Brand Logo
  • 圣经
  • 资源
  • 计划
  • 联系我们
  • APP下载
  • 圣经
  • 搜索
  • 原文研究
  • 逐节对照
我的
跟随系统浅色深色简体中文香港繁體台灣繁體English
奉献
12:10 TNCV
逐节对照
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เมื่อเมฆที่อยู่เหนือพลับพลาลอยขึ้น มิเรียมก็เป็นโรคเรื้อน เป็นด่างขาวดั่งหิมะ อาโรนหันไปเห็นมิเรียมเป็นโรคเรื้อน
  • 新标点和合本 - 云彩从会幕上挪开了,不料,米利暗长了大麻风,有雪那样白。亚伦一看米利暗长了大麻风,
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 当云彩从帐幕上离开时,看哪,米利暗长了麻风,像雪那么白。亚伦转向米利暗,看哪,她长了麻风。
  • 和合本2010(神版-简体) - 当云彩从帐幕上离开时,看哪,米利暗长了麻风,像雪那么白。亚伦转向米利暗,看哪,她长了麻风。
  • 当代译本 - 云彩从会幕上离开的时候,米利暗身上患了麻风病,像雪一样白。亚伦见状,
  • 圣经新译本 - 云彩从会幕上离开,米利暗就长了大痲风,像雪那样白;亚伦转身过来看米利暗,见她长了大痲风。
  • 中文标准译本 - 云彩从会幕上方收回了,看哪,米利暗患了麻风病,像雪一样。亚伦转向米利暗,看见她患了麻风病。
  • 现代标点和合本 - 云彩从会幕上挪开了,不料,米利暗长了大麻风,有雪那样白。亚伦一看米利暗长了大麻风,
  • 和合本(拼音版) - 云彩从会幕上挪开了。不料,米利暗长了大麻风,有雪那样白。亚伦一看米利暗长了大麻风,
  • New International Version - When the cloud lifted from above the tent, Miriam’s skin was leprous —it became as white as snow. Aaron turned toward her and saw that she had a defiling skin disease,
  • New International Reader's Version - When the cloud went up from above the tent, there stood Miriam. She had a disease that made her skin as white as snow. Aaron turned toward her. He saw that she had a skin disease.
  • English Standard Version - When the cloud removed from over the tent, behold, Miriam was leprous, like snow. And Aaron turned toward Miriam, and behold, she was leprous.
  • New Living Translation - As the cloud moved from above the Tabernacle, there stood Miriam, her skin as white as snow from leprosy. When Aaron saw what had happened to her,
  • The Message - When the Cloud moved off from the Tent, oh! Miriam had turned leprous, her skin like snow. Aaron took one look at Miriam—a leper!
  • Christian Standard Bible - As the cloud moved away from the tent, Miriam’s skin suddenly became diseased, resembling snow. When Aaron turned toward her, he saw that she was diseased
  • New American Standard Bible - But when the cloud had withdrawn from above the tent, behold, Miriam was leprous, as white as snow. As Aaron turned toward Miriam, behold, she was leprous.
  • New King James Version - And when the cloud departed from above the tabernacle, suddenly Miriam became leprous, as white as snow. Then Aaron turned toward Miriam, and there she was, a leper.
  • Amplified Bible - But when the cloud had withdrawn from over the tent, behold, Miriam was leprous, as white as snow. And Aaron turned and looked at Miriam, and, behold, she was leprous.
  • American Standard Version - And the cloud removed from over the Tent; and, behold, Miriam was leprous, as white as snow: and Aaron looked upon Miriam, and, behold, she was leprous.
  • King James Version - And the cloud departed from off the tabernacle; and, behold, Miriam became leprous, white as snow: and Aaron looked upon Miriam, and, behold, she was leprous.
  • New English Translation - When the cloud departed from above the tent, Miriam became leprous as snow. Then Aaron looked at Miriam, and she was leprous!
  • World English Bible - The cloud departed from over the Tent; and behold, Miriam was leprous, as white as snow. Aaron looked at Miriam, and behold, she was leprous.
  • 新標點和合本 - 雲彩從會幕上挪開了,不料,米利暗長了大痲瘋,有雪那樣白。亞倫一看米利暗長了大痲瘋,
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 當雲彩從帳幕上離開時,看哪,米利暗長了痲瘋,像雪那麼白。亞倫轉向米利暗,看哪,她長了痲瘋。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 當雲彩從帳幕上離開時,看哪,米利暗長了痲瘋,像雪那麼白。亞倫轉向米利暗,看哪,她長了痲瘋。
  • 當代譯本 - 雲彩從會幕上離開的時候,米利暗身上患了痲瘋病,像雪一樣白。亞倫見狀,
  • 聖經新譯本 - 雲彩從會幕上離開,米利暗就長了大痲風,像雪那樣白;亞倫轉身過來看米利暗,見她長了大痲風。
  • 呂振中譯本 - 雲彩從會棚旁一挪開,哎呀, 米利暗 竟患了痲瘋屬之病了,就像雪 那麼白 ; 亞倫 向 米利暗 細看一下,只見她真地患了痲瘋屬之病了。
  • 中文標準譯本 - 雲彩從會幕上方收回了,看哪,米利暗患了痲瘋病,像雪一樣。亞倫轉向米利暗,看見她患了痲瘋病。
  • 現代標點和合本 - 雲彩從會幕上挪開了,不料,米利暗長了大痲瘋,有雪那樣白。亞倫一看米利暗長了大痲瘋,
  • 文理和合譯本 - 雲離會幕、米利暗患癩、色皎如雪、亞倫顧之、見其患癩、
  • 文理委辦譯本 - 雲亦離會幕、米哩暗患癩色皎若雪、亞倫視之、知其患癩、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 雲亦離幕、 米利暗 忽患癩、色白如雪、 亞倫 回顧 米利暗 見其患癩、
  • Nueva Versión Internacional - Tan pronto como la nube se apartó de la Tienda, a Miriam se le puso la piel blanca como la nieve. Cuando Aarón se volvió hacia ella, vio que tenía una enfermedad infecciosa.
  • 현대인의 성경 - 구름이 성막 위에서 사라지고 미리암은 갑자기 문둥병에 걸려 온 몸이 하얗게 되었다. 아론이 이것을 보고
  • Новый Русский Перевод - Когда облако поднялось от шатра, Мирьям покрылась проказой, как снегом. Аарон повернулся к ней и увидел, что она поражена проказой.
  • Восточный перевод - Когда облако поднялось от шатра, Марьям поразила проказа , её кожа стала белой, как снег. Харун повернулся к ней и увидел, что она поражена проказой.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Когда облако поднялось от шатра, Марьям поразила проказа , её кожа стала белой, как снег. Харун повернулся к ней и увидел, что она поражена проказой.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Когда облако поднялось от шатра, Марьям поразила проказа , её кожа стала белой, как снег. Хорун повернулся к ней и увидел, что она поражена проказой.
  • La Bible du Semeur 2015 - A peine la nuée avait-elle quitté la tente, que Miryam se trouva couverte d’une lèpre blanche comme la neige. Quand Aaron se tourna vers Miryam, il vit qu’elle était lépreuse.
  • リビングバイブル - そして、雲が幕屋を離れると、そのとたんミリヤムはツァラアトにかかり、見る見る肌が白くなっていきました。
  • Nova Versão Internacional - Quando a nuvem se afastou da Tenda, Miriã estava leprosa ; sua aparência era como a da neve. Arão voltou-se para Miriã, viu que ela estava com lepra
  • Hoffnung für alle - und die Wolke verschwand vom heiligen Zelt. Als Aaron sich zu Mirjam umdrehte, war ihre Haut weiß wie Schnee, denn sie war aussätzig geworden!
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Vừa khi đám mây bay khỏi nóc Đền Tạm, Mi-ri-am liền bị bệnh phong hủi trắng như tuyết. A-rôn thấy thế,
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เมื่อ​ก้อน​เมฆ​ลอย​เคลื่อน​ไป​จาก​กระโจม ดู​เถิด มิเรียม​เป็น​โรค​เรื้อน​ขาว​ราว​หิมะ อาโรน​หัน​ไป​ทาง​มิเรียม และ​ดู​เถิด นาง​เป็น​โรค​เรื้อน
交叉引用
  • 2พงศ์กษัตริย์ 15:5 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้กษัตริย์อาซาริยาห์เป็นโรคเรื้อน จนสิ้นพระชนม์ อาซาริยาห์จึงแยกประทับอยู่ในพระตำหนักต่างหาก โยธามราชโอรสของพระองค์ทรงดูแลพระราชวังและปกครองประชาชนในแผ่นดินนั้น
  • เอเสเคียล 10:18 - แล้วพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็ไปจากเหนือธรณีประตูพระวิหาร ไปหยุดอยู่เหนือเหล่าเครูบ
  • เอเสเคียล 10:19 - ขณะที่ข้าพเจ้าเฝ้าดูอยู่ เหล่าเครูบก็กางปีกบินขึ้นจากพื้น เมื่อเคลื่อนไป วงล้อก็เคลื่อนไปด้วย เครูบและวงล้อมาหยุดอยู่ที่ทางเข้าประตูทางตะวันออกของพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า และพระเกียรติสิริของพระเจ้าแห่งอิสราเอลอยู่เหนือเครูบ
  • อพยพ 4:6 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงเอามือสอดเข้าไปในเสื้อคลุม” เมื่อโมเสสทำเช่นนั้นแล้วชักมือออกมา ผิวหนังก็กลายเป็นโรคเรื้อน ขาวเหมือนหิมะ
  • เอเสเคียล 10:4 - แล้วพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็เคลื่อนขึ้นจากเหนือเหล่าเครูบนั้นมายังธรณีประตูพระวิหาร เมฆปกคลุมพระวิหาร และทั่วลานพระวิหารเต็มไปด้วยรังสีเจิดจ้าแห่งพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้า
  • เอเสเคียล 10:5 - เสียงปีกของเหล่าเครูบได้ยินไปไกลถึงลานชั้นนอกเหมือนพระสุรเสียงของพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์
  • มัทธิว 25:41 - “แล้วพระองค์จะตรัสกับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายของพระองค์ว่า ‘จงไปเสียจากเรา เจ้าทั้งหลายผู้ถูกสาปแช่ง จงไปยังไฟนิรันดร์ที่เตรียมไว้สำหรับมารร้ายกับสมุนของมัน
  • อพยพ 33:7 - โมเสสเคยตั้งเต็นท์หลังหนึ่งไว้นอกค่าย ไกลออกมาหน่อยหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า “เต็นท์นัดพบ” ทุกคนที่ต้องการคำปรึกษาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไปที่เต็นท์นัดพบซึ่งอยู่นอกค่ายนั้น
  • อพยพ 33:8 - เมื่อใดก็ตามที่โมเสสออกไปที่เต็นท์นัดพบ ประชากรทั้งหมดจะลุกขึ้นยืนอยู่ตรงทางเข้าเต็นท์ของตนคอยดูจนโมเสสเข้าไปในเต็นท์นัดพบ
  • อพยพ 33:9 - เมื่อโมเสสเข้าไป เสาเมฆจะเคลื่อนมาหยุดอยู่ตรงทางเข้าขณะที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสส
  • อพยพ 33:10 - ทุกครั้งที่ประชากรเห็นเสาเมฆอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ พวกเขาทุกคนก็จะยืนนมัสการอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์ของตน
  • เลวีนิติ 13:2 - “หากผู้ใดเกิดอาการบวมที่ผิวหนัง หรือเป็นผื่น หรือมีรอยด่าง ให้สงสัยว่าเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง จะต้องนำผู้นั้นมาพบปุโรหิตอาโรนหรือบุตรชาย คนหนึ่งคนใดของอาโรนที่เป็นปุโรหิต
  • เลวีนิติ 13:3 - ปุโรหิตจะต้องตรวจดูรอยโรคของผู้นั้น หากขนบนผิวหนังบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวและรอยโรคนี้ลามลึก กว่าผิวหนังลงไป แสดงว่าเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทินตามระเบียบพิธี
  • เลวีนิติ 13:4 - แต่หากผิวหนังบริเวณนี้เป็นด่างแต่ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และขนในบริเวณดังกล่าวก็ไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว ปุโรหิตจะต้องกักตัวเขาไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน
  • เลวีนิติ 13:5 - ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะตรวจผู้นั้นอีกครั้ง หากบริเวณที่บวมดังกล่าวยังอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง ปุโรหิตก็จะกักตัวเขาไว้อีกเจ็ดวัน
  • เลวีนิติ 13:6 - ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะตรวจผู้นั้นอีกครั้ง หากรอยโรคดีขึ้น ไม่ได้ลามลึกลงไป ปุโรหิตก็จะประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน เป็นเพียงผื่นธรรมดา ผู้นั้นต้องซักเสื้อผ้าของตน แล้วเขาก็จะสะอาด
  • เลวีนิติ 13:7 - แต่หากผื่นนั้นเห่อลามไปหลังจากที่เขาให้ปุโรหิตตรวจดูหนหนึ่งแล้ว เขาจะต้องกลับมาหาปุโรหิตอีก
  • เลวีนิติ 13:8 - ปุโรหิตจะตรวจเขาใหม่ หากเห็นว่าผื่นนั้นเห่อลามตามผิวหนังก็จะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เขาเป็นโรคติดต่อ
  • เลวีนิติ 13:9 - “หากผู้ใดเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง ต้องนำเขาไปพบปุโรหิต
  • เลวีนิติ 13:10 - แล้วปุโรหิตจะตรวจผู้นั้น หากเขามีอาการบวมซีดที่ผิวหนัง ขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาว และรอยบวมนั้นปริแตกเป็นแผล
  • เลวีนิติ 13:11 - เขาก็เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทินโดยไม่ต้องกักตัวไว้ดูอาการอีก เพราะเขาเป็นมลทินแล้ว
  • เลวีนิติ 13:12 - “แต่หากปุโรหิตเห็นว่ารอยโรคนั้นกระจายไปทั่วตั้งแต่ศีรษะจดเท้า
  • เลวีนิติ 13:13 - ปุโรหิตต้องตรวจดูเขา หากรอยโรคนั้นปกคลุมไปทั้งตัว ให้ประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน เนื่องจากร่างกายของเขากลายเป็นด่างขาวไปทั้งตัว เขาจึงสะอาดไม่เป็นโรคติดต่อ
  • เลวีนิติ 13:14 - แต่เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายของเขามีแผล ผู้นั้นก็เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:15 - เมื่อปุโรหิตพบเห็นรอยแผลนั้น ให้ประกาศว่าเขาเป็นมลทิน รอยแผลนั้นไม่สะอาด ทำให้เขาเป็นโรคติดต่อ
  • เลวีนิติ 13:16 - หากรอยแผลนั้นตกสะเก็ด ให้เขากลับไปหาปุโรหิต
  • เลวีนิติ 13:17 - ปุโรหิตจะตรวจดูอีกครั้ง หากแผลนั้นหายแห้งดีแล้ว ปุโรหิตก็จะประกาศว่าเขาหายจากโรคติดต่อ เขาสะอาดพ้นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:18 - “หากผู้ใดเป็นฝีและหายแล้ว
  • เลวีนิติ 13:19 - แต่รอยฝีเกิดอาการบวมด่างหรือเปลี่ยนเป็นสีขาวอมชมพูเรื่อๆ ผู้นั้นต้องไปให้ปุโรหิตตรวจดู
  • เลวีนิติ 13:20 - หากอาการลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาว ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน โรคติดต่อทางผิวหนังได้ลามออกมาจากฝีนั้น
  • เลวีนิติ 13:21 - แต่เมื่อปุโรหิตตรวจดูแล้ว ขนบริเวณนั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว และรอยโรคนั้นไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง อีกทั้งสีก็กำลังจางลง ให้ปุโรหิตกักตัวเขาไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน
  • เลวีนิติ 13:22 - หากโรคนั้นลามออกไปตามผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เป็นโรคติดต่อ
  • เลวีนิติ 13:23 - แต่หากลักษณะของรอยโรคนั้นไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ลุกลามออกไป รอยนี้ก็เป็นเพียงแผลเป็นหลังจากเป็นฝี ปุโรหิตก็จะประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:24 - “หากผู้ใดมีแผลไฟไหม้และแผลนี้กลายเป็นสีขาวหรือสีขาวอมชมพูเรื่อๆ
  • เลวีนิติ 13:25 - ให้ปุโรหิตตรวจดูรอยนั้น ถ้าขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวและอาการลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง โรคติดต่อได้ลามจากรอยไหม้นั้นแล้ว ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง
  • เลวีนิติ 13:26 - หากปุโรหิตตรวจดูพบว่าขนบริเวณนั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว และรอยแผลนั้นก็ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง อีกทั้งสีก็กำลังจางลง ให้ปุโรหิตกักตัวเขาไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน
  • เลวีนิติ 13:27 - ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะตรวจผู้นั้นอีกครั้ง หากแผลนั้นลุกลามออกไป ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง
  • เลวีนิติ 13:28 - หากลักษณะของแผลนั้นไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ได้ลุกลามออกไป แต่กำลังจางลง รอยนี้ก็เป็นเพียงรอยบวมหรือแผลเป็นจากไฟไหม้ ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:29 - “หากชายหรือหญิงคนใดมีแผลที่ศีรษะหรือคาง
  • เลวีนิติ 13:30 - ให้ปุโรหิตตรวจดูแผลนั้น หากแผลลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและบางลง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เป็นแผลคัน เป็นโรคติดต่อที่ศีรษะหรือคาง
  • เลวีนิติ 13:31 - แต่หากปุโรหิตตรวจพบว่าแผลคันนั้นไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และไม่มีขนสีดำในบริเวณนั้น ให้กักคนนั้นไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน
  • เลวีนิติ 13:32 - ในวันที่เจ็ดให้ปุโรหิตตรวจดูผู้นั้น หากแผลคันไม่ได้ลามไปและไม่ได้มีขนสีเหลืองขึ้นมา อีกทั้งแผลนี้ก็ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง
  • เลวีนิติ 13:33 - จะต้องโกนขนบริเวณรอบๆ แผลนั้นออก และปุโรหิตจะกักตัวเขาไว้อีกเจ็ดวัน
  • เลวีนิติ 13:34 - ในวันที่เจ็ดให้ปุโรหิตตรวจผู้นั้นอีก หากแผลคันนี้ไม่ได้ลามไปและไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาสะอาด เขาต้องซักเสื้อผ้าและถือว่าเขาปราศจากมลทิน
  • เลวีนิติ 13:35 - แต่ถ้าแผลคันนั้นลามออกไปหลังจากประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทินแล้ว
  • เลวีนิติ 13:36 - ปุโรหิตจะตรวจอีกครั้ง หากแผลคันนั้นลามออกไปก็ประกาศว่าเขาเป็นมลทินโดยไม่ต้องรอดูว่ามีขนสีเหลืองหรือไม่
  • เลวีนิติ 13:37 - แต่หากปุโรหิตเห็นว่าแผลนั้นไม่ลามออกไปและมีขนสีดำขึ้นบริเวณนั้น แผลคันนั้นก็หายแล้ว เขาก็ไม่เป็นมลทิน และปุโรหิตจะประกาศว่าเขาสะอาด ไม่เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:38 - “หากชายหรือหญิงคนใดมีรอยด่างขาวขึ้นที่ผิวหนัง
  • เลวีนิติ 13:39 - ให้ปุโรหิตตรวจดู หากรอยเหล่านี้คล้ำลง รอยที่ขึ้นบนผิวหนังประเภทนี้ก็เป็นเพียงผื่นที่ไม่เป็นอันตราย เขาก็ไม่เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:40 - “หากชายคนใดผมร่วงจนหัวล้านเลี่ยน เขาก็ไม่เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:41 - หากผมบริเวณหน้าผากร่วงจนเถิก เขาก็ไม่เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:42 - แต่ถ้าบริเวณที่ล้านนั้นมีรอยแดงเรื่อๆ ก็เป็นโรคติดต่อที่ศีรษะหรือหน้าผาก
  • เลวีนิติ 13:43 - ปุโรหิตจะตรวจดู หากมีแผลบวมแดงเรื่อๆ ที่ศีรษะหรือหน้าผากคล้ายโรคติดต่อทางผิวหนัง
  • เลวีนิติ 13:44 - ชายผู้นี้ก็เป็นโรคติดต่อและเป็นมลทิน ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทินเพราะแผลบนศีรษะของเขา
  • เลวีนิติ 13:45 - “ผู้ใดถูกตรวจพบว่าเป็นโรคติดต่อ ผู้นั้นต้องสวมเสื้อผ้าฉีกขาด ปล่อยผมรุงรังปิดส่วนล่างของใบหน้าและร้องว่า ‘เป็นมลทิน! เป็นมลทิน!’
  • เลวีนิติ 13:46 - ตราบใดที่เขายังเป็นโรคติดต่อ เขาก็เป็นมลทิน และเขาต้องอยู่ตามลำพังนอกค่าย
  • 2พงศาวดาร 26:19 - อุสซียาห์ซึ่งถือกระถางไฟพร้อมที่จะเผาเครื่องหอมได้ยินดังนั้นก็โกรธ และเมื่อพระองค์เกรี้ยวกราดใส่ปุโรหิตที่หน้าแท่นเผาเครื่องหอมในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า โรคเรื้อน ก็ปรากฏขึ้นที่หน้าผากของพระองค์
  • 2พงศาวดาร 26:20 - เมื่อหัวหน้าปุโรหิตอาซาริยาห์และปุโรหิตอื่นๆ เห็นโรคเรื้อนบนหน้าผากของพระองค์ก็ผลักไสพระองค์ออกไป อันที่จริงอุสซียาห์เองก็ร้อนพระทัยจะออกไปอยู่แล้วเพราะถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าลงโทษ
  • 2พงศาวดาร 26:21 - กษัตริย์อุสซียาห์ทรงเป็นโรคเรื้อนจนสิ้นพระชนม์ และประทับแยกอยู่ในพระตำหนักต่างหาก ถูกตัดขาดจากพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า โยธามราชโอรสของพระองค์ทรงดูแลพระราชวังและปกครองประชาชนในแผ่นดินนั้น
  • โฮเชยา 9:12 - ถึงแม้พวกเขาจะเลี้ยงดูลูกๆ ได้ เราก็จะพรากทุกคนไปจากพวกเขา วิบัติแก่พวกเขา เมื่อเราหันหนีไปจากพวกเขา!
  • 2พงศ์กษัตริย์ 5:27 - โรคเรื้อนของนาอามานจะติดตัวเจ้ากับลูกหลานตลอดไป” แล้วเกหะซีก็เป็นโรคเรื้อน เดินออกไปจากเอลีชา ผิวของเขาเป็นด่างขาวเหมือนหิมะ
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 24:9 - จงจดจำสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงทำต่อมิเรียมระหว่างทางหลังจากที่ท่านออกจากอียิปต์
逐节对照交叉引用
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เมื่อเมฆที่อยู่เหนือพลับพลาลอยขึ้น มิเรียมก็เป็นโรคเรื้อน เป็นด่างขาวดั่งหิมะ อาโรนหันไปเห็นมิเรียมเป็นโรคเรื้อน
  • 新标点和合本 - 云彩从会幕上挪开了,不料,米利暗长了大麻风,有雪那样白。亚伦一看米利暗长了大麻风,
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 当云彩从帐幕上离开时,看哪,米利暗长了麻风,像雪那么白。亚伦转向米利暗,看哪,她长了麻风。
  • 和合本2010(神版-简体) - 当云彩从帐幕上离开时,看哪,米利暗长了麻风,像雪那么白。亚伦转向米利暗,看哪,她长了麻风。
  • 当代译本 - 云彩从会幕上离开的时候,米利暗身上患了麻风病,像雪一样白。亚伦见状,
  • 圣经新译本 - 云彩从会幕上离开,米利暗就长了大痲风,像雪那样白;亚伦转身过来看米利暗,见她长了大痲风。
  • 中文标准译本 - 云彩从会幕上方收回了,看哪,米利暗患了麻风病,像雪一样。亚伦转向米利暗,看见她患了麻风病。
  • 现代标点和合本 - 云彩从会幕上挪开了,不料,米利暗长了大麻风,有雪那样白。亚伦一看米利暗长了大麻风,
  • 和合本(拼音版) - 云彩从会幕上挪开了。不料,米利暗长了大麻风,有雪那样白。亚伦一看米利暗长了大麻风,
  • New International Version - When the cloud lifted from above the tent, Miriam’s skin was leprous —it became as white as snow. Aaron turned toward her and saw that she had a defiling skin disease,
  • New International Reader's Version - When the cloud went up from above the tent, there stood Miriam. She had a disease that made her skin as white as snow. Aaron turned toward her. He saw that she had a skin disease.
  • English Standard Version - When the cloud removed from over the tent, behold, Miriam was leprous, like snow. And Aaron turned toward Miriam, and behold, she was leprous.
  • New Living Translation - As the cloud moved from above the Tabernacle, there stood Miriam, her skin as white as snow from leprosy. When Aaron saw what had happened to her,
  • The Message - When the Cloud moved off from the Tent, oh! Miriam had turned leprous, her skin like snow. Aaron took one look at Miriam—a leper!
  • Christian Standard Bible - As the cloud moved away from the tent, Miriam’s skin suddenly became diseased, resembling snow. When Aaron turned toward her, he saw that she was diseased
  • New American Standard Bible - But when the cloud had withdrawn from above the tent, behold, Miriam was leprous, as white as snow. As Aaron turned toward Miriam, behold, she was leprous.
  • New King James Version - And when the cloud departed from above the tabernacle, suddenly Miriam became leprous, as white as snow. Then Aaron turned toward Miriam, and there she was, a leper.
  • Amplified Bible - But when the cloud had withdrawn from over the tent, behold, Miriam was leprous, as white as snow. And Aaron turned and looked at Miriam, and, behold, she was leprous.
  • American Standard Version - And the cloud removed from over the Tent; and, behold, Miriam was leprous, as white as snow: and Aaron looked upon Miriam, and, behold, she was leprous.
  • King James Version - And the cloud departed from off the tabernacle; and, behold, Miriam became leprous, white as snow: and Aaron looked upon Miriam, and, behold, she was leprous.
  • New English Translation - When the cloud departed from above the tent, Miriam became leprous as snow. Then Aaron looked at Miriam, and she was leprous!
  • World English Bible - The cloud departed from over the Tent; and behold, Miriam was leprous, as white as snow. Aaron looked at Miriam, and behold, she was leprous.
  • 新標點和合本 - 雲彩從會幕上挪開了,不料,米利暗長了大痲瘋,有雪那樣白。亞倫一看米利暗長了大痲瘋,
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 當雲彩從帳幕上離開時,看哪,米利暗長了痲瘋,像雪那麼白。亞倫轉向米利暗,看哪,她長了痲瘋。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 當雲彩從帳幕上離開時,看哪,米利暗長了痲瘋,像雪那麼白。亞倫轉向米利暗,看哪,她長了痲瘋。
  • 當代譯本 - 雲彩從會幕上離開的時候,米利暗身上患了痲瘋病,像雪一樣白。亞倫見狀,
  • 聖經新譯本 - 雲彩從會幕上離開,米利暗就長了大痲風,像雪那樣白;亞倫轉身過來看米利暗,見她長了大痲風。
  • 呂振中譯本 - 雲彩從會棚旁一挪開,哎呀, 米利暗 竟患了痲瘋屬之病了,就像雪 那麼白 ; 亞倫 向 米利暗 細看一下,只見她真地患了痲瘋屬之病了。
  • 中文標準譯本 - 雲彩從會幕上方收回了,看哪,米利暗患了痲瘋病,像雪一樣。亞倫轉向米利暗,看見她患了痲瘋病。
  • 現代標點和合本 - 雲彩從會幕上挪開了,不料,米利暗長了大痲瘋,有雪那樣白。亞倫一看米利暗長了大痲瘋,
  • 文理和合譯本 - 雲離會幕、米利暗患癩、色皎如雪、亞倫顧之、見其患癩、
  • 文理委辦譯本 - 雲亦離會幕、米哩暗患癩色皎若雪、亞倫視之、知其患癩、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 雲亦離幕、 米利暗 忽患癩、色白如雪、 亞倫 回顧 米利暗 見其患癩、
  • Nueva Versión Internacional - Tan pronto como la nube se apartó de la Tienda, a Miriam se le puso la piel blanca como la nieve. Cuando Aarón se volvió hacia ella, vio que tenía una enfermedad infecciosa.
  • 현대인의 성경 - 구름이 성막 위에서 사라지고 미리암은 갑자기 문둥병에 걸려 온 몸이 하얗게 되었다. 아론이 이것을 보고
  • Новый Русский Перевод - Когда облако поднялось от шатра, Мирьям покрылась проказой, как снегом. Аарон повернулся к ней и увидел, что она поражена проказой.
  • Восточный перевод - Когда облако поднялось от шатра, Марьям поразила проказа , её кожа стала белой, как снег. Харун повернулся к ней и увидел, что она поражена проказой.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Когда облако поднялось от шатра, Марьям поразила проказа , её кожа стала белой, как снег. Харун повернулся к ней и увидел, что она поражена проказой.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Когда облако поднялось от шатра, Марьям поразила проказа , её кожа стала белой, как снег. Хорун повернулся к ней и увидел, что она поражена проказой.
  • La Bible du Semeur 2015 - A peine la nuée avait-elle quitté la tente, que Miryam se trouva couverte d’une lèpre blanche comme la neige. Quand Aaron se tourna vers Miryam, il vit qu’elle était lépreuse.
  • リビングバイブル - そして、雲が幕屋を離れると、そのとたんミリヤムはツァラアトにかかり、見る見る肌が白くなっていきました。
  • Nova Versão Internacional - Quando a nuvem se afastou da Tenda, Miriã estava leprosa ; sua aparência era como a da neve. Arão voltou-se para Miriã, viu que ela estava com lepra
  • Hoffnung für alle - und die Wolke verschwand vom heiligen Zelt. Als Aaron sich zu Mirjam umdrehte, war ihre Haut weiß wie Schnee, denn sie war aussätzig geworden!
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Vừa khi đám mây bay khỏi nóc Đền Tạm, Mi-ri-am liền bị bệnh phong hủi trắng như tuyết. A-rôn thấy thế,
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เมื่อ​ก้อน​เมฆ​ลอย​เคลื่อน​ไป​จาก​กระโจม ดู​เถิด มิเรียม​เป็น​โรค​เรื้อน​ขาว​ราว​หิมะ อาโรน​หัน​ไป​ทาง​มิเรียม และ​ดู​เถิด นาง​เป็น​โรค​เรื้อน
  • 2พงศ์กษัตริย์ 15:5 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้กษัตริย์อาซาริยาห์เป็นโรคเรื้อน จนสิ้นพระชนม์ อาซาริยาห์จึงแยกประทับอยู่ในพระตำหนักต่างหาก โยธามราชโอรสของพระองค์ทรงดูแลพระราชวังและปกครองประชาชนในแผ่นดินนั้น
  • เอเสเคียล 10:18 - แล้วพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็ไปจากเหนือธรณีประตูพระวิหาร ไปหยุดอยู่เหนือเหล่าเครูบ
  • เอเสเคียล 10:19 - ขณะที่ข้าพเจ้าเฝ้าดูอยู่ เหล่าเครูบก็กางปีกบินขึ้นจากพื้น เมื่อเคลื่อนไป วงล้อก็เคลื่อนไปด้วย เครูบและวงล้อมาหยุดอยู่ที่ทางเข้าประตูทางตะวันออกของพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า และพระเกียรติสิริของพระเจ้าแห่งอิสราเอลอยู่เหนือเครูบ
  • อพยพ 4:6 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงเอามือสอดเข้าไปในเสื้อคลุม” เมื่อโมเสสทำเช่นนั้นแล้วชักมือออกมา ผิวหนังก็กลายเป็นโรคเรื้อน ขาวเหมือนหิมะ
  • เอเสเคียล 10:4 - แล้วพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็เคลื่อนขึ้นจากเหนือเหล่าเครูบนั้นมายังธรณีประตูพระวิหาร เมฆปกคลุมพระวิหาร และทั่วลานพระวิหารเต็มไปด้วยรังสีเจิดจ้าแห่งพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้า
  • เอเสเคียล 10:5 - เสียงปีกของเหล่าเครูบได้ยินไปไกลถึงลานชั้นนอกเหมือนพระสุรเสียงของพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์
  • มัทธิว 25:41 - “แล้วพระองค์จะตรัสกับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายของพระองค์ว่า ‘จงไปเสียจากเรา เจ้าทั้งหลายผู้ถูกสาปแช่ง จงไปยังไฟนิรันดร์ที่เตรียมไว้สำหรับมารร้ายกับสมุนของมัน
  • อพยพ 33:7 - โมเสสเคยตั้งเต็นท์หลังหนึ่งไว้นอกค่าย ไกลออกมาหน่อยหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า “เต็นท์นัดพบ” ทุกคนที่ต้องการคำปรึกษาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไปที่เต็นท์นัดพบซึ่งอยู่นอกค่ายนั้น
  • อพยพ 33:8 - เมื่อใดก็ตามที่โมเสสออกไปที่เต็นท์นัดพบ ประชากรทั้งหมดจะลุกขึ้นยืนอยู่ตรงทางเข้าเต็นท์ของตนคอยดูจนโมเสสเข้าไปในเต็นท์นัดพบ
  • อพยพ 33:9 - เมื่อโมเสสเข้าไป เสาเมฆจะเคลื่อนมาหยุดอยู่ตรงทางเข้าขณะที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสส
  • อพยพ 33:10 - ทุกครั้งที่ประชากรเห็นเสาเมฆอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ พวกเขาทุกคนก็จะยืนนมัสการอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์ของตน
  • เลวีนิติ 13:2 - “หากผู้ใดเกิดอาการบวมที่ผิวหนัง หรือเป็นผื่น หรือมีรอยด่าง ให้สงสัยว่าเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง จะต้องนำผู้นั้นมาพบปุโรหิตอาโรนหรือบุตรชาย คนหนึ่งคนใดของอาโรนที่เป็นปุโรหิต
  • เลวีนิติ 13:3 - ปุโรหิตจะต้องตรวจดูรอยโรคของผู้นั้น หากขนบนผิวหนังบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวและรอยโรคนี้ลามลึก กว่าผิวหนังลงไป แสดงว่าเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทินตามระเบียบพิธี
  • เลวีนิติ 13:4 - แต่หากผิวหนังบริเวณนี้เป็นด่างแต่ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และขนในบริเวณดังกล่าวก็ไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว ปุโรหิตจะต้องกักตัวเขาไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน
  • เลวีนิติ 13:5 - ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะตรวจผู้นั้นอีกครั้ง หากบริเวณที่บวมดังกล่าวยังอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง ปุโรหิตก็จะกักตัวเขาไว้อีกเจ็ดวัน
  • เลวีนิติ 13:6 - ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะตรวจผู้นั้นอีกครั้ง หากรอยโรคดีขึ้น ไม่ได้ลามลึกลงไป ปุโรหิตก็จะประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน เป็นเพียงผื่นธรรมดา ผู้นั้นต้องซักเสื้อผ้าของตน แล้วเขาก็จะสะอาด
  • เลวีนิติ 13:7 - แต่หากผื่นนั้นเห่อลามไปหลังจากที่เขาให้ปุโรหิตตรวจดูหนหนึ่งแล้ว เขาจะต้องกลับมาหาปุโรหิตอีก
  • เลวีนิติ 13:8 - ปุโรหิตจะตรวจเขาใหม่ หากเห็นว่าผื่นนั้นเห่อลามตามผิวหนังก็จะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เขาเป็นโรคติดต่อ
  • เลวีนิติ 13:9 - “หากผู้ใดเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง ต้องนำเขาไปพบปุโรหิต
  • เลวีนิติ 13:10 - แล้วปุโรหิตจะตรวจผู้นั้น หากเขามีอาการบวมซีดที่ผิวหนัง ขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาว และรอยบวมนั้นปริแตกเป็นแผล
  • เลวีนิติ 13:11 - เขาก็เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทินโดยไม่ต้องกักตัวไว้ดูอาการอีก เพราะเขาเป็นมลทินแล้ว
  • เลวีนิติ 13:12 - “แต่หากปุโรหิตเห็นว่ารอยโรคนั้นกระจายไปทั่วตั้งแต่ศีรษะจดเท้า
  • เลวีนิติ 13:13 - ปุโรหิตต้องตรวจดูเขา หากรอยโรคนั้นปกคลุมไปทั้งตัว ให้ประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน เนื่องจากร่างกายของเขากลายเป็นด่างขาวไปทั้งตัว เขาจึงสะอาดไม่เป็นโรคติดต่อ
  • เลวีนิติ 13:14 - แต่เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายของเขามีแผล ผู้นั้นก็เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:15 - เมื่อปุโรหิตพบเห็นรอยแผลนั้น ให้ประกาศว่าเขาเป็นมลทิน รอยแผลนั้นไม่สะอาด ทำให้เขาเป็นโรคติดต่อ
  • เลวีนิติ 13:16 - หากรอยแผลนั้นตกสะเก็ด ให้เขากลับไปหาปุโรหิต
  • เลวีนิติ 13:17 - ปุโรหิตจะตรวจดูอีกครั้ง หากแผลนั้นหายแห้งดีแล้ว ปุโรหิตก็จะประกาศว่าเขาหายจากโรคติดต่อ เขาสะอาดพ้นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:18 - “หากผู้ใดเป็นฝีและหายแล้ว
  • เลวีนิติ 13:19 - แต่รอยฝีเกิดอาการบวมด่างหรือเปลี่ยนเป็นสีขาวอมชมพูเรื่อๆ ผู้นั้นต้องไปให้ปุโรหิตตรวจดู
  • เลวีนิติ 13:20 - หากอาการลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาว ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน โรคติดต่อทางผิวหนังได้ลามออกมาจากฝีนั้น
  • เลวีนิติ 13:21 - แต่เมื่อปุโรหิตตรวจดูแล้ว ขนบริเวณนั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว และรอยโรคนั้นไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง อีกทั้งสีก็กำลังจางลง ให้ปุโรหิตกักตัวเขาไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน
  • เลวีนิติ 13:22 - หากโรคนั้นลามออกไปตามผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เป็นโรคติดต่อ
  • เลวีนิติ 13:23 - แต่หากลักษณะของรอยโรคนั้นไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ลุกลามออกไป รอยนี้ก็เป็นเพียงแผลเป็นหลังจากเป็นฝี ปุโรหิตก็จะประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:24 - “หากผู้ใดมีแผลไฟไหม้และแผลนี้กลายเป็นสีขาวหรือสีขาวอมชมพูเรื่อๆ
  • เลวีนิติ 13:25 - ให้ปุโรหิตตรวจดูรอยนั้น ถ้าขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวและอาการลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง โรคติดต่อได้ลามจากรอยไหม้นั้นแล้ว ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง
  • เลวีนิติ 13:26 - หากปุโรหิตตรวจดูพบว่าขนบริเวณนั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว และรอยแผลนั้นก็ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง อีกทั้งสีก็กำลังจางลง ให้ปุโรหิตกักตัวเขาไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน
  • เลวีนิติ 13:27 - ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะตรวจผู้นั้นอีกครั้ง หากแผลนั้นลุกลามออกไป ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง
  • เลวีนิติ 13:28 - หากลักษณะของแผลนั้นไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ได้ลุกลามออกไป แต่กำลังจางลง รอยนี้ก็เป็นเพียงรอยบวมหรือแผลเป็นจากไฟไหม้ ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:29 - “หากชายหรือหญิงคนใดมีแผลที่ศีรษะหรือคาง
  • เลวีนิติ 13:30 - ให้ปุโรหิตตรวจดูแผลนั้น หากแผลลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและบางลง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เป็นแผลคัน เป็นโรคติดต่อที่ศีรษะหรือคาง
  • เลวีนิติ 13:31 - แต่หากปุโรหิตตรวจพบว่าแผลคันนั้นไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และไม่มีขนสีดำในบริเวณนั้น ให้กักคนนั้นไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน
  • เลวีนิติ 13:32 - ในวันที่เจ็ดให้ปุโรหิตตรวจดูผู้นั้น หากแผลคันไม่ได้ลามไปและไม่ได้มีขนสีเหลืองขึ้นมา อีกทั้งแผลนี้ก็ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง
  • เลวีนิติ 13:33 - จะต้องโกนขนบริเวณรอบๆ แผลนั้นออก และปุโรหิตจะกักตัวเขาไว้อีกเจ็ดวัน
  • เลวีนิติ 13:34 - ในวันที่เจ็ดให้ปุโรหิตตรวจผู้นั้นอีก หากแผลคันนี้ไม่ได้ลามไปและไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาสะอาด เขาต้องซักเสื้อผ้าและถือว่าเขาปราศจากมลทิน
  • เลวีนิติ 13:35 - แต่ถ้าแผลคันนั้นลามออกไปหลังจากประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทินแล้ว
  • เลวีนิติ 13:36 - ปุโรหิตจะตรวจอีกครั้ง หากแผลคันนั้นลามออกไปก็ประกาศว่าเขาเป็นมลทินโดยไม่ต้องรอดูว่ามีขนสีเหลืองหรือไม่
  • เลวีนิติ 13:37 - แต่หากปุโรหิตเห็นว่าแผลนั้นไม่ลามออกไปและมีขนสีดำขึ้นบริเวณนั้น แผลคันนั้นก็หายแล้ว เขาก็ไม่เป็นมลทิน และปุโรหิตจะประกาศว่าเขาสะอาด ไม่เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:38 - “หากชายหรือหญิงคนใดมีรอยด่างขาวขึ้นที่ผิวหนัง
  • เลวีนิติ 13:39 - ให้ปุโรหิตตรวจดู หากรอยเหล่านี้คล้ำลง รอยที่ขึ้นบนผิวหนังประเภทนี้ก็เป็นเพียงผื่นที่ไม่เป็นอันตราย เขาก็ไม่เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:40 - “หากชายคนใดผมร่วงจนหัวล้านเลี่ยน เขาก็ไม่เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:41 - หากผมบริเวณหน้าผากร่วงจนเถิก เขาก็ไม่เป็นมลทิน
  • เลวีนิติ 13:42 - แต่ถ้าบริเวณที่ล้านนั้นมีรอยแดงเรื่อๆ ก็เป็นโรคติดต่อที่ศีรษะหรือหน้าผาก
  • เลวีนิติ 13:43 - ปุโรหิตจะตรวจดู หากมีแผลบวมแดงเรื่อๆ ที่ศีรษะหรือหน้าผากคล้ายโรคติดต่อทางผิวหนัง
  • เลวีนิติ 13:44 - ชายผู้นี้ก็เป็นโรคติดต่อและเป็นมลทิน ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทินเพราะแผลบนศีรษะของเขา
  • เลวีนิติ 13:45 - “ผู้ใดถูกตรวจพบว่าเป็นโรคติดต่อ ผู้นั้นต้องสวมเสื้อผ้าฉีกขาด ปล่อยผมรุงรังปิดส่วนล่างของใบหน้าและร้องว่า ‘เป็นมลทิน! เป็นมลทิน!’
  • เลวีนิติ 13:46 - ตราบใดที่เขายังเป็นโรคติดต่อ เขาก็เป็นมลทิน และเขาต้องอยู่ตามลำพังนอกค่าย
  • 2พงศาวดาร 26:19 - อุสซียาห์ซึ่งถือกระถางไฟพร้อมที่จะเผาเครื่องหอมได้ยินดังนั้นก็โกรธ และเมื่อพระองค์เกรี้ยวกราดใส่ปุโรหิตที่หน้าแท่นเผาเครื่องหอมในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า โรคเรื้อน ก็ปรากฏขึ้นที่หน้าผากของพระองค์
  • 2พงศาวดาร 26:20 - เมื่อหัวหน้าปุโรหิตอาซาริยาห์และปุโรหิตอื่นๆ เห็นโรคเรื้อนบนหน้าผากของพระองค์ก็ผลักไสพระองค์ออกไป อันที่จริงอุสซียาห์เองก็ร้อนพระทัยจะออกไปอยู่แล้วเพราะถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าลงโทษ
  • 2พงศาวดาร 26:21 - กษัตริย์อุสซียาห์ทรงเป็นโรคเรื้อนจนสิ้นพระชนม์ และประทับแยกอยู่ในพระตำหนักต่างหาก ถูกตัดขาดจากพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า โยธามราชโอรสของพระองค์ทรงดูแลพระราชวังและปกครองประชาชนในแผ่นดินนั้น
  • โฮเชยา 9:12 - ถึงแม้พวกเขาจะเลี้ยงดูลูกๆ ได้ เราก็จะพรากทุกคนไปจากพวกเขา วิบัติแก่พวกเขา เมื่อเราหันหนีไปจากพวกเขา!
  • 2พงศ์กษัตริย์ 5:27 - โรคเรื้อนของนาอามานจะติดตัวเจ้ากับลูกหลานตลอดไป” แล้วเกหะซีก็เป็นโรคเรื้อน เดินออกไปจากเอลีชา ผิวของเขาเป็นด่างขาวเหมือนหิมะ
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 24:9 - จงจดจำสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงทำต่อมิเรียมระหว่างทางหลังจากที่ท่านออกจากอียิปต์
圣经
资源
计划
奉献