逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แต่ถ้าการมดเท็จของข้าพเจ้าทำให้ความสัตย์จริงของพระเจ้าปรากฏชัดยิ่งขึ้น และเพิ่มพูนพระบารมีของพระองค์แล้ว ทำไมข้าพเจ้าจึงยังถูกกล่าวโทษเช่นคนบาปเล่า
- 新标点和合本 - 若 神的真实,因我的虚谎越发显出他的荣耀,为什么我还受审判,好像罪人呢?
- 和合本2010(上帝版-简体) - 若上帝的真实因我的虚谎越发显出他的荣耀,为什么我还像罪人一样受审判呢?
- 和合本2010(神版-简体) - 若 神的真实因我的虚谎越发显出他的荣耀,为什么我还像罪人一样受审判呢?
- 当代译本 - 也许有人说:“如果我们的虚谎凸显出上帝的真实,增加祂的荣耀,为什么祂还要把我们当作罪人审判呢?”
- 圣经新译本 - 但是 神的诚实,如果因我的虚谎而更加显出他的荣耀来,为什么我还要像罪人一样受审判呢?
- 中文标准译本 - 那么,如果神的真实因我的虚谎使他的荣耀更加丰盛,为什么我还要像罪人一样被定罪呢?
- 现代标点和合本 - 若神的真实因我的虚谎越发显出他的荣耀,为什么我还受审判,好像罪人呢?
- 和合本(拼音版) - 若上帝的真实,因我的虚谎越发显出他的荣耀,为什么我还受审判,好像罪人呢?
- New International Version - Someone might argue, “If my falsehood enhances God’s truthfulness and so increases his glory, why am I still condemned as a sinner?”
- New International Reader's Version - Someone might argue, “When I lie, it becomes clearer that God is truthful. It makes his glory shine more brightly. Why then does he find me guilty of sin?”
- English Standard Version - But if through my lie God’s truth abounds to his glory, why am I still being condemned as a sinner?
- New Living Translation - “But,” someone might still argue, “how can God condemn me as a sinner if my dishonesty highlights his truthfulness and brings him more glory?”
- The Message - It’s simply perverse to say, “If my lies serve to show off God’s truth all the more gloriously, why blame me? I’m doing God a favor.” Some people are actually trying to put such words in our mouths, claiming that we go around saying, “The more evil we do, the more good God does, so let’s just do it!” That’s pure slander, as I’m sure you’ll agree.
- Christian Standard Bible - But if by my lie God’s truth abounds to his glory, why am I also still being judged as a sinner?
- New American Standard Bible - But if through my lie the truth of God abounded to His glory, why am I also still being judged as a sinner?
- New King James Version - For if the truth of God has increased through my lie to His glory, why am I also still judged as a sinner?
- Amplified Bible - But [as you might say] if through my lie God’s truth was magnified and abounded to His glory, why am I still being judged as a sinner?
- American Standard Version - But if the truth of God through my lie abounded unto his glory, why am I also still judged as a sinner?
- King James Version - For if the truth of God hath more abounded through my lie unto his glory; why yet am I also judged as a sinner?
- New English Translation - For if by my lie the truth of God enhances his glory, why am I still actually being judged as a sinner?
- World English Bible - For if the truth of God through my lie abounded to his glory, why am I also still judged as a sinner?
- 新標點和合本 - 若神的真實,因我的虛謊越發顯出他的榮耀,為甚麼我還受審判,好像罪人呢?
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 若上帝的真實因我的虛謊越發顯出他的榮耀,為甚麼我還像罪人一樣受審判呢?
- 和合本2010(神版-繁體) - 若 神的真實因我的虛謊越發顯出他的榮耀,為甚麼我還像罪人一樣受審判呢?
- 當代譯本 - 也許有人說:「如果我們的虛謊凸顯出上帝的真實,增加祂的榮耀,為什麼祂還要把我們當作罪人審判呢?」
- 聖經新譯本 - 但是 神的誠實,如果因我的虛謊而更加顯出他的榮耀來,為甚麼我還要像罪人一樣受審判呢?
- 呂振中譯本 - 但上帝的真實如果因我的虛假越發彰顯他的榮耀來,為甚麼我還被斷為罪人呢?
- 中文標準譯本 - 那麼,如果神的真實因我的虛謊使他的榮耀更加豐盛,為什麼我還要像罪人一樣被定罪呢?
- 現代標點和合本 - 若神的真實因我的虛謊越發顯出他的榮耀,為什麼我還受審判,好像罪人呢?
- 文理和合譯本 - 若上帝之誠、因我之偽而益致其榮、則我何仍見鞫如罪人乎、
- 文理委辦譯本 - 曰、若我之偽、益彰上帝之誠以致其榮、則我何反見擬如罪人乎、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 若天主之真、因我之偽、而愈顯以致其榮、則我何又見擬如罪人乎、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 曰:今夫天主之真、既賴吾人之偽、而發揚光大、則吾之被判為罪人、不亦枉乎?
- Nueva Versión Internacional - Alguien podría objetar: «Si mi mentira destaca la verdad de Dios y así aumenta su gloria, ¿por qué todavía se me juzga como pecador?
- 현대인의 성경 - 또 어떤 사람들은 “나의 거짓말로 하나님의 진리가 더욱 드러나서 그분께 영광이 되었다면 왜 내가 죄인 취급을 받아야 하느냐?” 고 주장하고 있습니다.
- Новый Русский Перевод - Но если моя ложь делает ярче истину Божью и, таким образом, умножает Его славу, то почему же я судим как грешник?
- Восточный перевод - Но если моя ложь делает ярче истину Всевышнего и, таким образом, умножает Его славу, то почему же я судим как грешник?
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Но если моя ложь делает ярче истину Аллаха и, таким образом, умножает Его славу, то почему же я судим как грешник?
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Но если моя ложь делает ярче истину Всевышнего и, таким образом, умножает Его славу, то почему же я судим как грешник?
- La Bible du Semeur 2015 - Ou, dira-t-on encore, si mon mensonge fait d’autant mieux éclater que Dieu est véridique et contribue ainsi à sa gloire, pourquoi serais-je encore condamné comme pécheur ?
- リビングバイブル - もし、私がうそをついたとします。それによって神の真実がはっきりと際立ち、私の不真実が、かえって神の栄光を輝かしたとしたら、神は私を罪人としてさばくことなどできなくなってしまいます。
- Nestle Aland 28 - εἰ δὲ ἡ ἀλήθεια τοῦ θεοῦ ἐν τῷ ἐμῷ ψεύσματι ἐπερίσσευσεν εἰς τὴν δόξαν αὐτοῦ, τί ἔτι κἀγὼ ὡς ἁμαρτωλὸς κρίνομαι;
- unfoldingWord® Greek New Testament - εἰ δὲ ἡ ἀλήθεια τοῦ Θεοῦ ἐν τῷ ἐμῷ ψεύσματι ἐπερίσσευσεν εἰς τὴν δόξαν αὐτοῦ, τί ἔτι κἀγὼ ὡς ἁμαρτωλὸς κρίνομαι?
- Nova Versão Internacional - Alguém pode alegar ainda: “Se a minha mentira ressalta a veracidade de Deus, aumentando assim a sua glória, por que sou condenado como pecador?”
- Hoffnung für alle - Aber fragen wir noch einmal: Wie kann Gott mich als Sünder ansehen und verurteilen, wenn doch erst durch meine Falschheit seine Wahrheit in ihrer ganzen Größe aufstrahlt?
- Kinh Thánh Hiện Đại - Cũng theo lập luận trên, có người thắc mắc: nếu sự lừa dối của tôi làm sáng tỏ đức chân thật của Đức Chúa Trời, sao tôi còn bị Ngài xét xử như người có tội?
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - บางคนอาจแย้งว่า “ในเมื่อความอสัตย์ของข้าพเจ้าทำให้เห็นความสัตย์จริงของพระเจ้าเด่นชัดยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มพูนพระเกียรติสิริของพระองค์ แล้วทำไมข้าพเจ้ายังถูกตัดสินลงโทษว่าเป็นคนบาปเล่า?”
交叉引用
- ปฐมกาล 37:8 - พี่ๆ ของโยเซฟตอบกลับมาว่า “เจ้าจะปกครองพวกเราอย่างนั้นเชียวหรือ หรือว่าเจ้าจะมีอำนาจเหนือพวกเราจริง” พวกเขาเกลียดชังโยเซฟมากยิ่งขึ้น เพราะเรื่องที่เขาฝันและเพราะสิ่งที่โยเซฟพูดเกี่ยวกับตัวเขา
- ปฐมกาล 37:9 - เมื่อโยเซฟฝันอีกเรื่อง แล้วได้เล่าให้พวกพี่ๆ ฟังว่า “ดูสิ ฉันฝันอีกเรื่องหนึ่ง คือว่าดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาว 11 ดวงก้มคำนับฉัน”
- อพยพ 3:19 - เรารู้ว่ากษัตริย์แห่งอียิปต์จะไม่ยอมให้เจ้าไป นอกจากว่าจะถูกบังคับจากผู้มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่
- อพยพ 14:5 - เมื่อกษัตริย์แห่งอียิปต์ได้ทราบว่าประชาชนหนีไปแล้ว จิตใจของฟาโรห์และบรรดาข้าราชบริพารที่มีต่อประชาชนก็เปลี่ยนไป และพวกเขาพูดว่า “นี่เราทำอะไรลงไป ถึงได้ปล่อยให้ชาวอิสราเอลซึ่งเป็นทาสของพวกเราเป็นอิสระ”
- ปฐมกาล 44:1 - โยเซฟสั่งหัวหน้าคุมงานของเขาว่า “จงบรรจุอาหารใส่ถุงของชายเหล่านี้ให้เต็มเท่าที่เขาจะแบกได้ และเอาเงินของเขาแต่ละคนใส่ที่ปากถุง
- ปฐมกาล 44:2 - ใส่ถ้วยเงินของเราที่ปากถุงของคนสุดท้อง พร้อมกับเงินของเขาที่เอามาซื้อข้าวด้วย” เขาก็ทำตามที่โยเซฟสั่ง
- ปฐมกาล 44:3 - ทันทีที่ฟ้าสางชายเหล่านั้นก็เริ่มออกเดินทางไปกับลาของเขา
- ปฐมกาล 44:4 - เมื่อออกไปจากเมืองได้เพียงระยะสั้น โยเซฟบอกหัวหน้าคุมงานของเขาว่า “รีบตามชายพวกนั้นไป พอตามจับทันก็ให้พูดกับเขาว่า ‘ทำไมพวกท่านจึงทำชั่วตอบแทนความดีเล่า ทำไมพวกท่านจึงขโมยถ้วยเงินของเราไป
- ปฐมกาล 44:5 - มันเป็นถ้วยที่เจ้านายใช้ดื่มนี่นา และท่านก็ใช้ในการทำนาย สิ่งที่พวกท่านทำนั้นเป็นความผิดมหันต์’”
- ปฐมกาล 44:6 - เมื่อเขาตามจับทันแล้ว เขาก็พูดไปตามนั้น
- ปฐมกาล 44:7 - ชายเหล่านั้นพูดกับเขาว่า “ทำไมท่านจึงพูดอย่างนั้น ผู้รับใช้ทั้งหลายของท่านไม่มีวันทำตัวแบบนั้นแน่
- ปฐมกาล 44:8 - ก็ดูสิ เงินที่พวกเราพบที่ปากถุงของเราก็นำกลับมาจากดินแดนคานาอัน แล้วเราจะขโมยเงินหรือทองคำจากบ้านเจ้านายของท่านได้อย่างไร
- ปฐมกาล 44:9 - ถ้าหากถ้วยอยู่กับผู้รับใช้ของท่านคนใด ก็ฆ่าให้คนนั้นตาย และเราจะยอมเป็นทาสของเจ้านายของท่านด้วย”
- ปฐมกาล 44:10 - เขาตอบว่า “ให้เป็นไปตามที่ท่านพูดเถิด ถ้าถ้วยอยู่กับสิ่งของๆ ผู้ใด ผู้นั้นจะต้องเป็นทาสของเรา ส่วนคนอื่นๆ ก็จะเป็นอิสระ”
- ปฐมกาล 44:11 - ดังนั้น ทุกคนจึงหย่อนถุงลงบนพื้นดินโดยเร็ว และต่างก็เปิดถุงของตน
- ปฐมกาล 44:12 - แล้วเขาค้นโดยเริ่มจากคนโตสุด ลงท้ายที่คนสุดท้อง และพบถ้วยในถุงของเบนยามิน
- ปฐมกาล 44:13 - พวกเขาจึงฉีกเสื้อผ้าของตน และต่างก็บรรทุกของขึ้นลากลับเข้าไปในเมือง
- ปฐมกาล 44:14 - เมื่อยูดาห์และพวกพี่น้องมาถึงบ้านโยเซฟ เขายังอยู่ที่บ้าน พวกเขาก็ทิ้งตัวลงราบกับพื้น ณ เบื้องหน้าเขา
- ปฐมกาล 50:18 - พี่ชายของเขามา และทิ้งตัวลงราบกับพื้นต่อหน้าเขา และพูดว่า “พวกเราเป็นผู้รับใช้ของท่าน”
- ปฐมกาล 50:19 - แต่โยเซฟพูดกับพวกเขาว่า “อย่ากลัวเลย เราเป็นพระเจ้าหรืออย่างไร
- ปฐมกาล 50:20 - พี่มีแผนชั่วร้ายกับเรา แต่พระเจ้าต่างหากที่ให้เกิดสิ่งดี เพื่อให้เป็นไปอย่างวันนี้คือ คนเป็นจำนวนมากได้มีชีวิตอยู่
- ปฐมกาล 37:20 - มาเถิด ฆ่าแล้วก็โยนตัวเขาลงในบ่อสักบ่อหนึ่ง แล้วไปเล่าว่าเขาถูกสัตว์ป่าขม้ำกิน คราวนี้พวกเราก็จะเห็นว่าความฝันของเขาเป็นอย่างไร”
- อพยพ 14:30 - ในวันนั้น พระผู้เป็นเจ้าช่วยอิสราเอลให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของชาวอียิปต์ และอิสราเอลก็ได้เห็นชาวอียิปต์ตายเกลื่อนกลาดอยู่ที่ริมฝั่งทะเล
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:17 - เพราะพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าว่า ‘เจ้าอย่ารับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่นั่น หรือกลับไปทางเดียวกับที่เจ้ามา’”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:18 - และเขาตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้หนึ่งเหมือนกัน พระผู้เป็นเจ้ากล่าวแก่ข้าพเจ้าผ่านทางทูตสวรรค์ว่า ‘จงไปพาเขากลับมาบ้านกับเจ้า เขาจะได้รับประทานอาหาร และดื่มน้ำ’” แต่ว่าผู้สูงอายุคนนั้นพูดเท็จ
- โรม 9:19 - แล้วท่านก็จะพูดกับข้าพเจ้าว่า “แล้วทำไมพระเจ้ายังตำหนิเราอยู่อีก มีใครจะขัดขืนความตั้งใจของพระองค์ได้เล่า”
- โรม 9:20 - มนุษย์เอ๋ย ท่านเป็นใครกันจึงพูดตอกกลับพระเจ้า “สิ่งที่ถูกปั้นขึ้นจะพูดกับผู้ปั้นได้หรือว่า ‘ทำไมท่านจึงปั้นเราแบบนี้’”
- กิจการของอัครทูต 13:27 - ทั้งๆ ที่ผู้คนในเมืองเยรูซาเล็มและพวกที่อยู่ในระดับปกครองของเขาไม่ยอมรับพระเยซู พวกเขาจึงกล่าวโทษพระองค์ ทำให้เหตุการณ์กลับเป็นไปตามคำป่าวประกาศของบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าซึ่งเราได้ยินทุกครั้งในวันสะบาโต
- กิจการของอัครทูต 13:28 - แม้ว่าพวกนั้นไม่มีข้อกล่าวหาใดที่จะให้พระองค์ถึงแก่ความตายได้ ก็ยังขอให้ปีลาตสั่งประหารพระองค์เสีย
- กิจการของอัครทูต 13:29 - เมื่อคนเหล่านั้นได้กระทำทุกอย่างต่อพระองค์ ตามที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์แล้ว พวกเขาจึงนำร่างของพระองค์ลงจากไม้กางเขน และวางไว้ในถ้ำเก็บศพ
- มัทธิว 26:34 - พระเยซูกล่าวกับเขาว่า “เราขอบอกความจริงกับเจ้าว่า ในคืนวันนี้เอง ก่อนไก่จะขัน เจ้าจะปฏิเสธ 3 ครั้งว่าเจ้าไม่รู้จักเรา”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:26 - ครั้นผู้เผยคำกล่าวที่เป็นผู้ที่ได้นำท่านกลับมาได้ยินเรื่องดังกล่าว เขาพูดว่า “คนของพระเจ้าเป็นผู้ที่ไม่เชื่อฟังคำของพระผู้เป็นเจ้า ฉะนั้นพระผู้เป็นเจ้าจึงให้ตกเป็นเหยื่อของสิงโตที่ขย้ำตัวและฆ่าท่าน อย่างที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับท่านไว้”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:27 - และเขาพูดกับบุตรว่า “ผูกอานลาให้พ่อ” พวกเขาก็ผูกอานลาให้
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:28 - และเขาก็ขี่ลาไป พบว่าศพท่านถูกทิ้งไว้ที่ถนน ลาและสิงโตก็ยังยืนอยู่ข้างศพ สิงโตไม่ได้ขย้ำกินศพ หรือขย้ำลา
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:29 - และผู้เผยคำกล่าวก็หามศพคนของพระเจ้า และวางไว้บนหลังลา นำกลับเข้าไปในเมืองเพื่อร้องคร่ำครวญตามพิธี และทำพิธีเก็บศพ
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:30 - เขาวางศพไว้ในถ้ำเก็บศพของเขาเอง และพวกเขาร้องคร่ำครวญถึงท่านว่า “โธ่เอ๋ย พี่ชายของข้าพเจ้า”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:31 - หลังจากที่ได้เก็บศพไว้ในถ้ำแล้ว เขาพูดกับบุตรว่า “เมื่อพ่อตาย เจ้าจงเก็บศพพ่อไว้ในถ้ำที่เก็บศพคนของพระเจ้าเถิด และวางกระดูกพ่อไว้ที่ข้างๆ กระดูกของท่านผู้นี้ด้วย
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:32 - เพราะสิ่งที่ท่านได้เปล่งเสียงดัง และคัดค้านตามคำของพระผู้เป็นเจ้าเรื่องแท่นบูชาที่เบธเอล และคัดค้านบรรดาวิหารบนภูเขาสูงที่อยู่ในเมืองต่างๆ ของสะมาเรียจะเกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน”
- อิสยาห์ 10:6 - เราส่งอัสซีเรียไปต่อสู้ประชาชาติที่ไร้พระเจ้า และเราบัญชาเขาให้ไปต่อสู้ชนชาติที่เรากริ้ว เพื่อริบและยึดของที่ปล้นมา และเหยียบย่ำพวกเขาอย่างย่ำเลนตมบนถนน
- อิสยาห์ 10:7 - แต่อัสซีเรียไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้น ใจของเขาไม่คิดเช่นนั้น แต่ใจของเขาต้องการทำลาย และห้ำหั่นประชาชาติจำนวนมาก
- กิจการของอัครทูต 2:23 - พระเยซูผู้นี้ถูกมอบให้ท่าน ตามแผนการที่พระเจ้าได้กำหนดไว้ล่วงหน้าและทราบดีมาแต่แรก ท่านได้ประหารพระองค์ พวกคนชั่วร้ายให้ความช่วยเหลือท่านในการตรึงพระองค์บนไม้กางเขน
- 2 พงศ์กษัตริย์ 8:10 - เอลีชาตอบเขาว่า “จงไปบอกท่านว่า ‘ท่านจะหายจากโรคนี้อย่างแน่นอน’ แต่พระผู้เป็นเจ้าบอกให้เราทราบแล้วว่า ท่านจะสิ้นชีวิตอย่างแน่นอน”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 8:11 - ท่านจ้องดูฮาซาเอลอยู่ชั่วขณะหนึ่ง จนกระทั่งฮาซาเอลรู้สึกอึดอัดใจ แล้วคนของพระเจ้าก็ร้องไห้
- 2 พงศ์กษัตริย์ 8:12 - ฮาซาเอลถามว่า “ทำไมเจ้านายของข้าพเจ้าจึงร้องไห้” ท่านตอบว่า “เพราะเรารู้ถึงความเลวร้ายที่เจ้าจะกระทำต่อชาวอิสราเอล เจ้าจะเอาไฟเผาเมืองต่างๆ ที่พวกเขาคุ้มกันไว้อย่างแข็งแกร่ง เจ้าจะใช้ดาบฆ่าคนหนุ่มๆ และเด็กๆ ถูกเหวี่ยงกระดูกหักตาย และฟันท้องของหญิงมีครรภ์”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 8:13 - ฮาซาเอลพูดว่า “ข้ารับใช้อย่างข้าพเจ้าเป็นเพียงคนต่ำต้อย แล้วจะกระทำการครั้งยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างไร” เอลีชาตอบว่า “พระผู้เป็นเจ้าบอกให้เราทราบแล้วว่า เจ้าจะเป็นกษัตริย์ปกครองอารัม”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 8:14 - แล้วเขาก็จากเอลีชา และกลับไปหานายของเขา กษัตริย์ถามเขาว่า “เอลีชาพูดอะไรกับเจ้า” เขาตอบว่า “เอลีชากล่าวว่า ท่านจะหายป่วยแน่”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 8:15 - แต่พอวันรุ่งขึ้น เขาใช้ผ้าคลุมเตียงจุ่มน้ำ และคลุมไว้ที่หน้าเบนฮาดัดจนสิ้นชีวิต และฮาซาเอลก็ขึ้นมาเป็นกษัตริย์แทน
- มัทธิว 26:69 - ขณะนั้นเปโตรกำลังนั่งอยู่ข้างนอกที่ลานบ้าน และผู้รับใช้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้เขาและพูดว่า “ท่านก็ด้วย ท่านอยู่กับเยซูชาวกาลิลี”
- มัทธิว 26:70 - แต่เขาปฏิเสธต่อหน้าทุกคนโดยพูดว่า “เราไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงอะไร”
- มัทธิว 26:71 - เมื่อเขาออกไปทางประตู ผู้รับใช้หญิงอีกคนเห็นเปโตรจึงพูดกับพวกที่ยืนอยู่ว่า “ชายคนนี้อยู่กับเยซูแห่งเมืองนาซาเร็ธ”
- มัทธิว 26:72 - เขาสาบานไม่ยอมรับอีกว่า “เราไม่รู้จักชายผู้นั้น”
- มัทธิว 26:73 - อีกชั่วครู่ต่อมา พวกที่ยืนอยู่มาหาเปโตรและพูดว่า “แน่แล้ว ท่านด้วยที่เป็นพวกเดียวกันกับเขา ก็สำเนียงของท่านส่อให้รู้นี่นา”
- มัทธิว 26:74 - แล้วเปโตรก็เริ่มสบถสาบานว่า “เราไม่รู้จักชายผู้นั้น” ในทันใดนั้น ไก่ก็ขัน
- มัทธิว 26:75 - แล้วเปโตรนึกถึงคำซึ่งพระเยซูได้กล่าวไว้ว่า “ก่อนไก่จะขัน เจ้าจะปฏิเสธ 3 ครั้งว่าเจ้าไม่รู้จักเรา” เขาจึงออกไปข้างนอกแล้วร้องไห้ด้วยความปวดร้าวใจยิ่งนัก
- โรม 3:4 - ไม่มีทางจะเป็นเช่นนั้น แม้ว่าทุกคนพูดเท็จ พระเจ้าก็เป็นผู้รักษาคำพูด ตามที่มีบันทึกไว้ว่า “เพื่อพระองค์เป็นที่เห็นว่าถูกต้องเวลาพระองค์กล่าว และมีชัยชนะเมื่อพระองค์ตัดสินโทษ”