีทางของพวกเขา แต่กระทำตามแบบอย่างอันน่ารังเกียจของพวกเขา แต่ในเวลาอันสั้นเจ้าปฏิบัติอย่างเสื่อมทรามยิ่งกว่าพวกเขาในทุกเรื่อง”
- เอเสเคียล 16:48 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้ว่า “ตราบที่เรามีชีวิตอยู่ฉันใด โสโดมน้องสาวของเจ้ากับบรรดาบุตรหญิงของนางไม่เคยกระทำอย่างที่เจ้าและบรรดาบุตรหญิงของเจ้าได้กระทำ
- เอเสเคียล 16:49 - ดูเถิด บาปของโสโดมน้องสาวของเจ้าคือ ทั้งนางและบรรดาบุตรหญิงของนางหยิ่งยโส รับประทานเกินขนาด สุขสบายไร้กังวล แต่ไม่ได้ช่วยผู้ขัดสนและผู้ยากไร้
- เอเสเคียล 16:50 - พวกเขาหยิ่งยโสและกระทำสิ่งอันน่ารังเกียจต่อหน้าเรา เราจึงจัดการกับพวกเขาเมื่อเราแลเห็น
- เอเสเคียล 16:51 - สะมาเรียทำบาปไม่ถึงครึ่งของบาปที่เจ้าทำ เจ้าได้กระทำสิ่งอันน่ารังเกียจมากกว่าพวกเขา และเจ้าทำให้พี่น้องผู้หญิงของเจ้าดูเหมือนมีความชอบธรรม เพราะสิ่งเหล่านี้ที่เจ้าได้กระทำ
- เอเสเคียล 16:52 - จงแบกรับความอัปยศของเจ้า เพราะเจ้าได้ช่วยทำให้พี่น้องผู้หญิงของเจ้าพ้นผิด เพราะบาปของเจ้ามีมลทินมากกว่าของพวกเขา พวกเขาจึงดูเหมือนมีความชอบธรรมมากกว่าเจ้า ฉะนั้นเจ้าควรจะอับอายและแบกรับความอัปยศของเจ้า เพราะเจ้าได้ทำให้พี่น้องผู้หญิงของเจ้าดูเหมือนมีความชอบธรรม
- เอเสเคียล 16:53 - เราจะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของโสโดมและบรรดาบุตรหญิงของนาง และของสะมาเรียและบรรดาบุตรหญิงของนางคืนสู่สภาพเดิม เราจะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของเจ้าคืนสู่สภาพเดิมในท่ามกลางพวกเขา
- เอเสเคียล 16:54 - เพื่อให้เจ้าแบกรับความอัปยศ และอับอายต่อทุกสิ่งที่เจ้าได้กระทำโดยเป็นที่ปลอบใจของพวกเขา
- เอเสเคียล 16:55 - บรรดาพี่น้องผู้หญิงของเจ้าคือ โสโดมและบรรดาบุตรหญิงของนาง สะมาเรียและบรรดาบุตรหญิงของนาง จะกลับไปสู่สภาพที่พวกเขาเคยเป็นมาก่อน ทั้งตัวเจ้าและบรรดาบุตรหญิงของเจ้าก็จะกลับไปสู่สภาพที่เจ้าเคยเป็นมาก่อน
- เอเสเคียล 16:56 - เจ้าเคยพูดเปรียบเปรยโสโดมน้องสาวของเจ้าในครั้งที่เจ้าหยิ่งยโส
- เอเสเคียล 16:57 - ก่อนที่ความชั่วร้ายของเจ้าถูกเปิดโปง บัดนี้เจ้ากลายเป็นที่ดูหมิ่นของบรรดาบุตรหญิงของเอโดมและประชาชาติรอบข้างนาง และของบรรดาบุตรหญิงของชาวฟีลิสเตีย บรรดาผู้ที่อยู่รอบข้างเจ้าที่ดูหมิ่นเจ้า
- เอเสเคียล 16:58 - เจ้าจะแบกรับโทษของการมักมากในกามและการปฏิบัติสิ่งอันน่าชัง” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:59 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “เราจะกระทำต่อเจ้าอย่างที่เจ้าได้กระทำแล้ว เพราะเจ้าดูหมิ่นคำสาบานของเราเมื่อเจ้ายกเลิกพันธสัญญา
- เอเสเคียล 16:60 - แต่เราก็ยังระลึกถึงพันธสัญญาที่เราได้ทำไว้กับเจ้าในครั้งที่เจ้ายังเยาว์ และเราจะทำพันธสัญญาอันชั่วนิรันดร์กับเจ้า
- เอเสเคียล 16:61 - แล้วเจ้าจะระลึกถึงวิถีทางของเจ้าและอับอายเมื่อเจ้ารับพี่น้องผู้หญิงซึ่งมีอายุมากกว่าและอ่อนกว่า เราจะมอบพวกเขาให้เป็นบุตรหญิงแก่เจ้า แต่ไม่ใช่ในฐานะของพันธสัญญาของเราที่มีกับเจ้า
- เอเสเคียล 16:62 - ดังนั้น เราจะทำพันธสัญญากับเจ้า และเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า
- เอเสเคียล 16:63 - และเมื่อเรายกโทษบาปให้แก่เจ้าสำหรับทุกสิ่งที่เจ้าได้กระทำ เจ้าจะระลึกได้และละอายใจ และเจ้าจะไม่มีวันเปิดปากของเจ้าอีกเพราะความอับอายของเจ้า” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 2:2 - “จงไปประกาศให้ทุกคนในเยรูซาเล็มรับรู้ว่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ เราระลึกถึงการอุทิศตนเมื่อเจ้ายังเยาว์ ความรักของเจ้าที่มีต่อเราราวกับเจ้าสาว และเจ้าติดตามเราอย่างไรในถิ่นทุรกันดาร ในแผ่นดินที่ยังไม่มีพันธุ์ไม้เลย
- เยเรมีย์ 2:3 - อิสราเอลเคยบริสุทธิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้า ดั่งผลแรกของการเก็บเกี่ยว ทุกคนที่กินผลแรกก็จะมีความผิด และได้รับความวิบัติ” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 2:4 - พวกท่านที่เป็นผู้สืบเชื้อสายของยาโคบ และตระกูลทั้งปวงของพงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย จงฟังคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า
- เยเรมีย์ 2:5 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “บรรพบุรุษของเจ้าเห็นว่าเราทำสิ่งใดผิด จึงได้ห่างเหินไปจากเรา และกลับติดตามสิ่งอันไร้ค่า และกลายเป็นคนไร้ค่า
- เยเรมีย์ 2:6 - พวกเขาไม่ได้พูดว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าอยู่ไหน ผู้ที่นำพวกเราขึ้นมาจากแผ่นดินอียิปต์ ผู้นำพวกเราในถิ่นทุรกันดาร ในแผ่นดินที่เป็นทะเลทรายและเป็นหลุมทราย ในแผ่นดินแห้งแล้งและปราศจากชีวิต ในแผ่นดินที่ไม่มีใครเดินทางผ่าน หรืออาศัยอยู่’
- เยเรมีย์ 2:7 - และเรานำเจ้าเข้าไปในแผ่นดินอันอุดม เพื่อให้เจ้าสุขสำราญกับผลิตผลและสิ่งดีๆ ของแผ่นดิน แต่เมื่อเจ้าเข้ามาแล้ว เจ้าทำให้แผ่นดินที่เรามอบให้เป็นมรดกเป็นมลทิน และทำให้ผืนแผ่นดินของเราเป็นที่น่ารังเกียจ
- เยเรมีย์ 2:8 - บรรดาปุโรหิตไม่ได้พูดว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าอยู่ไหน’ บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎบัญญัติไม่รู้จักเรา บรรดาผู้เลี้ยงดูฝูงแกะก็ล่วงละเมิดต่อเรา บรรดาผู้เผยคำกล่าวพูดในนามของเทพเจ้าบาอัล และไปติดตามสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์”
- เยเรมีย์ 2:9 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “เรายังคัดค้านเจ้าอยู่ เราจะคัดค้านลูกของเจ้าและลูกๆ ของลูกเจ้าด้วย
- เยเรมีย์ 2:10 - ถ้าเจ้าข้ามไปยังฝั่งทะเลของไซปรัสและมองดู หรือให้ผู้ใดไปยังเคดาร์และสำรวจอย่างระมัดระวัง ดูสิว่าเคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นหรือไม่
- เยเรมีย์ 2:11 - มีประชาชาติใดที่เปลี่ยนเทพเจ้าบ้าง แม้ว่าจะไม่ใช่เทพเจ้าแท้จริง แต่ชนชาติของเราได้เปลี่ยนจากเราซึ่งเป็นบารมีของพวกเขา ไปหาเทพเจ้าซึ่งทำสิ่งใดให้พวกเขาไม่ได้เลย”
- เยเรมีย์ 2:12 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า “โอ ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงตื่นตระหนก และหวาดกลัวจนตัวแข็งเกร็งกับเรื่องดังกล่าว
- เยเรมีย์ 2:13 - ด้วยว่าชนชาติของเราได้กระทำความชั่ว 2 ประการคือ พวกเขาได้ทอดทิ้งเราผู้เป็นน้ำพุแห่งชีวิต และเขาได้ขุดบ่อน้ำให้แก่ตนเอง บ่อน้ำที่พังซึ่งเก็บน้ำไม่ได้
- เยเรมีย์ 2:14 - อิสราเอลเป็นทาสหรือ เป็นผู้รับใช้ที่เป็นทาสโดยกำเนิดหรือ แล้วทำไมพวกเขาจึงกลายเป็นเหยื่อที่ถูกล่า
- เยเรมีย์ 2:15 - สิงโตได้คำรามใส่เขา คำรามเสียงดัง พวกสิงโตทำให้แผ่นดินของเขารกร้าง เมืองของเขาถูกเผาและไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่
- เยเรมีย์ 2:16 - ยิ่งกว่านั้น ชาวเมมฟิสและทาปานเหส ได้โกนศีรษะของพวกเจ้า
- เยเรมีย์ 2:17 - เจ้าเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์นี้กับตัวเจ้าเอง เพราะการทอดทิ้งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า ครั้งที่พระองค์นำพวกเจ้าไปมิใช่หรือ
- เยเรมีย์ 2:18 - และบัดนี้เจ้าจะได้ประโยชน์อะไรที่ไปยังประเทศอียิปต์ เพื่อไปดื่มน้ำจากแม่น้ำไนล์หรือ หรือเจ้าจะได้ประโยชน์อะไรที่ไปยังอัสซีเรีย เพื่อไปดื่มน้ำจากแม่น้ำยูเฟรติสหรือ
- เยเรมีย์ 2:19 - ความชั่วร้ายของเจ้าจะลงโทษเจ้าเอง และเจ้าจะได้รับบทเรียนเมื่อเจ้าหันเหไปจากเรา จงรับรู้ไว้ว่า สิ่งเลวร้ายและขมขื่นจะเกิดแก่เจ้า ที่ทอดทิ้งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า ความเกรงกลัวที่มีต่อเราไม่ได้อยู่ในตัวเจ้าเลย” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 2:20 - “ด้วยว่า นานมาแล้วที่เจ้าหักแอกของเจ้า และตัดสิ่งที่ผูกเจ้าให้หลุดออกไป และเจ้าพูดว่า ‘เราจะไม่รับใช้’ แต่แล้วเจ้าก็ก้มกราบลงอย่างหญิงแพศยาคนหนึ่ง บนเนินเขาสูงทุกลูก และใต้ต้นไม้อันเขียวชอุ่มทุกต้น
- เยเรมีย์ 2:21 - เราปลูกเจ้าให้เป็นดั่งเถาพันธุ์เยี่ยม เป็นเมล็ดบริสุทธิ์แท้ แล้วเจ้ากลับเน่า และได้กลายเป็นเถาที่ไร้ค่า
- เยเรมีย์ 2:22 - แม้ว่าเจ้าจะชำระล้างตัวเจ้าด้วยน้ำด่าง และใช้สบู่มาก แต่ความชั่วที่เป็นรอยเปื้อนของเจ้าก็ยังอยู่เบื้องหน้าเรา” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 2:23 - “เจ้าพูดได้อย่างไรว่า ‘ข้าพเจ้าไม่มีมลทิน ข้าพเจ้าไม่ได้นมัสการเทพเจ้าบาอัล’ ดูวิถีทางของเจ้าในหุบเขาสิ เจ้ารู้ว่าเจ้าได้ทำอะไรไปบ้าง เหมือนกับอูฐสาวที่วิ่งไปวิ่งมา
- เยเรมีย์ 2:24 - ลาป่าเคยชินกับถิ่นทุรกันดาร ลาตัวเมียสูดตามกลิ่นในสายลมเพื่อหาคู่ของมัน ใครจะรั้งความต้องการของมันได้ล่ะ ไม่มีลาผู้ตัวใดที่จำเป็นจะต้องเหนื่อยจากการมองหาลาตัวเมียเลย เมื่อถึงเวลาหาคู่ ลาผู้ก็จะหามันพบ
- เยเรมีย์ 2:25 - อย่าวิ่งไปมาจนเท้าของเจ้าเจ็บ หรือทำให้คอของเจ้าแห้ง แต่เจ้าพูดว่า ‘ไม่เกิดประโยชน์เลย เพราะข้าพเจ้าหลงรักเทพเจ้าต่างชาติ และข้าพเจ้าจะติดตามต่อไป’
- โฮเชยา 13:1 - เวลาที่เอฟราอิมพูด คนอื่นตัวสั่นเทา เขาได้รับการยกย่องในอิสราเอล แต่เขามีความผิดที่กราบบูชาบาอัลและเขาก็สิ้นชีวิต
- เฉลยธรรมบัญญัติ 4:6 - ท่านจงรักษาและปฏิบัติตาม แสดงให้บรรดาชนชาติเห็นสติปัญญาและความเข้าใจของท่าน เมื่อเขาได้ยินกฎเกณฑ์เหล่านี้เขาจะพูดว่า ‘ประชาชาติที่ยิ่งใหญ่นี้กอปรด้วยสติปัญญา และเป็นชนชาติที่มีความเข้าใจจริงทีเดียว’
- เฉลยธรรมบัญญัติ 4:7 - มีประชาชาติใดบ้างที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีเทพเจ้าอยู่ใกล้เทียบเท่ากับที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราอยู่ใกล้กับเราเวลาเราร้องเรียกถึงพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 4:8 - และจะมีประชาชาติใดบ้างที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีกฎเกณฑ์และคำบัญชาอันชอบธรรมทัดเทียมกับกฎบัญญัติทุกข้อที่เราวางไว้ต่อหน้าพวกท่านในวันนี้
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:18 - จงระวังไว้ มิฉะนั้นอาจจะมีชายหรือหญิงคนใดคนหนึ่ง ตระกูลหรือเผ่าในหมู่พวกท่านในวันนี้เกิดมีใจที่หันไปจากพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา แล้วไปนมัสการบรรดาเทพเจ้าของประชาชาติเหล่านั้น มิฉะนั้นอาจจะมีรากที่ส่งผลอันขมขื่นและเป็นพิษในหมู่พวกท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:19 - เมื่อคนประเภทนี้ได้ยินคำกล่าวที่ปฏิญาณในพันธสัญญา ก็จะหลงระเริงว่า ‘ข้าจะปลอดภัย แม้ว่าจะดำเนินชีวิตไปด้วยใจดื้อดึงก็ตาม’ นั่นแหละจะนำความพินาศไปสู่ทั้งคนดีและคนชั่ว
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:20 - พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ยกโทษให้เขา แต่ความโกรธและความหวงแหนของพระผู้เป็นเจ้าจะพลุ่งพล่านใส่ผู้นั้น และคำสาปแช่งที่เขียนไว้ในหนังสือฉบับนี้ก็จะถาโถมใส่เขา และพระผู้เป็นเจ้าจะลบชื่อของเขาไปเสียจากใต้ฟ้า
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:21 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้เขาประสบกับความวิบัติเพื่อให้เผ่าต่างๆ ของอิสราเอลเห็นเป็นตัวอย่าง ตามคำสาปแช่งของพันธสัญญาที่เขียนไว้ในหนังสือกฎบัญญัติฉบับนี้ทุกประการ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:22 - ลูกหลานของท่านที่ตามมาในรุ่นต่อไป และคนแปลกหน้าที่มาจากแดนไกลจะเห็นความวิบัติที่เกิดขึ้นกับแผ่นดินและโรคภัยที่พระผู้เป็นเจ้าทำให้เกิดขึ้น
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:23 - ทั่วทั้งแผ่นดินเป็นกำมะถันและเกลือ ผืนดินถูกไฟเผาจนโล่งเตียน ไม่มีอะไรหว่านหรือปลูกไว้เลย ไม่มีแม้แต่หญ้าจะงอก จะเป็นเหมือนเมืองโสโดมและโกโมราห์ เมืองอัดมาห์ และเศโบยิม ซึ่งพระผู้เป็นเจ้ากำจัดให้หมดสิ้นไปด้วยความกริ้วอันร้อนแรง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:24 - แล้วประชาชาติทั้งปวงจะถามว่า ‘ทำไมพระผู้เป็นเจ้าจึงกระทำต่อแผ่นดินนี้ ทำไมความกริ้วจึงพลุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงถึงเพียงนี้’
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:25 - แล้วพวกเขาจะพูดว่า ‘เป็นเพราะพวกเขาทอดทิ้งพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา พันธสัญญาซึ่งพระองค์ได้ทำไว้กับพวกเขาเวลาที่พระองค์นำพวกเขาออกไปจากแผ่นดินอียิปต์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:26 - แล้วไปบูชาและนมัสการบรรดาเทพเจ้าซึ่งเป็นเทพเจ้าที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ที่พระองค์ไม่ได้มอบให้แก่พวกเขา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:27 - พระผู้เป็นเจ้ากริ้วต่อแผ่นดินนี้มาก แผ่นดินจึงรับคำสาปแช่งทั้งปวงที่เขียนไว้ในหนังสือฉบับนี้
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:28 - และพระผู้เป็นเจ้าก็ถอนรากถอนโคนพวกเขาไปเสียจากแผ่นดินของพวกเขาด้วยความโกรธอันร้อนแรงและความโกรธเกรี้ยวเป็นที่สุด และโยนพวกเขาลงสู่แผ่นดินอีกแห่งหนึ่งอย่างที่เป็นในปัจจุบัน’
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:1 - และถ้าท่านเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน โดยปฏิบัติตามพระบัญญัติทุกข้อที่เราบัญชาท่านในวันนี้อย่างระมัดระวัง พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะทำให้ท่านอยู่เหนือประชาชาติทั้งปวงของโลก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:2 - แล้วพระพรเหล่านี้จะสถิตกับท่านเสมอไป ถ้าท่านเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:3 - ไม่ว่าจะอยู่ในตัวเมืองหรือนอกเมืองท่านจะได้รับพระพร
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:4 - ลูกหลานที่เกิดจากท่านจะได้รับพระพร รวมทั้งพืชผลที่ได้จากไร่นา และลูกจากสัตว์เลี้ยง ลูกโคและลูกแกะจากฝูง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:5 - ตะกร้าและภาชนะนวดแป้งจะได้รับพระพร
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:6 - ท่านจะได้รับพระพรไม่ว่าท่านจะทำอะไรอยู่ที่ไหน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:7 - พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ศัตรูของท่านพ่ายแพ้ต่อหน้าต่อตาเมื่อเขาต่อสู้กับท่าน พวกเขาจะเข้าโจมตีจากทิศใดทิศหนึ่ง และจะเตลิดหนีไปทั่วทุกทิศทุกทาง ต่อหน้าท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:8 - พระผู้เป็นเจ้าจะอวยพรให้ยุ้งฉางของท่านเต็ม อีกทั้งทุกสิ่งที่ท่านทำ และพระองค์จะให้พรท่านในแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบแก่ท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:9 - ถ้าท่านรักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และดำเนินในวิถีทางของพระองค์ พระผู้เป็นเจ้าจะตั้งให้ท่านเป็นชนชาติบริสุทธิ์แก่พระองค์เองตามที่ได้ปฏิญาณกับท่านแล้ว
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:10 - และทุกชนชาติในโลกจะเห็นว่าท่านเป็นชนชาติของพระผู้เป็นเจ้า และพวกเขาจะเกรงกลัวท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:11 - พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านเจริญ มีลูกหลานมากมาย ทั้งแก่สัตว์เลี้ยงด้วย พืชผลไร่นาก็บริบูรณ์ในแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิญาณกับบรรพบุรุษของท่านว่าจะมอบให้ท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:12 - พระผู้เป็นเจ้าจะหลั่งฝนลงมาจากฟากฟ้าให้แก่ท่าน จากแหล่งเก็บฝนอันอุดมของพระองค์ เป็นฝนตามฤดูกาลในแผ่นดินของท่าน และอวยพรทุกสิ่งที่ท่านทำ ท่านจะให้หลายประชาชาติขอยืมจากท่าน ส่วนท่านจะไม่ต้องขอยืมจากใคร
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:13 - ถ้าท่านฟังพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านซึ่งเราสั่งในวันนี้คือ จงปฏิบัติอย่างระมัดระวัง พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านเป็นเบี้ยบน ไม่ใช่เบี้ยล่าง มีแต่เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นเท่านั้น และจะไม่ตกต่ำลง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:14 - และโดยที่ท่านจะต้องไม่หันเหไปจากคำบัญชาของเราในวันนี้ คือปฏิบัติตามกฎ และท่านต้องไม่หันไปเชื่อเทพเจ้าใดๆ และบูชาสิ่งเหล่านั้น
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:15 - แต่ถ้าท่านไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน หรือไม่ปฏิบัติตามพระบัญญัติและกฎเกณฑ์ของพระองค์อย่างระมัดระวัง ตามที่เราบัญชาท่านในวันนี้ คำสาปแช่งเหล่านี้จะอยู่กับท่านเสมอไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:16 - ท่านจะถูกแช่งสาปไม่ว่าจะอยู่ในตัวเมืองหรือนอกเมือง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:17 - ตะกร้าและภาชนะนวดแป้งของท่านจะถูกแช่งสาป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:18 - ลูกหลานที่เกิดจากท่านจะถูกแช่งสาป รวมทั้งพืชผลที่ได้จากไร่นา ลูกโคและลูกแกะจากฝูง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:19 - ท่านจะถูกแช่งสาป ไม่ว่าท่านจะทำอะไรอยู่ที่ไหน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:20 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้สิ่งร้ายๆ เกิดขึ้นกับท่าน ทำให้เกิดความว้าวุ่นชุลมุนและความลำเค็ญในทุกสิ่งที่ท่านทำ จนท่านถูกกำจัดและสิ้นชีวิตโดยเร็วเนื่องจากการกระทำอันชั่วร้ายของท่านที่ทอดทิ้งพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:21 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้ภัยพิบัติเกิดขึ้นกับท่านจนกระทั่งพระองค์ทำลายล้างให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดครอง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:22 - พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านประสบกับโรคระบาด เป็นไข้สูง เกิดอาการอักเสบ ร้อนราวกับไฟ แล้งฝน ลมร้อนแห้ง เชื้อราระบาดในพืช สิ่งเหล่านี้จะตามรังควานท่านจนกว่าชีวิตจะหาไม่
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:23 - และท้องฟ้าที่อยู่เหนือศีรษะท่านจะเป็นดั่งแผ่นทองสัมฤทธิ์ พื้นดินที่อยู่ใต้ท่านจะเป็นดั่งแผ่นเหล็ก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:24 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้ฝุ่นและผุยผงปลิวลงบนแผ่นดินของท่านแทนหยาดฝน ซึ่งจะปกคลุมเคลือบติดแน่นอยู่กับท่านจนกว่าท่านจะถูกกำจัดไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:25 - พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านพ่ายแพ้ต่อหน้าต่อตาพวกศัตรู ไม่ว่าท่านจะเข้าโจมตีจากทิศใดทิศหนึ่ง แต่ท่านก็จะเตลิดหนีไปทั่วทุกทิศทุกทางต่อหน้าพวกเขา และทุกๆ อาณาจักรทั่วโลกจะหวาดหวั่นเมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:26 - และศพของท่านจะเป็นเหยื่อแก่นกในอากาศและพวกสัตว์ป่าในโลก และจะไม่มีใครหลงเหลืออยู่เพื่อขับไล่สัตว์เหล่านั้นไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:27 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้ท่านรับทุกข์ทรมานจากฝีอียิปต์ จากเนื้องอก และโรคผิวหนังซึ่งคันและรักษาไม่หายขาด
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:28 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้ท่านรับทุกข์ทรมานจากโรควิกลจริต ตาบอด และจิตใจสับสน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:29 - ท่านจะคลำไปในเวลาเที่ยงวันอย่างคนตาบอดคลำในที่มืด ท่านจะทำสิ่งใดก็ไม่เจริญ และท่านจะถูกผู้คนบีบบังคับและถูกปล้นเรื่อยไป ไม่อาจมีที่พึ่งพิง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:30 - แม้ท่านจะหมั้นหญิงไว้คนหนึ่ง แต่ชายอื่นจะเป็นผู้แต่งกับเธอ ท่านจะสร้างบ้าน แต่ก็จะไม่ได้อาศัยอยู่ ท่านปลูกสวนองุ่น แต่ท่านก็จะไม่ได้กินผลของมัน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:31 - โคของท่านจะถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาท่าน แต่ท่านกลับไม่ได้กินเนื้อของมัน ลาของท่านจะถูกจับไปต่อหน้าท่าน แต่ก็จะไม่ถูกส่งกลับมาให้ท่านอีก แพะแกะของท่านจะเป็นของศัตรูของท่าน โดยไม่มีใครช่วยท่านได้
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:32 - บุตรชายบุตรหญิงของท่านจะไปเป็นของชนชาติอื่น นัยน์ตาของท่านจะเฝ้าอาลัยรอคอยพวกเขาจนอ่อนใจวันแล้ววันเล่า และท่านไม่อาจช่วยเหลือพวกเขาได้เลย
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:33 - ชนชาติที่ท่านไม่รู้จักมาก่อนจะเก็บกินพืชผลจากไร่นาและสิ่งที่ท่านลงแรงทำไว้ ท่านจะมีแต่ถูกบีบบังคับและข่มเหงเรื่อยไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:34 - ท่านจะเห็นสภาพเหล่านั้นด้วยตาของท่านเองจนอาการคลุ้มคลั่ง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:35 - พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านมีความทุกข์อันเกิดจากฝีร้ายที่หัวเข่าและขาซึ่งท่านไม่สามารถรักษาให้หายขาด มันจะลามจากฝ่าเท้าขึ้นไปจนถึงกระหม่อม
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:36 - พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านและกษัตริย์ที่ท่านแต่งตั้งให้อยู่เหนือท่าน ไปอยู่ใต้การควบคุมของประชาชาติหนึ่งซึ่งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่รู้จักมาก่อน และ ณ ที่นั้นท่านจะบูชาบรรดาเทพเจ้าซึ่งทำด้วยไม้และหิน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:37 - ท่านจะเป็นที่น่าหวาดกลัว จะเป็นดั่งคำเปรียบเปรยในสุภาษิต และเป็นที่หัวเราะเยาะในท่ามกลางชนชาติทั้งมวลที่พระผู้เป็นเจ้าจะนำท่านไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:38 - ถึงท่านจะหว่านเมล็ดในนามากมาย แต่จะเก็บเกี่ยวได้เพียงน้อยนิด เพราะฝูงจักจั่นจะกัดกินเสีย
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:39 - ถึงท่านจะเพาะปลูกและตัดแต่งสวนองุ่น แต่ท่านจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นหรือกินผลของมัน เพราะหนอนกินมันหมด
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:40 - ถึงท่านจะมีต้นมะกอกอยู่ทั่วอาณาเขตของท่าน แต่ท่านจะไม่ได้ชโลมตัวท่านเองด้วยน้ำมันมะกอก เพราะผลของมันจะร่วงหล่น
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:41 - ถึงท่านจะมีบุตรชายบุตรหญิง แต่พวกเขาจะไม่เป็นของท่านเพราะเขาจะถูกจับไปเป็นเชลยศึก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:42 - ต้นไม้ทุกต้นและพืชผลจากแผ่นดินทั้งหมดของท่านจะตกเป็นของฝูงตั๊กแตน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:43 - คนต่างด้าวที่อยู่ท่ามกลางพวกท่านจะเจริญและก้าวหน้ากว่าท่านยิ่งๆ ขึ้น และท่านจะตกต่ำลงเรื่อยๆ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:44 - เขาจะให้ท่านขอยืม และท่านจะไม่เป็นฝ่ายผู้ให้ยืม เขาจะเป็นเบี้ยบน และท่านจะเป็นเบี้ยล่าง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:45 - คำสาปแช่งดังกล่าวจะเกิดแก่ท่าน จะไล่ล่าและปราบท่านจนกว่าท่านจะหายนะ เพราะท่านไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และไม่รักษาพระบัญญัติและกฎเกณฑ์ซึ่งพระองค์บัญชาไว้
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:46 - สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นและเป็นสิ่งมหัศจรรย์แก่ท่านและบรรดาผู้สืบเชื้อสายของท่านตลอดไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:47 - เพราะท่านไม่ได้รับใช้พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านด้วยความยินดีและใจเปรมปรีดิ์ทั้งๆ ที่ท่านบริบูรณ์ด้วยทุกสิ่ง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:48 - ฉะนั้นท่านจะรับใช้พวกศัตรูที่พระผู้เป็นเจ้าจะส่งมาต่อต้านท่าน ด้วยความหิวและความกระหาย ด้วยความเปลือยเปล่าและความขัดสนในทุกสิ่ง พระองค์จะวางแอกเหล็กไว้บนคอท่านจนกว่าพระองค์จะกำจัดท่านจนสูญสิ้นไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:49 - พระผู้เป็นเจ้าจะนำประชาชาติหนึ่งจากแดนไกลจากสุดขอบโลกมาต่อต้านท่าน เป็นประชาชาติที่ใช้ภาษาที่ท่านไม่เข้าใจ พวกเขามาอย่างรวดเร็วราวกับนกอินทรีที่บินโฉบลง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:50 - เป็นประชาชาติหนึ่งที่มีหน้าตาโหดเหี้ยมและไม่นับถือคนชรา ไม่เมตตาคนหนุ่มสาว
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:51 - เขาจะกินลูกสัตว์เลี้ยงและพืชผลไร่นาของท่านอย่างตะกละตะกลามจนกระทั่งตัวท่านเองก็ถูกกำจัด อีกทั้งเมล็ดข้าว เหล้าองุ่น น้ำมันมะกอก หรือลูกโค หรือลูกแกะจากฝูงของท่าน พวกเขาก็จะไม่ให้มีเหลือไว้ให้ท่าน จนกว่าพวกเขาจะทำให้ท่านย่อยยับ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:52 - พวกเขาจะใช้กำลังล้อมทุกเมืองในแผ่นดินของท่าน แม้ท่านมั่นใจในกำแพงเมืองที่สูงและมีการคุ้มกันอย่างแข็งแกร่ง แต่กำแพงเหล่านั้นก็จะถูกพังทลายลงทั้งแผ่นดินของท่าน แล้วพวกเขาจะใช้กำลังล้อมท่านไว้ทุกเมืองทั่วแผ่นดินของท่าน อันเป็นที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้มอบให้แก่ท่านแล้ว
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:53 - และท่านจะกินลูกหลานที่เกิดจากท่านเอง เนื้อลูกชายและลูกสาวของท่านซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้ให้แก่ท่าน ในยามที่ศัตรูของท่านใช้กำลังล้อมและก่อให้ท่านเกิดความทุกข์ยากลำบาก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:54 - แม้แต่ชายที่อ่อนโยนและใส่ใจต่อความรู้สึกของผู้อื่นมากที่สุดในหมู่พวกท่านก็ยังจะหวงอาหารไม่ยอมแบ่งปันให้แก่พี่น้อง แก่ภรรยาสุดที่รักของตน หรือแก่ลูกๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่เลย
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:55 - เขาจะไม่แบ่งเนื้อของลูกตนเองที่เขากำลังกินอยู่ให้แก่ใครเลย เพราะเขาหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว เหตุก็เพราะศัตรูของท่านจะใช้กำลังล้อมและก่อความทุกข์ยากให้กับทุกๆ เมือง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:56 - หญิงที่อ่อนโยนและใส่ใจต่อความรู้สึกของผู้อื่นมากที่สุดในหมู่พวกท่าน นางเป็นคนไม่ยอมเหยียบย่างไปที่ไหนๆ เพราะนางบอบบางและอ่อนโยนยิ่งนัก นางก็ยังหวงอาหารกับสามีสุดที่รัก และกับบุตรชายบุตรหญิงของนาง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:57 - ไม่ยอมแบ่งปันรกที่ออกมาจากหว่างขาของนางและทารกที่นางคลอดด้วย เพราะนางจะแอบกินเพียงผู้เดียวในขณะที่ศัตรูก่อความทุกข์ยากในเมืองของท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:58 - ถ้าท่านไม่ระวังที่จะปฏิบัติตามคำกล่าวทั้งสิ้นในกฎบัญญัติซึ่งเขียนไว้ในหนังสือฉบับนี้ และถ้าท่านไม่เกรงกลัวพระนามอันควรแก่การยกย่องและเกรงขามคือ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:59 - แล้วพระผู้เป็นเจ้าจะให้ภัยพิบัติอันร้ายแรงเกิดแก่ท่านและลูกหลานของท่าน เป็นภัยพิบัติที่รุนแรงและต่อเนื่องเป็นเวลานาน รวมถึงโรคระบาดร้ายที่ยากต่อการยับยั้ง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:60 - และพระองค์จะให้โรคภัยทุกชนิดของอียิปต์ที่ท่านหวาดกลัวเกิดแก่ท่านอีก โดยที่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:61 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้การเจ็บป่วยทุกชนิดและภัยพิบัติที่ไม่ได้ระบุไว้ในหนังสือกฎบัญญัติฉบับนี้เกิดกับท่าน จนกระทั่งท่านถูกกำจัดไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:62 - จากจำนวนของพวกท่านเคยมีมากมายดุจดวงดาวบนท้องฟ้า ท่านจะมีเหลืออยู่เพียงไม่กี่คน เพราะท่านไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:63 - พระผู้เป็นเจ้ายินดีที่ทำให้พวกท่านเจริญและทวีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้ายินดีที่จะทำให้พวกท่านพินาศลงและกำจัดท่านเสียด้วย และท่านจะถูกถอดถอนไปเสียจากแผ่นดินที่พวกท่านกำลังจะเข้าไปยึดครอง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:64 - แล้วพระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านกระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งปวง คือจากสุดขอบโลกด้านหนึ่งจรดสุดขอบโลกอีกด้านหนึ่ง และท่านจะนมัสการบรรดาเทพเจ้าซึ่งทำด้วยไม้และหิน ซึ่งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:65 - และท่านจะไม่มีสันติสุขอยู่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และฝ่าเท้าของท่านจะไม่ได้พัก พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านหวาดหวั่น หมดหนทาง และสิ้นหวังอยู่ที่นั่น
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:66 - ชีวิตของท่านจะอยู่ในอันตรายเสมอ ท่านจะหวั่นวิตกทั้งวันและคืน และมีชีวิตที่ปราศจากความแน่นอน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:67 - ในยามเช้า ท่านจะพูดว่า ‘อยากให้ตกเย็นเสียที’ และในยามเย็น ท่านจะพูดว่า ‘อยากให้ถึงรุ่งเช้าเสียที’ เพราะใจของท่านหวั่นหวาดกับสิ่งที่จะเผชิญ และภาพที่ท่านจะเห็น
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:68 - และพระผู้เป็นเจ้าจะนำท่านกลับไปยังประเทศอียิปต์ทางเรือ ซึ่งเป็นการเดินทางที่พระองค์สัญญาไว้ว่าท่านไม่ควรต้องกลับไปอีก และที่นั่นท่านจะประกาศขายตัวเองแก่เหล่าศัตรูเพื่อเป็นทาสชายและทาสหญิง แต่ก็ไม่มีใครอยากซื้อท่านไป”
- สดุดี 107:34 - ดินที่เคยอุดมกลับกลายเป็นดินเค็ม เพราะผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่นชั่วร้าย