Brand Logo
  • 圣经
  • 资源
  • 计划
  • 联系我们
  • APP下载
  • 圣经
  • 搜索
  • 原文研究
  • 逐节对照
我的
跟随系统浅色深色简体中文香港繁體台灣繁體English
奉献
3:1 TNCV
逐节对照
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ครั้งนั้นยอห์นผู้ให้บัพติศมาได้มาเทศนาในถิ่นกันดารแห่งแคว้นยูเดีย
  • 新标点和合本 - 那时,有施洗的约翰出来,在犹太的旷野传道,说:
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 在那些日子,施洗的约翰出来,在犹太的旷野宣讲:
  • 和合本2010(神版-简体) - 在那些日子,施洗的约翰出来,在犹太的旷野宣讲:
  • 当代译本 - 那时,施洗者约翰来到犹太的旷野传道,说:
  • 圣经新译本 - 那时,施洗的约翰出来,在犹太的旷野传道,
  • 中文标准译本 - 在那些日子里,施洗者 约翰来了,在犹太的旷野传道,
  • 现代标点和合本 - 那时,有施洗的约翰出来,在犹太的旷野传道说:
  • 和合本(拼音版) - 那时,有施洗的约翰出来,在犹太的旷野传道,说:
  • New International Version - In those days John the Baptist came, preaching in the wilderness of Judea
  • New International Reader's Version - In those days John the Baptist came and preached in the Desert of Judea.
  • English Standard Version - In those days John the Baptist came preaching in the wilderness of Judea,
  • New Living Translation - In those days John the Baptist came to the Judean wilderness and began preaching. His message was,
  • The Message - While Jesus was living in the Galilean hills, John, called “the Baptizer,” was preaching in the desert country of Judea. His message was simple and austere, like his desert surroundings: “Change your life. God’s kingdom is here.”
  • Christian Standard Bible - In those days John the Baptist came, preaching in the wilderness of Judea
  • New American Standard Bible - Now in those days John the Baptist * came, preaching in the wilderness of Judea, saying,
  • New King James Version - In those days John the Baptist came preaching in the wilderness of Judea,
  • Amplified Bible - In those days John the Baptist appeared, preaching in the Wilderness of Judea [along the western side of the Dead Sea] and saying,
  • American Standard Version - And in those days cometh John the Baptist, preaching in the wilderness of Judæa, saying,
  • King James Version - In those days came John the Baptist, preaching in the wilderness of Judaea,
  • New English Translation - In those days John the Baptist came into the wilderness of Judea proclaiming,
  • World English Bible - In those days, John the Baptizer came, preaching in the wilderness of Judea, saying,
  • 新標點和合本 - 那時,有施洗的約翰出來,在猶太的曠野傳道,說:
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 在那些日子,施洗的約翰出來,在猶太的曠野宣講:
  • 和合本2010(神版-繁體) - 在那些日子,施洗的約翰出來,在猶太的曠野宣講:
  • 當代譯本 - 那時,施洗者約翰來到猶太的曠野傳道,說:
  • 聖經新譯本 - 那時,施洗的約翰出來,在猶太的曠野傳道,
  • 呂振中譯本 - 當那些日子、施洗者 約翰 出來,在 猶太 的野地宣傳
  • 中文標準譯本 - 在那些日子裡,施洗者 約翰來了,在猶太的曠野傳道,
  • 現代標點和合本 - 那時,有施洗的約翰出來,在猶太的曠野傳道說:
  • 文理和合譯本 - 維時、施洗約翰至、宣言於猶太野、
  • 文理委辦譯本 - 維時、施洗約翰至猶太野、言曰、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 維時有施洗 約翰 來、在 猶太 曠野宣道曰、
  • 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 維時、施洗者 如望 宣道於 猶太 曠野中曰:
  • Nueva Versión Internacional - En aquellos días se presentó Juan el Bautista predicando en el desierto de Judea.
  • 현대인의 성경 - 그 무렵 세례 요한이 유대 광야에서
  • Новый Русский Перевод - В те дни Иоанн Креститель начал проповедовать в Иудейской пустыне.
  • Восточный перевод - В те дни пророк Яхия начал проповедовать в Иудейской пустыне.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - В те дни пророк Яхия начал проповедовать в Иудейской пустыне.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - В те дни пророк Яхьё начал проповедовать в Иудейской пустыне.
  • La Bible du Semeur 2015 - En ce temps-là, parut Jean-Baptiste. Il se mit à prêcher dans le désert de Judée .
  • リビングバイブル - ヨセフの一家がナザレに住んでいたころ、バプテスマのヨハネがユダヤの荒野で教えを宣べ始めて、言いました。
  • Nestle Aland 28 - Ἐν δὲ ταῖς ἡμέραις ἐκείναις παραγίνεται Ἰωάννης ὁ βαπτιστὴς κηρύσσων ἐν τῇ ἐρήμῳ τῆς Ἰουδαίας
  • unfoldingWord® Greek New Testament - ἐν δὲ ταῖς ἡμέραις ἐκείναις παραγίνεται Ἰωάννης ὁ Βαπτιστὴς, κηρύσσων ἐν τῇ ἐρήμῳ τῆς Ἰουδαίας
  • Nova Versão Internacional - Naqueles dias, surgiu João Batista, pregando no deserto da Judeia.
  • Hoffnung für alle - In jener Zeit fing Johannes der Täufer an, in der judäischen Wüste zu predigen.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Lúc đó, Giăng Báp-tít bắt đầu giảng dạy trong đồng hoang xứ Giu-đê:
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ใน​ครั้ง​นั้น​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา ​มา​ประกาศ​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​แคว้น​ยูเดีย​ว่า
交叉引用
  • ยอห์น 1:15 - ยอห์นเป็นพยานเกี่ยวกับพระองค์ เขาร้องประกาศว่า “นี่คือผู้ซึ่งเราได้บอกไว้ว่า ‘พระองค์ผู้เสด็จมาภายหลังเราทรงยิ่งใหญ่กว่าเราเพราะพระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนเรา’ ”
  • ยอห์น 1:16 - เราทั้งปวงได้รับพระพรครั้งแล้วครั้งเล่าจากความบริบูรณ์แห่งพระคุณของพระองค์
  • ยอห์น 1:17 - เพราะบทบัญญัติประทานมาทางโมเสส ส่วนพระคุณและความจริงมาทางพระเยซูคริสต์
  • ยอห์น 1:18 - ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า แต่พระเจ้าคือพระบุตรองค์เดียว ผู้ทรงอยู่เคียงข้างพระบิดาได้ทรงทำให้พระองค์เป็นที่ประจักษ์แล้ว
  • ยอห์น 1:19 - นี่คือคำพยานของยอห์น เมื่อชาวยิวที่กรุงเยรูซาเล็มส่งพวกปุโรหิตและคนเลวีมาถามว่าเขาเป็นใคร
  • ยอห์น 1:20 - เขาไม่ได้ปิดบังความจริง เขายอมรับอย่างเปิดเผยว่า “เราไม่ใช่พระคริสต์ ”
  • ยอห์น 1:21 - พวกนั้นจึงถามว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นใคร? ท่านเป็นเอลียาห์หรือ?” เขาบอกว่า “ไม่ใช่” เมื่อถามว่า “ท่านเป็นผู้เผยพระวจนะนั้นหรือ?” เขาก็ตอบว่า “ไม่ใช่”
  • ยอห์น 1:22 - ในที่สุดพวกเขาจึงกล่าวว่า “ท่านเป็นใคร? จงตอบมาเถิด เราจะได้ไปบอกผู้ที่ส่งเรามา ท่านอ้างว่าตัวท่านเองเป็นใคร?”
  • ยอห์น 1:23 - ยอห์นตอบโดยยกคำของผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ว่า “เราคือเสียงของผู้ที่ร้องในถิ่นกันดารว่า ‘จงทำทางสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงไป’ ”
  • ยอห์น 1:24 - พวกฟาริสีบางคนที่ถูกส่งมา
  • ยอห์น 1:25 - จึงถามเขาว่า “ถ้าท่านไม่ใช่พระคริสต์ ไม่ใช่เอลียาห์ หรือผู้เผยพระวจนะนั้น ทำไมท่านจึงให้บัพติศมา?”
  • ยอห์น 1:26 - ยอห์นตอบว่า “เราให้บัพติศมาด้วย น้ำ แต่มีผู้หนึ่งในหมู่พวกท่านซึ่งพวกท่านไม่รู้จัก
  • ยอห์น 1:27 - พระองค์ทรงเป็นผู้ที่จะมาภายหลังเรา เราไม่คู่ควรแม้แต่จะแก้สายรัดฉลองพระบาทของพระองค์”
  • ยอห์น 1:28 - ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเบธานีที่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน ที่ซึ่งยอห์นกำลังให้บัพติศมา
  • ยอห์น 1:29 - วันต่อมายอห์นเห็นพระเยซูเสด็จมาทางเขา จึงกล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดก ของพระเจ้า ผู้ทรงรับบาปของโลกไป!
  • ยอห์น 1:30 - นี่แหละคือผู้ที่เราหมายถึง เมื่อเรากล่าวว่า ‘พระองค์ผู้ทรงมาภายหลังเราทรงยิ่งใหญ่กว่าเราเพราะพระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนเรา’
  • ยอห์น 1:31 - เราเองไม่รู้จักพระองค์ แต่เหตุผลที่เรามาให้บัพติศมาด้วยน้ำก็เพื่อให้พระองค์เป็นที่ประจักษ์แก่อิสราเอล”
  • ยอห์น 1:32 - แล้วยอห์นเป็นพยานดังนี้ว่า “เราเห็นพระวิญญาณลงมาจากสวรรค์ดั่งนกพิราบและสถิตกับพระองค์
  • ยอห์น 1:33 - เราคงไม่รู้ว่าพระองค์เป็นใคร แต่ผู้ที่ทรงใช้ให้เรามาให้บัพติศมาด้วยน้ำตรัสบอกเราไว้ว่า ‘เจ้าเห็นพระวิญญาณลงมาสถิตกับผู้ใด ผู้นั้นคือผู้ที่จะให้บัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
  • ยอห์น 1:34 - เราได้เห็นแล้ว และเราเป็นพยานได้ว่าผู้นี้คือพระบุตรของพระเจ้า’ ” ( มธ.4:18-22 ; มก.1:16-20 ; ลก.5:2-11 )
  • ยอห์น 1:35 - วันรุ่งขึ้น ยอห์นกับสาวกสองคนก็อยู่ที่นั่นอีก
  • ยอห์น 1:36 - เมื่อเขาเห็นพระเยซูเสด็จผ่านไป จึงกล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า!”
  • มัทธิว 14:2 - จึงกล่าวแก่บริวารว่า “นี่คือยอห์นผู้ให้บัพติศมาซึ่งได้เป็นขึ้นจากตาย! จึงทำให้เขามีฤทธิ์อำนาจทำการอัศจรรย์ต่างๆ ได้”
  • มัทธิว 14:3 - เฮโรดได้จับยอห์นจองจำไว้ในคุก ด้วยสาเหตุจากนางเฮโรเดียสภรรยาของฟีลิปน้องชายของตน
  • มัทธิว 14:4 - เนื่องจากยอห์นเคยพูดกับเขาว่า “เป็นการผิดธรรมบัญญัติที่ท่านรับนางมาเป็นภรรยา”
  • มัทธิว 14:5 - เฮโรดอยากจะฆ่ายอห์น แต่ก็กลัวประชาชนเพราะพวกเขาถือว่ายอห์นคือผู้เผยพระวจนะ
  • มัทธิว 14:6 - ในงานฉลองวันเกิดของเฮโรด บุตรีของนางเฮโรเดียสได้มาเต้นรำให้ชมและทำให้เฮโรดพอใจมาก
  • มัทธิว 14:7 - เขาจึงสัญญาโดยปฏิญาณว่าจะให้ทุกอย่างที่นางขอ
  • มัทธิว 14:8 - นางจึงทูลตามที่มารดาชี้แนะว่า “ขอศีรษะของยอห์นผู้ให้บัพติศใส่ถาดมาให้หม่อมฉันที่นี่เถิด”
  • มัทธิว 14:9 - กษัตริย์ก็เป็นทุกข์ แต่ขัดไม่ได้เพราะได้ปฏิญาณไว้และเห็นแก่หน้าแขกเหรื่อ จึงบัญชาให้เป็นไปตามที่นางขอ
  • มัทธิว 14:10 - ยอห์นจึงถูกตัดศีรษะในคุก
  • มัทธิว 14:11 - เขาเอาศีรษะของยอห์นใส่ถาดแล้วนำมาให้หญิงนั้น นางก็ยกไปให้มารดา
  • มัทธิว 14:12 - สาวกของยอห์นมารับศพไปฝัง แล้วมาทูลพระเยซู ( มก.6:32-44 ; ลก.9:10-17 ; ยน.6:1-13 )
  • มัทธิว 14:13 - เมื่อพระเยซูทรงทราบสิ่งที่เกิดขึ้นก็ลงเรือเสด็จจากที่นั่นไปยังที่สงบเงียบเป็นการส่วนพระองค์ ประชาชนจากเมืองต่างๆ ได้ยินเช่นนี้ก็เดินไปหาพระองค์
  • มัทธิว 14:14 - เมื่อพระเยซูเสด็จขึ้นจากเรือและทรงเห็นคนกลุ่มใหญ่ พระองค์ก็ทรงสงสารเขาและทรงรักษาคนเจ็บป่วยในหมู่พวกเขา
  • ยอห์น 3:27 - ยอห์นตอบคำกล่าวนี้ว่า “มนุษย์ได้รับก็แต่เพียงสิ่งที่ประทานให้เขาจากสวรรค์
  • ยอห์น 3:28 - พวกท่านเองก็เป็นพยานได้ถึงคำพูดของเราที่ว่า ‘เราไม่ใช่พระคริสต์ แต่เราถูกส่งมานำเสด็จพระองค์’
  • ยอห์น 3:29 - เจ้าสาวย่อมเป็นของเจ้าบ่าว เพื่อนผู้ดูแลเจ้าบ่าวก็คอยฟังเขาอยู่ และเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีเมื่อได้ยินเสียงของเจ้าบ่าว เราก็มีความชื่นชมยินดีเช่นนั้น และบัดนี้ความชื่นชมยินดีนั้นก็เต็มบริบูรณ์แล้ว
  • ยอห์น 3:30 - พระองค์จะต้องยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนเราต้องด้อยลง
  • ยอห์น 3:31 - “ผู้มาจากเบื้องบนนั้นย่อมอยู่เหนือสิ่งทั้งปวง ผู้ที่มาจากโลกย่อมเป็นของโลกและพูดอย่างคนที่มาจากโลก พระองค์ผู้เสด็จมาจากสวรรค์ทรงอยู่เหนือสิ่งทั้งปวง
  • ยอห์น 3:32 - พระองค์ทรงเป็นพยานถึงสิ่งที่พระองค์ทรงเห็นและทรงสดับ แต่ไม่มีใครรับคำพยานของพระองค์
  • ยอห์น 3:33 - ผู้ที่รับคำพยานนั้นก็ให้การรับรองว่าพระเจ้าทรงสัตย์จริง
  • ยอห์น 3:34 - เพราะผู้ที่พระเจ้าทรงส่งมาย่อมกล่าวพระวจนะของพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้า ประทานพระวิญญาณโดยไม่จำกัด
  • ยอห์น 3:35 - พระบิดาทรงรักพระบุตรและทรงมอบทุกสิ่งไว้ในพระหัตถ์ของพระบุตร
  • ยอห์น 3:36 - ผู้ใดที่เชื่อในพระบุตรก็มีชีวิตนิรันดร์ แต่ผู้ใดที่ไม่ยอมรับพระบุตรก็จะไม่ได้เห็นชีวิต เพราะพระพิโรธของพระเจ้ายังอยู่กับเขา”
  • มัทธิว 21:25 - คือบัพติศมาของยอห์นมาจากไหน? จากสวรรค์หรือจากมนุษย์?” พวกเขาหารือกันว่า “ถ้าตอบว่า ‘มาจากสวรรค์’ เขาก็จะถามว่า ‘แล้วทำไมท่านไม่เชื่อยอห์น?’
  • มัทธิว 21:26 - แต่ถ้าเราตอบว่า ‘มาจากมนุษย์’ เราก็กลัวประชาชนเพราะพวกเขาล้วนถือว่ายอห์นเป็นผู้เผยพระวจนะ”
  • มัทธิว 21:27 - ดังนั้นพวกเขาจึงทูลตอบพระเยซูว่า “เราไม่ทราบ” พระองค์จึงตรัสว่า “เราก็จะไม่บอกพวกท่านเช่นกันว่าเราอาศัยสิทธิอำนาจใดที่ทำสิ่งเหล่านี้
  • มาระโก 1:3 - “เสียงของผู้หนึ่งร้องในถิ่นกันดารว่า ‘จงเตรียมทางสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางสำหรับพระองค์ให้ตรงไป’ ”
  • มาระโก 1:4 - แล้วยอห์นผู้ให้บัพติศมาก็ได้ปรากฏตัวในถิ่นกันดารและเทศนาเรื่องบัพติศมาอันแสดงถึงการกลับใจใหม่เพื่อรับการอภัยโทษบาป
  • มาระโก 1:5 - ผู้คนทั่วแคว้นยูเดียและชาวกรุงเยรูซาเล็มพากันมาหายอห์น เมื่อสารภาพบาปทั้งหลายของตนแล้ว ยอห์นก็ให้เขาทั้งหลายรับบัพติศมาในแม่น้ำจอร์แดน
  • มาระโก 1:6 - ยอห์นสวมเสื้อผ้าที่ทำจากขนอูฐ คาดเข็มขัดหนัง และกินตั๊กแตนกับน้ำผึ้งป่าเป็นอาหาร
  • มาระโก 1:7 - เขาประกาศว่า “ภายหลังเราจะมีผู้หนึ่งเสด็จมา ทรงยิ่งใหญ่กว่าเรา ซึ่งเราไม่คู่ควรแม้แต่จะโน้มกายลงแก้สายฉลองพระบาทของพระองค์
  • มาระโก 1:8 - เราให้ท่านทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่พระองค์จะทรงให้ท่านทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์” ( มธ.3:13-17 ; 4:1-11 ; ลก.3:21 , 22 ; 4:1-13 )
  • โยชูวา 15:61 - ในถิ่นกันดารได้แก่ เบธอาราบาห์ มิดดีน เสคะคาห์
  • โยชูวา 15:62 - นิบชาน เมืองเกลือ และเอนเกดี รวม 6 เมืองกับหมู่บ้านต่างๆ
  • มาระโก 6:16 - แต่เมื่อเฮโรดได้ยินก็กล่าวว่า “นี่คือยอห์นที่เราสั่งให้ตัดศีรษะไป เขาเป็นขึ้นจากตายแล้ว!”
  • มาระโก 6:17 - เพราะเฮโรดเองสั่งให้จับยอห์นมาล่ามโซ่ขังไว้ในคุกด้วยสาเหตุจากนางเฮโรเดียสภรรยาของฟีลิปน้องชายของตนซึ่งเฮโรดได้นางมาเป็นภรรยา
  • มาระโก 6:18 - เนื่องจากยอห์นเคยพูดกับเฮโรดว่า “ท่านทำผิดบัญญัติที่เอาน้องสะใภ้มาเป็นภรรยา”
  • มาระโก 6:19 - ดังนั้นนางเฮโรเดียสจึงอาฆาตยอห์นและอยากจะฆ่าเขาแต่ก็ทำไม่ได้
  • มาระโก 6:20 - เพราะเฮโรดยำเกรงยอห์นและคอยปกป้องเขาเพราะรู้ว่าเขาเป็นผู้ชอบธรรมและบริสุทธิ์ เมื่อเฮโรดได้ฟังยอห์นพูดก็งุนงงสงสัยยิ่งนัก แต่ก็ยังอยากฟัง
  • มาระโก 6:21 - ในที่สุดโอกาสก็มาถึง ในงานฉลองวันเกิดเฮโรดจัดงานเลี้ยงขุนนาง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ และบรรดาคนสำคัญๆ ในแคว้นกาลิลี
  • มาระโก 6:22 - เมื่อบุตรีของนางเฮโรเดียสออกมาเต้นรำก็เป็นที่ถูกใจเฮโรดกับแขกเหรื่อยิ่งนัก กษัตริย์จึงกล่าวกับหญิงสาวนั้นว่า “จงขอสิ่งที่เจ้าต้องการแล้วเราจะให้ตามที่เจ้าขอ”
  • มาระโก 6:23 - และสัญญาโดยปฏิญาณว่า “ไม่ว่าเจ้าจะขออะไร เราก็จะให้ทั้งนั้นจนถึงครึ่งหนึ่งของอาณาจักร”
  • มาระโก 6:24 - นางจึงออกไปถามมารดาว่า “ลูกจะขออะไรดี?” มารดาบอกว่า “ขอศีรษะยอห์นผู้ให้บัพติศมาสิ”
  • มาระโก 6:25 - นางรีบมาทูลกษัตริย์ทันทีว่า “ขอศีรษะของยอห์นผู้ให้บัพติศมาใส่ถาดมาให้หม่อมฉันที่นี่เดี๋ยวนี้เถิด”
  • มาระโก 6:26 - กษัตริย์เฮโรดเป็นทุกข์ยิ่งนักแต่ก็ขัดไม่ได้เพราะได้ปฏิญาณไว้และเพราะเห็นแก่หน้าแขกเหรื่อ
  • มาระโก 6:27 - จึงบัญชาในทันทีทันใดให้เพชฌฆาตนำศีรษะของยอห์นมา เขาก็ไปตัดศีรษะของยอห์นในคุก
  • มาระโก 6:28 - แล้วนำศีรษะใส่ถาดมาให้หญิงนั้นและนางเอาไปให้มารดา
  • มาระโก 6:29 - เมื่อศิษย์ของยอห์นทราบข่าวจึงมารับศพเขาไปฝังในอุโมงค์ ( มธ.14:13-21 ; ลก.9:10-17 ; ยน.6:5-13 )
  • มัทธิว 17:12 - แต่เราบอกพวกท่านว่าเอลียาห์ได้มาแล้วและพวกเขาไม่รู้จักท่าน แต่ทำกับท่านทุกอย่างตามใจชอบ เช่นเดียวกัน บุตรมนุษย์ก็จะทนทุกข์ด้วยน้ำมือของพวกเขา”
  • มัทธิว 17:13 - แล้วเหล่าสาวกก็เข้าใจว่าพระองค์กำลังตรัสถึงยอห์นผู้ให้บัพติศมา ( มก.9:14-28 ; ลก.9:37-42 )
  • มัทธิว 21:32 - เพราะยอห์นมาเพื่อชี้ทางชอบธรรมแก่ท่านและท่านไม่เชื่อ แต่คนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีเชื่อ และแม้ได้เห็นสิ่งนี้แล้วพวกท่านก็ยังไม่ยอมกลับใจมาเชื่อเขา ( มก.12:1-12 ; ลก.20:9-19 )
  • มัทธิว 11:7 - ขณะที่สาวกของยอห์นกำลังจะจากไป พระเยซูก็เริ่มตรัสกับประชาชนเกี่ยวกับยอห์นว่า “พวกท่านออกไปดูอะไรในถิ่นกันดาร? ดูต้นอ้อลู่ตามลมหรือ?
  • มัทธิว 3:8 - จงเกิดผลให้สมกับที่กลับใจใหม่
  • โยชูวา 14:10 - บัดนี้เป็นไปตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาไว้ พระองค์ทรงโปรดให้ข้าพเจ้าอยู่รอดมา 45 ปีนับแต่พระองค์ตรัสกับโมเสสเมื่อครั้งที่อิสราเอลรอนแรมอยู่ในถิ่นกันดาร เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าก็อายุ 85 ปีแล้ว!
  • ผู้วินิจฉัย 1:16 - ชาวเคไนต์ซึ่งเป็นลูกหลานของพ่อตาของโมเสสได้ย้ายจากเยรีโคเมืองแห่งต้นอินทผลัม ติดตามคนยูดาห์มาอาศัยอยู่กับคนในถิ่นกันดารแห่งยูดาห์ในเนเกบใกล้อาราด
  • มาระโก 1:15 - พระองค์ตรัสว่า “ถึงเวลาแล้ว อาณาจักรของพระเจ้ามาใกล้แล้ว จงกลับใจใหม่และเชื่อข่าวประเสริฐ!”
  • กิจการของอัครทูต 1:22 - ตั้งแต่บัพติศมาของยอห์นจนถึงเวลาที่พระเยซูถูกรับขึ้นไปจากเรา เพราะคนนี้จะต้องเป็นพยานร่วมกับเราว่าพระองค์ได้คืนพระชนม์แล้ว”
  • กิจการของอัครทูต 13:24 - ก่อนพระเยซูเสด็จมายอห์นประกาศเรื่องการกลับใจใหม่และการรับบัพติศมาแก่ปวงชนอิสราเอล
  • กิจการของอัครทูต 13:25 - เมื่อยอห์นทำงานของตนใกล้จะเสร็จแล้วเขากล่าวว่า ‘พวกท่านคิดว่าข้าพเจ้าเป็นใคร? ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้ที่พวกท่านกำลังมองหาอยู่ แต่มีผู้หนึ่งกำลังจะมาภายหลังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะถอดฉลองพระบาทของพระองค์’
  • ลูกา 1:76 - “ส่วนเจ้า ลูกของพ่อ เจ้าจะได้ชื่อว่าผู้เผยพระวจนะขององค์ผู้สูงสุด เพราะเจ้าจะนำหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเตรียมทางสำหรับพระองค์
  • ลูกา 7:24 - เมื่อศิษย์ของยอห์นไปแล้ว พระเยซูจึงเริ่มตรัสกับประชาชนเกี่ยวกับยอห์นว่า “พวกท่านออกไปดูอะไรในถิ่นกันดาร? ดูต้นอ้อลู่ตามลมหรือ?
  • ลูกา 3:1 - ในปีที่สิบห้าแห่งรัชกาลทิเบริอัสซีซาร์ ขณะนั้นปอนทิอัสปีลาตเป็นผู้ว่าการแคว้นยูเดีย เฮโรดครองแคว้นกาลิลี ส่วนฟีลิปน้องชายของเฮโรดครองแคว้นอิทูเรียและตราโคนิติส ลีซาเนียสครองแคว้นอาบีเลน
  • ลูกา 3:2 - ในสมัยที่อันนาสกับคายาฟาสเป็นมหาปุโรหิต พระวจนะของพระเจ้าก็ได้มาถึงยอห์นบุตรเศคาริยาห์ในถิ่นกันดาร
  • ลูกา 3:3 - เขาไปทั่วแถบลุ่มแม่น้ำจอร์แดน ประกาศบัพติศมาแห่งการกลับใจใหม่เพื่อรับการอภัยบาป
  • ลูกา 3:4 - ดังที่เขียนไว้ในหนังสือของผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ว่า “เสียงของผู้หนึ่งร้องในถิ่นกันดารว่า ‘จงเตรียมทางสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางสำหรับพระองค์ให้ตรงไป
  • ลูกา 3:5 - หุบเขาทุกแห่งจะถูกถมให้เต็ม ภูเขาและเนินเขาทุกแห่งจะถูกทำให้ต่ำลง ทางคดเคี้ยวจะกลายเป็นทางตรง ทางขรุขระจะกลับราบเรียบ
  • ลูกา 3:6 - และมวลมนุษยชาติจะเห็นความรอดของพระเจ้า’ ”
  • ลูกา 3:7 - ยอห์นกล่าวกับฝูงชนที่มารับบัพติศมาจากเขาว่า “เจ้าชาติงูร้าย! ใครตักเตือนพวกเจ้าให้หนีจากพระพิโรธที่จะมาถึง?
  • ลูกา 3:8 - จงเกิดผลให้สมกับที่กลับใจใหม่และอย่านึกว่า ‘พวกเรามีอับราฮัมเป็นบรรพบุรุษ’ เพราะเราบอกท่านว่าพระเจ้าทรงสามารถทำให้ลูกหลานของอับราฮัมเกิดจากก้อนหินเหล่านี้ได้
  • ลูกา 3:9 - ขวานนั้นอยู่ที่โคนต้นไม้แล้วและทุกต้นที่ไม่ให้ผลดีจะถูกโค่นและโยนลงในไฟ”
  • ลูกา 3:10 - ประชาชนถามว่า “ถ้าเช่นนั้นเราควรทำอย่างไร?”
  • ลูกา 3:11 - ยอห์นตอบว่า “ผู้ที่มีเสื้อสองตัวจงแบ่งให้ผู้ที่ไม่มีและคนที่มีอาหารก็ควรแบ่งปันเช่นกัน”
  • ลูกา 3:12 - คนเก็บภาษีมาขอรับบัพติศมาด้วย พวกเขาถามว่า “ท่านอาจารย์ เราควรทำอย่างไร?”
  • ลูกา 3:13 - เขาตอบว่า “อย่าเก็บภาษีเกินพิกัด”
  • ลูกา 3:14 - แล้วพวกทหารก็มาถามด้วยว่า “และเราควรทำอย่างไร?” เขาตอบว่า “อย่าข่มขู่เอาเงินและอย่าใส่ร้ายใคร จงพอใจกับค่าจ้างของตน”
  • ลูกา 3:15 - ประชาชนกำลังใจจดใจจ่อรอคอยและทุกคนล้วนสงสัยว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ยอห์นจะเป็นพระคริสต์
  • ลูกา 3:16 - ยอห์นตอบพวกเขาทั้งหมดว่า “เราให้ท่านรับบัพติศมาด้วย น้ำ แต่ผู้หนึ่งซึ่งทรงฤทธิ์อำนาจยิ่งกว่าเราจะเสด็จมาซึ่งเราไม่คู่ควรแม้แต่จะแก้สายฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้ท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ
  • ลูกา 3:17 - พระองค์ทรงถือพลั่วพร้อมอยู่ในพระหัตถ์เพื่อจะทรงเก็บกวาดลานนวดข้าวและเพื่อจะรวบรวมข้าวไว้ในยุ้งฉางของพระองค์ แต่พระองค์จะทรงเผาแกลบด้วยไฟอันไม่รู้ดับ”
  • ลูกา 3:18 - ยอห์นได้แนะนำตักเตือนประชาชนอีกหลายประการและประกาศข่าวประเสริฐแก่พวกเขา
  • ลูกา 3:19 - แต่เมื่อยอห์นตำหนิเฮโรดผู้ครองแคว้นเรื่องนางเฮโรเดียสภรรยาของน้องชายเฮโรดและสารพัดการชั่วอื่นๆ ที่เฮโรดได้ทำ
  • ลูกา 3:20 - เฮโรดก็ทำชั่วหนักขึ้นโดยจับยอห์นขังคุก ( มธ.1:1-17 ; 3:13-17 ; มก.1:9-11 )
  • กิจการของอัครทูต 19:3 - ดังนั้นเปาโลจึงถามว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านได้รับบัพติศมาอะไร?” พวกเขาตอบว่า “บัพติศมาของยอห์น”
  • กิจการของอัครทูต 19:4 - เปาโลจึงกล่าวว่า “บัพติศมาของยอห์นคือบัพติศมาที่แสดงการกลับใจใหม่ ยอห์นได้บอกประชาชนให้เชื่อในพระองค์ผู้ซึ่งมาภายหลังท่านคือให้เชื่อในพระเยซู”
  • ลูกา 1:13 - แต่ทูตนั้นกล่าวกับเขาว่า “เศคาริยาห์เอ๋ย อย่ากลัวเลย พระเจ้าทรงได้ยินคำอธิษฐานของท่านแล้ว เอลีซาเบธภรรยาของท่านจะคลอดบุตรชาย จงตั้งชื่อเขาว่ายอห์น
  • ลูกา 1:14 - เขาจะเป็นความชื่นชมยินดีและความสุขใจแก่ท่านและคนทั้งหลายจะปีติยินดีที่เขาเกิดมา
  • ลูกา 1:15 - เพราะเขาจะยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นและของมึนเมาเลย และเขาจะเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตั้งแต่เกิด
  • ลูกา 1:16 - เขาจะนำชนอิสราเอลมากมายกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของพวกเขา
  • ลูกา 1:17 - และเขาจะนำหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยจิตใจและฤทธิ์อำนาจของเอลียาห์ เพื่อให้จิตใจของบิดาหันมาหาบุตรและให้คนดื้อด้านหันมาสู่สติปัญญาของผู้ชอบธรรม เพื่อจัดเตรียมชนชาติหนึ่งไว้สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า”
  • ยอห์น 1:6 - มีชายผู้หนึ่งที่พระเจ้าทรงส่งมา เขาชื่อยอห์น
  • ยอห์น 1:7 - เขามาในฐานะพยานเพื่อยืนยันเกี่ยวกับความสว่างนั้น เพื่อว่าคนทั้งปวงจะได้เชื่อผ่านทางเขา
  • ยอห์น 1:8 - เขาเองไม่ใช่ความสว่างนั้น เขาเป็นเพียงแค่พยานของความสว่างนั้น
  • มัทธิว 16:14 - สาวกทูลว่า “บางคนก็ว่าเป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา บางคนว่าเป็นเอลียาห์ ยังมีบางคนว่าเป็นเยเรมีย์หรือผู้เผยพระวจนะคนใดคนหนึ่ง”
  • มัทธิว 11:11 - เราบอกความจริงแก่ท่านว่าในบรรดาผู้ที่เกิดจากผู้หญิงไม่มีคนไหนยิ่งใหญ่กว่ายอห์นผู้ให้บัพติศมา กระนั้นผู้ต่ำต้อยที่สุดในอาณาจักรสวรรค์ก็ยังยิ่งใหญ่กว่ายอห์น
  • อิสยาห์ 40:3 - เสียงของผู้หนึ่งร้องว่า “จงเตรียมทางในถิ่นกันดาร สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางหลวงของพระเจ้า ในถิ่นกันดารให้ตรงไป
  • อิสยาห์ 40:4 - หุบเขาทุกแห่งจะถูกยกขึ้น ภูเขาและเนินเขาทุกแห่งจะถูกทำให้ต่ำลง พื้นดินขรุขระจะถูกทำให้เรียบ ที่ลุ่มๆ ดอนๆ จะถูกทำให้เป็นที่ราบ
  • อิสยาห์ 40:5 - แล้วพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการเปิดเผย และมวลมนุษยชาติจะได้เห็นร่วมกัน เพราะพระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้แล้ว”
  • อิสยาห์ 40:6 - เสียงหนึ่งกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “จงร้องเถิด” และข้าพเจ้าถามว่า “ข้าพเจ้าควรจะร้องว่าอะไร?” เสียงนั้นกล่าวว่า “มวลมนุษยชาตินั้นเหมือนหญ้า และเกียรติทั้งปวงของพวกเขาก็เหมือนดอกไม้ในท้องทุ่ง
逐节对照交叉引用
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ครั้งนั้นยอห์นผู้ให้บัพติศมาได้มาเทศนาในถิ่นกันดารแห่งแคว้นยูเดีย
  • 新标点和合本 - 那时,有施洗的约翰出来,在犹太的旷野传道,说:
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 在那些日子,施洗的约翰出来,在犹太的旷野宣讲:
  • 和合本2010(神版-简体) - 在那些日子,施洗的约翰出来,在犹太的旷野宣讲:
  • 当代译本 - 那时,施洗者约翰来到犹太的旷野传道,说:
  • 圣经新译本 - 那时,施洗的约翰出来,在犹太的旷野传道,
  • 中文标准译本 - 在那些日子里,施洗者 约翰来了,在犹太的旷野传道,
  • 现代标点和合本 - 那时,有施洗的约翰出来,在犹太的旷野传道说:
  • 和合本(拼音版) - 那时,有施洗的约翰出来,在犹太的旷野传道,说:
  • New International Version - In those days John the Baptist came, preaching in the wilderness of Judea
  • New International Reader's Version - In those days John the Baptist came and preached in the Desert of Judea.
  • English Standard Version - In those days John the Baptist came preaching in the wilderness of Judea,
  • New Living Translation - In those days John the Baptist came to the Judean wilderness and began preaching. His message was,
  • The Message - While Jesus was living in the Galilean hills, John, called “the Baptizer,” was preaching in the desert country of Judea. His message was simple and austere, like his desert surroundings: “Change your life. God’s kingdom is here.”
  • Christian Standard Bible - In those days John the Baptist came, preaching in the wilderness of Judea
  • New American Standard Bible - Now in those days John the Baptist * came, preaching in the wilderness of Judea, saying,
  • New King James Version - In those days John the Baptist came preaching in the wilderness of Judea,
  • Amplified Bible - In those days John the Baptist appeared, preaching in the Wilderness of Judea [along the western side of the Dead Sea] and saying,
  • American Standard Version - And in those days cometh John the Baptist, preaching in the wilderness of Judæa, saying,
  • King James Version - In those days came John the Baptist, preaching in the wilderness of Judaea,
  • New English Translation - In those days John the Baptist came into the wilderness of Judea proclaiming,
  • World English Bible - In those days, John the Baptizer came, preaching in the wilderness of Judea, saying,
  • 新標點和合本 - 那時,有施洗的約翰出來,在猶太的曠野傳道,說:
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 在那些日子,施洗的約翰出來,在猶太的曠野宣講:
  • 和合本2010(神版-繁體) - 在那些日子,施洗的約翰出來,在猶太的曠野宣講:
  • 當代譯本 - 那時,施洗者約翰來到猶太的曠野傳道,說:
  • 聖經新譯本 - 那時,施洗的約翰出來,在猶太的曠野傳道,
  • 呂振中譯本 - 當那些日子、施洗者 約翰 出來,在 猶太 的野地宣傳
  • 中文標準譯本 - 在那些日子裡,施洗者 約翰來了,在猶太的曠野傳道,
  • 現代標點和合本 - 那時,有施洗的約翰出來,在猶太的曠野傳道說:
  • 文理和合譯本 - 維時、施洗約翰至、宣言於猶太野、
  • 文理委辦譯本 - 維時、施洗約翰至猶太野、言曰、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 維時有施洗 約翰 來、在 猶太 曠野宣道曰、
  • 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 維時、施洗者 如望 宣道於 猶太 曠野中曰:
  • Nueva Versión Internacional - En aquellos días se presentó Juan el Bautista predicando en el desierto de Judea.
  • 현대인의 성경 - 그 무렵 세례 요한이 유대 광야에서
  • Новый Русский Перевод - В те дни Иоанн Креститель начал проповедовать в Иудейской пустыне.
  • Восточный перевод - В те дни пророк Яхия начал проповедовать в Иудейской пустыне.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - В те дни пророк Яхия начал проповедовать в Иудейской пустыне.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - В те дни пророк Яхьё начал проповедовать в Иудейской пустыне.
  • La Bible du Semeur 2015 - En ce temps-là, parut Jean-Baptiste. Il se mit à prêcher dans le désert de Judée .
  • リビングバイブル - ヨセフの一家がナザレに住んでいたころ、バプテスマのヨハネがユダヤの荒野で教えを宣べ始めて、言いました。
  • Nestle Aland 28 - Ἐν δὲ ταῖς ἡμέραις ἐκείναις παραγίνεται Ἰωάννης ὁ βαπτιστὴς κηρύσσων ἐν τῇ ἐρήμῳ τῆς Ἰουδαίας
  • unfoldingWord® Greek New Testament - ἐν δὲ ταῖς ἡμέραις ἐκείναις παραγίνεται Ἰωάννης ὁ Βαπτιστὴς, κηρύσσων ἐν τῇ ἐρήμῳ τῆς Ἰουδαίας
  • Nova Versão Internacional - Naqueles dias, surgiu João Batista, pregando no deserto da Judeia.
  • Hoffnung für alle - In jener Zeit fing Johannes der Täufer an, in der judäischen Wüste zu predigen.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Lúc đó, Giăng Báp-tít bắt đầu giảng dạy trong đồng hoang xứ Giu-đê:
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ใน​ครั้ง​นั้น​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา ​มา​ประกาศ​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​แคว้น​ยูเดีย​ว่า
  • ยอห์น 1:15 - ยอห์นเป็นพยานเกี่ยวกับพระองค์ เขาร้องประกาศว่า “นี่คือผู้ซึ่งเราได้บอกไว้ว่า ‘พระองค์ผู้เสด็จมาภายหลังเราทรงยิ่งใหญ่กว่าเราเพราะพระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนเรา’ ”
  • ยอห์น 1:16 - เราทั้งปวงได้รับพระพรครั้งแล้วครั้งเล่าจากความบริบูรณ์แห่งพระคุณของพระองค์
  • ยอห์น 1:17 - เพราะบทบัญญัติประทานมาทางโมเสส ส่วนพระคุณและความจริงมาทางพระเยซูคริสต์
  • ยอห์น 1:18 - ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า แต่พระเจ้าคือพระบุตรองค์เดียว ผู้ทรงอยู่เคียงข้างพระบิดาได้ทรงทำให้พระองค์เป็นที่ประจักษ์แล้ว
  • ยอห์น 1:19 - นี่คือคำพยานของยอห์น เมื่อชาวยิวที่กรุงเยรูซาเล็มส่งพวกปุโรหิตและคนเลวีมาถามว่าเขาเป็นใคร
  • ยอห์น 1:20 - เขาไม่ได้ปิดบังความจริง เขายอมรับอย่างเปิดเผยว่า “เราไม่ใช่พระคริสต์ ”
  • ยอห์น 1:21 - พวกนั้นจึงถามว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นใคร? ท่านเป็นเอลียาห์หรือ?” เขาบอกว่า “ไม่ใช่” เมื่อถามว่า “ท่านเป็นผู้เผยพระวจนะนั้นหรือ?” เขาก็ตอบว่า “ไม่ใช่”
  • ยอห์น 1:22 - ในที่สุดพวกเขาจึงกล่าวว่า “ท่านเป็นใคร? จงตอบมาเถิด เราจะได้ไปบอกผู้ที่ส่งเรามา ท่านอ้างว่าตัวท่านเองเป็นใคร?”
  • ยอห์น 1:23 - ยอห์นตอบโดยยกคำของผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ว่า “เราคือเสียงของผู้ที่ร้องในถิ่นกันดารว่า ‘จงทำทางสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงไป’ ”
  • ยอห์น 1:24 - พวกฟาริสีบางคนที่ถูกส่งมา
  • ยอห์น 1:25 - จึงถามเขาว่า “ถ้าท่านไม่ใช่พระคริสต์ ไม่ใช่เอลียาห์ หรือผู้เผยพระวจนะนั้น ทำไมท่านจึงให้บัพติศมา?”
  • ยอห์น 1:26 - ยอห์นตอบว่า “เราให้บัพติศมาด้วย น้ำ แต่มีผู้หนึ่งในหมู่พวกท่านซึ่งพวกท่านไม่รู้จัก
  • ยอห์น 1:27 - พระองค์ทรงเป็นผู้ที่จะมาภายหลังเรา เราไม่คู่ควรแม้แต่จะแก้สายรัดฉลองพระบาทของพระองค์”
  • ยอห์น 1:28 - ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเบธานีที่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน ที่ซึ่งยอห์นกำลังให้บัพติศมา
  • ยอห์น 1:29 - วันต่อมายอห์นเห็นพระเยซูเสด็จมาทางเขา จึงกล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดก ของพระเจ้า ผู้ทรงรับบาปของโลกไป!
  • ยอห์น 1:30 - นี่แหละคือผู้ที่เราหมายถึง เมื่อเรากล่าวว่า ‘พระองค์ผู้ทรงมาภายหลังเราทรงยิ่งใหญ่กว่าเราเพราะพระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนเรา’
  • ยอห์น 1:31 - เราเองไม่รู้จักพระองค์ แต่เหตุผลที่เรามาให้บัพติศมาด้วยน้ำก็เพื่อให้พระองค์เป็นที่ประจักษ์แก่อิสราเอล”
  • ยอห์น 1:32 - แล้วยอห์นเป็นพยานดังนี้ว่า “เราเห็นพระวิญญาณลงมาจากสวรรค์ดั่งนกพิราบและสถิตกับพระองค์
  • ยอห์น 1:33 - เราคงไม่รู้ว่าพระองค์เป็นใคร แต่ผู้ที่ทรงใช้ให้เรามาให้บัพติศมาด้วยน้ำตรัสบอกเราไว้ว่า ‘เจ้าเห็นพระวิญญาณลงมาสถิตกับผู้ใด ผู้นั้นคือผู้ที่จะให้บัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
  • ยอห์น 1:34 - เราได้เห็นแล้ว และเราเป็นพยานได้ว่าผู้นี้คือพระบุตรของพระเจ้า’ ” ( มธ.4:18-22 ; มก.1:16-20 ; ลก.5:2-11 )
  • ยอห์น 1:35 - วันรุ่งขึ้น ยอห์นกับสาวกสองคนก็อยู่ที่นั่นอีก
  • ยอห์น 1:36 - เมื่อเขาเห็นพระเยซูเสด็จผ่านไป จึงกล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า!”
  • มัทธิว 14:2 - จึงกล่าวแก่บริวารว่า “นี่คือยอห์นผู้ให้บัพติศมาซึ่งได้เป็นขึ้นจากตาย! จึงทำให้เขามีฤทธิ์อำนาจทำการอัศจรรย์ต่างๆ ได้”
  • มัทธิว 14:3 - เฮโรดได้จับยอห์นจองจำไว้ในคุก ด้วยสาเหตุจากนางเฮโรเดียสภรรยาของฟีลิปน้องชายของตน
  • มัทธิว 14:4 - เนื่องจากยอห์นเคยพูดกับเขาว่า “เป็นการผิดธรรมบัญญัติที่ท่านรับนางมาเป็นภรรยา”
  • มัทธิว 14:5 - เฮโรดอยากจะฆ่ายอห์น แต่ก็กลัวประชาชนเพราะพวกเขาถือว่ายอห์นคือผู้เผยพระวจนะ
  • มัทธิว 14:6 - ในงานฉลองวันเกิดของเฮโรด บุตรีของนางเฮโรเดียสได้มาเต้นรำให้ชมและทำให้เฮโรดพอใจมาก
  • มัทธิว 14:7 - เขาจึงสัญญาโดยปฏิญาณว่าจะให้ทุกอย่างที่นางขอ
  • มัทธิว 14:8 - นางจึงทูลตามที่มารดาชี้แนะว่า “ขอศีรษะของยอห์นผู้ให้บัพติศใส่ถาดมาให้หม่อมฉันที่นี่เถิด”
  • มัทธิว 14:9 - กษัตริย์ก็เป็นทุกข์ แต่ขัดไม่ได้เพราะได้ปฏิญาณไว้และเห็นแก่หน้าแขกเหรื่อ จึงบัญชาให้เป็นไปตามที่นางขอ
  • มัทธิว 14:10 - ยอห์นจึงถูกตัดศีรษะในคุก
  • มัทธิว 14:11 - เขาเอาศีรษะของยอห์นใส่ถาดแล้วนำมาให้หญิงนั้น นางก็ยกไปให้มารดา
  • มัทธิว 14:12 - สาวกของยอห์นมารับศพไปฝัง แล้วมาทูลพระเยซู ( มก.6:32-44 ; ลก.9:10-17 ; ยน.6:1-13 )
  • มัทธิว 14:13 - เมื่อพระเยซูทรงทราบสิ่งที่เกิดขึ้นก็ลงเรือเสด็จจากที่นั่นไปยังที่สงบเงียบเป็นการส่วนพระองค์ ประชาชนจากเมืองต่างๆ ได้ยินเช่นนี้ก็เดินไปหาพระองค์
  • มัทธิว 14:14 - เมื่อพระเยซูเสด็จขึ้นจากเรือและทรงเห็นคนกลุ่มใหญ่ พระองค์ก็ทรงสงสารเขาและทรงรักษาคนเจ็บป่วยในหมู่พวกเขา
  • ยอห์น 3:27 - ยอห์นตอบคำกล่าวนี้ว่า “มนุษย์ได้รับก็แต่เพียงสิ่งที่ประทานให้เขาจากสวรรค์
  • ยอห์น 3:28 - พวกท่านเองก็เป็นพยานได้ถึงคำพูดของเราที่ว่า ‘เราไม่ใช่พระคริสต์ แต่เราถูกส่งมานำเสด็จพระองค์’
  • ยอห์น 3:29 - เจ้าสาวย่อมเป็นของเจ้าบ่าว เพื่อนผู้ดูแลเจ้าบ่าวก็คอยฟังเขาอยู่ และเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีเมื่อได้ยินเสียงของเจ้าบ่าว เราก็มีความชื่นชมยินดีเช่นนั้น และบัดนี้ความชื่นชมยินดีนั้นก็เต็มบริบูรณ์แล้ว
  • ยอห์น 3:30 - พระองค์จะต้องยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนเราต้องด้อยลง
  • ยอห์น 3:31 - “ผู้มาจากเบื้องบนนั้นย่อมอยู่เหนือสิ่งทั้งปวง ผู้ที่มาจากโลกย่อมเป็นของโลกและพูดอย่างคนที่มาจากโลก พระองค์ผู้เสด็จมาจากสวรรค์ทรงอยู่เหนือสิ่งทั้งปวง
  • ยอห์น 3:32 - พระองค์ทรงเป็นพยานถึงสิ่งที่พระองค์ทรงเห็นและทรงสดับ แต่ไม่มีใครรับคำพยานของพระองค์
  • ยอห์น 3:33 - ผู้ที่รับคำพยานนั้นก็ให้การรับรองว่าพระเจ้าทรงสัตย์จริง
  • ยอห์น 3:34 - เพราะผู้ที่พระเจ้าทรงส่งมาย่อมกล่าวพระวจนะของพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้า ประทานพระวิญญาณโดยไม่จำกัด
  • ยอห์น 3:35 - พระบิดาทรงรักพระบุตรและทรงมอบทุกสิ่งไว้ในพระหัตถ์ของพระบุตร
  • ยอห์น 3:36 - ผู้ใดที่เชื่อในพระบุตรก็มีชีวิตนิรันดร์ แต่ผู้ใดที่ไม่ยอมรับพระบุตรก็จะไม่ได้เห็นชีวิต เพราะพระพิโรธของพระเจ้ายังอยู่กับเขา”
  • มัทธิว 21:25 - คือบัพติศมาของยอห์นมาจากไหน? จากสวรรค์หรือจากมนุษย์?” พวกเขาหารือกันว่า “ถ้าตอบว่า ‘มาจากสวรรค์’ เขาก็จะถามว่า ‘แล้วทำไมท่านไม่เชื่อยอห์น?’
  • มัทธิว 21:26 - แต่ถ้าเราตอบว่า ‘มาจากมนุษย์’ เราก็กลัวประชาชนเพราะพวกเขาล้วนถือว่ายอห์นเป็นผู้เผยพระวจนะ”
  • มัทธิว 21:27 - ดังนั้นพวกเขาจึงทูลตอบพระเยซูว่า “เราไม่ทราบ” พระองค์จึงตรัสว่า “เราก็จะไม่บอกพวกท่านเช่นกันว่าเราอาศัยสิทธิอำนาจใดที่ทำสิ่งเหล่านี้
  • มาระโก 1:3 - “เสียงของผู้หนึ่งร้องในถิ่นกันดารว่า ‘จงเตรียมทางสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางสำหรับพระองค์ให้ตรงไป’ ”
  • มาระโก 1:4 - แล้วยอห์นผู้ให้บัพติศมาก็ได้ปรากฏตัวในถิ่นกันดารและเทศนาเรื่องบัพติศมาอันแสดงถึงการกลับใจใหม่เพื่อรับการอภัยโทษบาป
  • มาระโก 1:5 - ผู้คนทั่วแคว้นยูเดียและชาวกรุงเยรูซาเล็มพากันมาหายอห์น เมื่อสารภาพบาปทั้งหลายของตนแล้ว ยอห์นก็ให้เขาทั้งหลายรับบัพติศมาในแม่น้ำจอร์แดน
  • มาระโก 1:6 - ยอห์นสวมเสื้อผ้าที่ทำจากขนอูฐ คาดเข็มขัดหนัง และกินตั๊กแตนกับน้ำผึ้งป่าเป็นอาหาร
  • มาระโก 1:7 - เขาประกาศว่า “ภายหลังเราจะมีผู้หนึ่งเสด็จมา ทรงยิ่งใหญ่กว่าเรา ซึ่งเราไม่คู่ควรแม้แต่จะโน้มกายลงแก้สายฉลองพระบาทของพระองค์
  • มาระโก 1:8 - เราให้ท่านทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่พระองค์จะทรงให้ท่านทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์” ( มธ.3:13-17 ; 4:1-11 ; ลก.3:21 , 22 ; 4:1-13 )
  • โยชูวา 15:61 - ในถิ่นกันดารได้แก่ เบธอาราบาห์ มิดดีน เสคะคาห์
  • โยชูวา 15:62 - นิบชาน เมืองเกลือ และเอนเกดี รวม 6 เมืองกับหมู่บ้านต่างๆ
  • มาระโก 6:16 - แต่เมื่อเฮโรดได้ยินก็กล่าวว่า “นี่คือยอห์นที่เราสั่งให้ตัดศีรษะไป เขาเป็นขึ้นจากตายแล้ว!”
  • มาระโก 6:17 - เพราะเฮโรดเองสั่งให้จับยอห์นมาล่ามโซ่ขังไว้ในคุกด้วยสาเหตุจากนางเฮโรเดียสภรรยาของฟีลิปน้องชายของตนซึ่งเฮโรดได้นางมาเป็นภรรยา
  • มาระโก 6:18 - เนื่องจากยอห์นเคยพูดกับเฮโรดว่า “ท่านทำผิดบัญญัติที่เอาน้องสะใภ้มาเป็นภรรยา”
  • มาระโก 6:19 - ดังนั้นนางเฮโรเดียสจึงอาฆาตยอห์นและอยากจะฆ่าเขาแต่ก็ทำไม่ได้
  • มาระโก 6:20 - เพราะเฮโรดยำเกรงยอห์นและคอยปกป้องเขาเพราะรู้ว่าเขาเป็นผู้ชอบธรรมและบริสุทธิ์ เมื่อเฮโรดได้ฟังยอห์นพูดก็งุนงงสงสัยยิ่งนัก แต่ก็ยังอยากฟัง
  • มาระโก 6:21 - ในที่สุดโอกาสก็มาถึง ในงานฉลองวันเกิดเฮโรดจัดงานเลี้ยงขุนนาง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ และบรรดาคนสำคัญๆ ในแคว้นกาลิลี
  • มาระโก 6:22 - เมื่อบุตรีของนางเฮโรเดียสออกมาเต้นรำก็เป็นที่ถูกใจเฮโรดกับแขกเหรื่อยิ่งนัก กษัตริย์จึงกล่าวกับหญิงสาวนั้นว่า “จงขอสิ่งที่เจ้าต้องการแล้วเราจะให้ตามที่เจ้าขอ”
  • มาระโก 6:23 - และสัญญาโดยปฏิญาณว่า “ไม่ว่าเจ้าจะขออะไร เราก็จะให้ทั้งนั้นจนถึงครึ่งหนึ่งของอาณาจักร”
  • มาระโก 6:24 - นางจึงออกไปถามมารดาว่า “ลูกจะขออะไรดี?” มารดาบอกว่า “ขอศีรษะยอห์นผู้ให้บัพติศมาสิ”
  • มาระโก 6:25 - นางรีบมาทูลกษัตริย์ทันทีว่า “ขอศีรษะของยอห์นผู้ให้บัพติศมาใส่ถาดมาให้หม่อมฉันที่นี่เดี๋ยวนี้เถิด”
  • มาระโก 6:26 - กษัตริย์เฮโรดเป็นทุกข์ยิ่งนักแต่ก็ขัดไม่ได้เพราะได้ปฏิญาณไว้และเพราะเห็นแก่หน้าแขกเหรื่อ
  • มาระโก 6:27 - จึงบัญชาในทันทีทันใดให้เพชฌฆาตนำศีรษะของยอห์นมา เขาก็ไปตัดศีรษะของยอห์นในคุก
  • มาระโก 6:28 - แล้วนำศีรษะใส่ถาดมาให้หญิงนั้นและนางเอาไปให้มารดา
  • มาระโก 6:29 - เมื่อศิษย์ของยอห์นทราบข่าวจึงมารับศพเขาไปฝังในอุโมงค์ ( มธ.14:13-21 ; ลก.9:10-17 ; ยน.6:5-13 )
  • มัทธิว 17:12 - แต่เราบอกพวกท่านว่าเอลียาห์ได้มาแล้วและพวกเขาไม่รู้จักท่าน แต่ทำกับท่านทุกอย่างตามใจชอบ เช่นเดียวกัน บุตรมนุษย์ก็จะทนทุกข์ด้วยน้ำมือของพวกเขา”
  • มัทธิว 17:13 - แล้วเหล่าสาวกก็เข้าใจว่าพระองค์กำลังตรัสถึงยอห์นผู้ให้บัพติศมา ( มก.9:14-28 ; ลก.9:37-42 )
  • มัทธิว 21:32 - เพราะยอห์นมาเพื่อชี้ทางชอบธรรมแก่ท่านและท่านไม่เชื่อ แต่คนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีเชื่อ และแม้ได้เห็นสิ่งนี้แล้วพวกท่านก็ยังไม่ยอมกลับใจมาเชื่อเขา ( มก.12:1-12 ; ลก.20:9-19 )
  • มัทธิว 11:7 - ขณะที่สาวกของยอห์นกำลังจะจากไป พระเยซูก็เริ่มตรัสกับประชาชนเกี่ยวกับยอห์นว่า “พวกท่านออกไปดูอะไรในถิ่นกันดาร? ดูต้นอ้อลู่ตามลมหรือ?
  • มัทธิว 3:8 - จงเกิดผลให้สมกับที่กลับใจใหม่
  • โยชูวา 14:10 - บัดนี้เป็นไปตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาไว้ พระองค์ทรงโปรดให้ข้าพเจ้าอยู่รอดมา 45 ปีนับแต่พระองค์ตรัสกับโมเสสเมื่อครั้งที่อิสราเอลรอนแรมอยู่ในถิ่นกันดาร เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าก็อายุ 85 ปีแล้ว!
  • ผู้วินิจฉัย 1:16 - ชาวเคไนต์ซึ่งเป็นลูกหลานของพ่อตาของโมเสสได้ย้ายจากเยรีโคเมืองแห่งต้นอินทผลัม ติดตามคนยูดาห์มาอาศัยอยู่กับคนในถิ่นกันดารแห่งยูดาห์ในเนเกบใกล้อาราด
  • มาระโก 1:15 - พระองค์ตรัสว่า “ถึงเวลาแล้ว อาณาจักรของพระเจ้ามาใกล้แล้ว จงกลับใจใหม่และเชื่อข่าวประเสริฐ!”
  • กิจการของอัครทูต 1:22 - ตั้งแต่บัพติศมาของยอห์นจนถึงเวลาที่พระเยซูถูกรับขึ้นไปจากเรา เพราะคนนี้จะต้องเป็นพยานร่วมกับเราว่าพระองค์ได้คืนพระชนม์แล้ว”
  • กิจการของอัครทูต 13:24 - ก่อนพระเยซูเสด็จมายอห์นประกาศเรื่องการกลับใจใหม่และการรับบัพติศมาแก่ปวงชนอิสราเอล
  • กิจการของอัครทูต 13:25 - เมื่อยอห์นทำงานของตนใกล้จะเสร็จแล้วเขากล่าวว่า ‘พวกท่านคิดว่าข้าพเจ้าเป็นใคร? ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้ที่พวกท่านกำลังมองหาอยู่ แต่มีผู้หนึ่งกำลังจะมาภายหลังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะถอดฉลองพระบาทของพระองค์’
  • ลูกา 1:76 - “ส่วนเจ้า ลูกของพ่อ เจ้าจะได้ชื่อว่าผู้เผยพระวจนะขององค์ผู้สูงสุด เพราะเจ้าจะนำหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเตรียมทางสำหรับพระองค์
  • ลูกา 7:24 - เมื่อศิษย์ของยอห์นไปแล้ว พระเยซูจึงเริ่มตรัสกับประชาชนเกี่ยวกับยอห์นว่า “พวกท่านออกไปดูอะไรในถิ่นกันดาร? ดูต้นอ้อลู่ตามลมหรือ?
  • ลูกา 3:1 - ในปีที่สิบห้าแห่งรัชกาลทิเบริอัสซีซาร์ ขณะนั้นปอนทิอัสปีลาตเป็นผู้ว่าการแคว้นยูเดีย เฮโรดครองแคว้นกาลิลี ส่วนฟีลิปน้องชายของเฮโรดครองแคว้นอิทูเรียและตราโคนิติส ลีซาเนียสครองแคว้นอาบีเลน
  • ลูกา 3:2 - ในสมัยที่อันนาสกับคายาฟาสเป็นมหาปุโรหิต พระวจนะของพระเจ้าก็ได้มาถึงยอห์นบุตรเศคาริยาห์ในถิ่นกันดาร
  • ลูกา 3:3 - เขาไปทั่วแถบลุ่มแม่น้ำจอร์แดน ประกาศบัพติศมาแห่งการกลับใจใหม่เพื่อรับการอภัยบาป
  • ลูกา 3:4 - ดังที่เขียนไว้ในหนังสือของผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ว่า “เสียงของผู้หนึ่งร้องในถิ่นกันดารว่า ‘จงเตรียมทางสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางสำหรับพระองค์ให้ตรงไป
  • ลูกา 3:5 - หุบเขาทุกแห่งจะถูกถมให้เต็ม ภูเขาและเนินเขาทุกแห่งจะถูกทำให้ต่ำลง ทางคดเคี้ยวจะกลายเป็นทางตรง ทางขรุขระจะกลับราบเรียบ
  • ลูกา 3:6 - และมวลมนุษยชาติจะเห็นความรอดของพระเจ้า’ ”
  • ลูกา 3:7 - ยอห์นกล่าวกับฝูงชนที่มารับบัพติศมาจากเขาว่า “เจ้าชาติงูร้าย! ใครตักเตือนพวกเจ้าให้หนีจากพระพิโรธที่จะมาถึง?
  • ลูกา 3:8 - จงเกิดผลให้สมกับที่กลับใจใหม่และอย่านึกว่า ‘พวกเรามีอับราฮัมเป็นบรรพบุรุษ’ เพราะเราบอกท่านว่าพระเจ้าทรงสามารถทำให้ลูกหลานของอับราฮัมเกิดจากก้อนหินเหล่านี้ได้
  • ลูกา 3:9 - ขวานนั้นอยู่ที่โคนต้นไม้แล้วและทุกต้นที่ไม่ให้ผลดีจะถูกโค่นและโยนลงในไฟ”
  • ลูกา 3:10 - ประชาชนถามว่า “ถ้าเช่นนั้นเราควรทำอย่างไร?”
  • ลูกา 3:11 - ยอห์นตอบว่า “ผู้ที่มีเสื้อสองตัวจงแบ่งให้ผู้ที่ไม่มีและคนที่มีอาหารก็ควรแบ่งปันเช่นกัน”
  • ลูกา 3:12 - คนเก็บภาษีมาขอรับบัพติศมาด้วย พวกเขาถามว่า “ท่านอาจารย์ เราควรทำอย่างไร?”
  • ลูกา 3:13 - เขาตอบว่า “อย่าเก็บภาษีเกินพิกัด”
  • ลูกา 3:14 - แล้วพวกทหารก็มาถามด้วยว่า “และเราควรทำอย่างไร?” เขาตอบว่า “อย่าข่มขู่เอาเงินและอย่าใส่ร้ายใคร จงพอใจกับค่าจ้างของตน”
  • ลูกา 3:15 - ประชาชนกำลังใจจดใจจ่อรอคอยและทุกคนล้วนสงสัยว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ยอห์นจะเป็นพระคริสต์
  • ลูกา 3:16 - ยอห์นตอบพวกเขาทั้งหมดว่า “เราให้ท่านรับบัพติศมาด้วย น้ำ แต่ผู้หนึ่งซึ่งทรงฤทธิ์อำนาจยิ่งกว่าเราจะเสด็จมาซึ่งเราไม่คู่ควรแม้แต่จะแก้สายฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้ท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ
  • ลูกา 3:17 - พระองค์ทรงถือพลั่วพร้อมอยู่ในพระหัตถ์เพื่อจะทรงเก็บกวาดลานนวดข้าวและเพื่อจะรวบรวมข้าวไว้ในยุ้งฉางของพระองค์ แต่พระองค์จะทรงเผาแกลบด้วยไฟอันไม่รู้ดับ”
  • ลูกา 3:18 - ยอห์นได้แนะนำตักเตือนประชาชนอีกหลายประการและประกาศข่าวประเสริฐแก่พวกเขา
  • ลูกา 3:19 - แต่เมื่อยอห์นตำหนิเฮโรดผู้ครองแคว้นเรื่องนางเฮโรเดียสภรรยาของน้องชายเฮโรดและสารพัดการชั่วอื่นๆ ที่เฮโรดได้ทำ
  • ลูกา 3:20 - เฮโรดก็ทำชั่วหนักขึ้นโดยจับยอห์นขังคุก ( มธ.1:1-17 ; 3:13-17 ; มก.1:9-11 )
  • กิจการของอัครทูต 19:3 - ดังนั้นเปาโลจึงถามว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านได้รับบัพติศมาอะไร?” พวกเขาตอบว่า “บัพติศมาของยอห์น”
  • กิจการของอัครทูต 19:4 - เปาโลจึงกล่าวว่า “บัพติศมาของยอห์นคือบัพติศมาที่แสดงการกลับใจใหม่ ยอห์นได้บอกประชาชนให้เชื่อในพระองค์ผู้ซึ่งมาภายหลังท่านคือให้เชื่อในพระเยซู”
  • ลูกา 1:13 - แต่ทูตนั้นกล่าวกับเขาว่า “เศคาริยาห์เอ๋ย อย่ากลัวเลย พระเจ้าทรงได้ยินคำอธิษฐานของท่านแล้ว เอลีซาเบธภรรยาของท่านจะคลอดบุตรชาย จงตั้งชื่อเขาว่ายอห์น
  • ลูกา 1:14 - เขาจะเป็นความชื่นชมยินดีและความสุขใจแก่ท่านและคนทั้งหลายจะปีติยินดีที่เขาเกิดมา
  • ลูกา 1:15 - เพราะเขาจะยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นและของมึนเมาเลย และเขาจะเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตั้งแต่เกิด
  • ลูกา 1:16 - เขาจะนำชนอิสราเอลมากมายกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของพวกเขา
  • ลูกา 1:17 - และเขาจะนำหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยจิตใจและฤทธิ์อำนาจของเอลียาห์ เพื่อให้จิตใจของบิดาหันมาหาบุตรและให้คนดื้อด้านหันมาสู่สติปัญญาของผู้ชอบธรรม เพื่อจัดเตรียมชนชาติหนึ่งไว้สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า”
  • ยอห์น 1:6 - มีชายผู้หนึ่งที่พระเจ้าทรงส่งมา เขาชื่อยอห์น
  • ยอห์น 1:7 - เขามาในฐานะพยานเพื่อยืนยันเกี่ยวกับความสว่างนั้น เพื่อว่าคนทั้งปวงจะได้เชื่อผ่านทางเขา
  • ยอห์น 1:8 - เขาเองไม่ใช่ความสว่างนั้น เขาเป็นเพียงแค่พยานของความสว่างนั้น
  • มัทธิว 16:14 - สาวกทูลว่า “บางคนก็ว่าเป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา บางคนว่าเป็นเอลียาห์ ยังมีบางคนว่าเป็นเยเรมีย์หรือผู้เผยพระวจนะคนใดคนหนึ่ง”
  • มัทธิว 11:11 - เราบอกความจริงแก่ท่านว่าในบรรดาผู้ที่เกิดจากผู้หญิงไม่มีคนไหนยิ่งใหญ่กว่ายอห์นผู้ให้บัพติศมา กระนั้นผู้ต่ำต้อยที่สุดในอาณาจักรสวรรค์ก็ยังยิ่งใหญ่กว่ายอห์น
  • อิสยาห์ 40:3 - เสียงของผู้หนึ่งร้องว่า “จงเตรียมทางในถิ่นกันดาร สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางหลวงของพระเจ้า ในถิ่นกันดารให้ตรงไป
  • อิสยาห์ 40:4 - หุบเขาทุกแห่งจะถูกยกขึ้น ภูเขาและเนินเขาทุกแห่งจะถูกทำให้ต่ำลง พื้นดินขรุขระจะถูกทำให้เรียบ ที่ลุ่มๆ ดอนๆ จะถูกทำให้เป็นที่ราบ
  • อิสยาห์ 40:5 - แล้วพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการเปิดเผย และมวลมนุษยชาติจะได้เห็นร่วมกัน เพราะพระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้แล้ว”
  • อิสยาห์ 40:6 - เสียงหนึ่งกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “จงร้องเถิด” และข้าพเจ้าถามว่า “ข้าพเจ้าควรจะร้องว่าอะไร?” เสียงนั้นกล่าวว่า “มวลมนุษยชาตินั้นเหมือนหญ้า และเกียรติทั้งปวงของพวกเขาก็เหมือนดอกไม้ในท้องทุ่ง
圣经
资源
计划
奉献