Brand Logo
  • 圣经
  • 资源
  • 计划
  • 联系我们
  • APP下载
  • 圣经
  • 搜索
  • 原文研究
  • 逐节对照
我的
跟随系统浅色深色简体中文香港繁體台灣繁體English
奉献
24:44 TNCV
逐节对照
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “นี่คือสิ่งที่เราบอกไว้เมื่อยังอยู่กับท่านทั้งหลาย คือทุกสิ่งต้องสำเร็จตามที่เขียนไว้เกี่ยวกับเราในหนังสือบัญญัติของโมเสส หนังสือผู้เผยพระวจนะ และในหนังสือสดุดี”
  • 新标点和合本 - 耶稣对他们说:“这就是我从前与你们同在之时所告诉你们的话说:摩西的律法、先知的书,和诗篇上所记的,凡指着我的话都必须应验。”
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 耶稣对他们说:“这就是我从前和你们同在时所告诉你们的话:摩西的律法、先知的书,和《诗篇》上所记一切指着我的话都必须应验。”
  • 和合本2010(神版-简体) - 耶稣对他们说:“这就是我从前和你们同在时所告诉你们的话:摩西的律法、先知的书,和《诗篇》上所记一切指着我的话都必须应验。”
  • 当代译本 - 耶稣对他们说:“我跟你们在一起的时候曾经说过,摩西的律法书、先知的书以及诗篇里有关我的记载都要应验。”
  • 圣经新译本 - 主对他们说:“这就是我从前与你们同在的时候,对你们说过的话:摩西的律法、先知书和诗篇上所记关于我的一切事,都必定应验。”
  • 中文标准译本 - 耶稣对他们说:“这就是我还与你们在一起的时候,对你们说过的话:摩西的律法、先知书和诗篇上所记的有关我的一切事,都必须应验。”
  • 现代标点和合本 - 耶稣对他们说:“这就是我从前与你们同在之时所告诉你们的话说:摩西的律法、先知的书和诗篇上所记的,凡指着我的话都必须应验。”
  • 和合本(拼音版) - 耶稣对他们说:“这就是我从前与你们同在之时所告诉你们的话说:摩西的律法、先知的书和诗篇上所记的,凡指着我的话,都必须应验。”
  • New International Version - He said to them, “This is what I told you while I was still with you: Everything must be fulfilled that is written about me in the Law of Moses, the Prophets and the Psalms.”
  • New International Reader's Version - Jesus said to them, “This is what I told you while I was still with you. Everything written about me in the Law of Moses, the Prophets and the Psalms must come true.”
  • English Standard Version - Then he said to them, “These are my words that I spoke to you while I was still with you, that everything written about me in the Law of Moses and the Prophets and the Psalms must be fulfilled.”
  • New Living Translation - Then he said, “When I was with you before, I told you that everything written about me in the law of Moses and the prophets and in the Psalms must be fulfilled.”
  • The Message - Then he said, “Everything I told you while I was with you comes to this: All the things written about me in the Law of Moses, in the Prophets, and in the Psalms have to be fulfilled.”
  • Christian Standard Bible - He told them, “These are my words that I spoke to you while I was still with you — that everything written about me in the Law of Moses, the Prophets, and the Psalms must be fulfilled.”
  • New American Standard Bible - Now He said to them, “These are My words which I spoke to you while I was still with you, that all the things that are written about Me in the Law of Moses and the Prophets and the Psalms must be fulfilled.”
  • New King James Version - Then He said to them, “These are the words which I spoke to you while I was still with you, that all things must be fulfilled which were written in the Law of Moses and the Prophets and the Psalms concerning Me.”
  • Amplified Bible - Then He said to them, “This is what I told you while I was still with you, everything which has been written about Me in the Law of Moses and the [writings of the] Prophets and the Psalms must be fulfilled.”
  • American Standard Version - And he said unto them, These are my words which I spake unto you, while I was yet with you, that all things must needs be fulfilled, which are written in the law of Moses, and the prophets, and the psalms, concerning me.
  • King James Version - And he said unto them, These are the words which I spake unto you, while I was yet with you, that all things must be fulfilled, which were written in the law of Moses, and in the prophets, and in the psalms, concerning me.
  • New English Translation - Then he said to them, “These are my words that I spoke to you while I was still with you, that everything written about me in the law of Moses and the prophets and the psalms must be fulfilled.”
  • World English Bible - He said to them, “This is what I told you, while I was still with you, that all things which are written in the law of Moses, the prophets, and the psalms, concerning me must be fulfilled.”
  • 新標點和合本 - 耶穌對他們說:「這就是我從前與你們同在之時所告訴你們的話說:摩西的律法、先知的書,和詩篇上所記的,凡指着我的話都必須應驗。」
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 耶穌對他們說:「這就是我從前和你們同在時所告訴你們的話:摩西的律法、先知的書,和《詩篇》上所記一切指着我的話都必須應驗。」
  • 和合本2010(神版-繁體) - 耶穌對他們說:「這就是我從前和你們同在時所告訴你們的話:摩西的律法、先知的書,和《詩篇》上所記一切指着我的話都必須應驗。」
  • 當代譯本 - 耶穌對他們說:「我跟你們在一起的時候曾經說過,摩西的律法書、先知的書以及詩篇裡有關我的記載都要應驗。」
  • 聖經新譯本 - 主對他們說:“這就是我從前與你們同在的時候,對你們說過的話:摩西的律法、先知書和詩篇上所記關於我的一切事,都必定應驗。”
  • 呂振中譯本 - 耶穌又對他們說:『我這些話、我從前還和你們同在時所對你們講的話、就是:凡 摩西 《律法書》和《神言人的書》跟《詩篇》上所記的關於我的話、都必須得應驗。』
  • 中文標準譯本 - 耶穌對他們說:「這就是我還與你們在一起的時候,對你們說過的話:摩西的律法、先知書和詩篇上所記的有關我的一切事,都必須應驗。」
  • 現代標點和合本 - 耶穌對他們說:「這就是我從前與你們同在之時所告訴你們的話說:摩西的律法、先知的書和詩篇上所記的,凡指著我的話都必須應驗。」
  • 文理和合譯本 - 謂之曰、此乃我素偕爾時、所語爾者、云、凡摩西律、先知書、及詩篇所載指我者、悉必應也、
  • 文理委辦譯本 - 曰、摩西例、先知書、及詩篇、所載指我者、皆應、我素偕爾、曾言之矣、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 曰、昔我偕爾時、曾告爾云、凡 摩西 律法、先知書、及詩篇所載指我之言、皆必應、今果應矣、
  • 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 耶穌又謂諸徒曰:『曩日與爾同處、予曾明言、 摩西 律先知書與聖詠中所載予事、悉當應驗。』
  • Nueva Versión Internacional - —Cuando todavía estaba yo con ustedes, les decía que tenía que cumplirse todo lo que está escrito acerca de mí en la ley de Moisés, en los profetas y en los salmos.
  • 현대인의 성경 - 그러고서 예수님은 그들에게 “내가 너희와 함께 있을 때 모세의 율법책과 예언서와 시편에 나에 대하여 기록된 모든 것이 이루어져야 한다고 너희에게 말한 것이 바로 이것이다” 하시고
  • Новый Русский Перевод - – Об этом Я и говорил вам, когда был еще с вами, – сказал Он. – Все записанное обо Мне в Законе Моисея, у Пророков и в Псалмах должно исполниться.
  • Восточный перевод - – Об этом Я и говорил вам, когда был ещё с вами, – сказал Он. – Всё записанное обо Мне в Таурате , в Книге Пророков и в Забуре должно исполниться.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - – Об этом Я и говорил вам, когда был ещё с вами, – сказал Он. – Всё записанное обо Мне в Таурате , в Книге Пророков и в Забуре должно исполниться.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - – Об этом Я и говорил вам, когда был ещё с вами, – сказал Он. – Всё записанное обо Мне в Тавроте , в Книге Пророков и в Забуре должно исполниться.
  • La Bible du Semeur 2015 - Puis il leur dit : Voici ce que je vous ai dit quand j’étais encore avec vous : « Il faut que s’accomplisse tout ce qui est écrit de moi dans la Loi de Moïse, dans les prophètes, et dans les Psaumes. »
  • リビングバイブル - イエスは言われました。「以前、いっしょにいた時、モーセや預言者の書いたこと、それに聖書の詩篇にあることは、必ずそのとおりになると話して聞かせたはずです。忘れてしまったのですか。」
  • Nestle Aland 28 - Εἶπεν δὲ πρὸς αὐτούς· οὗτοι οἱ λόγοι μου οὓς ἐλάλησα πρὸς ὑμᾶς ἔτι ὢν σὺν ὑμῖν, ὅτι δεῖ πληρωθῆναι πάντα τὰ γεγραμμένα ἐν τῷ νόμῳ Μωϋσέως καὶ τοῖς προφήταις καὶ ψαλμοῖς περὶ ἐμοῦ.
  • unfoldingWord® Greek New Testament - εἶπεν δὲ πρὸς αὐτούς, οὗτοι οἱ λόγοι μου, οὓς ἐλάλησα πρὸς ὑμᾶς ἔτι ὢν σὺν ὑμῖν, ὅτι δεῖ πληρωθῆναι πάντα τὰ γεγραμμένα ἐν τῷ νόμῳ Μωϋσέως, καὶ τοῖς προφήταις, καὶ ψαλμοῖς, περὶ ἐμοῦ.
  • Nova Versão Internacional - E disse-lhes: “Foi isso que eu falei enquanto ainda estava com vocês: Era necessário que se cumprisse tudo o que a meu respeito está escrito na Lei de Moisés, nos Profetas e nos Salmos”.
  • Hoffnung für alle - Dann sagte er zu ihnen: »Erinnert euch an das, was ich euch angekündigt habe, als ich noch mit euch zusammen war: ›Alles muss sich erfüllen, was bei Mose, bei den Propheten und in den Psalmen über mich steht.‹«
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa nhắc nhở: “Trước đây, khi còn ở với các con, Ta đã từng nói mọi lời Môi-se, các tiên tri, và các Thi Thiên viết về Ta đều phải được ứng nghiệm.”
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระ​เยซู​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “สิ่ง​ที่​เรา​ได้​บอก​เจ้า​ไว้​ขณะ​ที่​เรา​ยัง​อยู่​กับ​เจ้า​ก็​คือ ทุก​สิ่ง​ที่​เขียน​ไว้​เกี่ยว​กับ​เรา​ใน​หมวด​กฎ​บัญญัติ​ของ​โมเสส หมวด​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า และ​หมวด​สดุดี จะ​เกิด​ขึ้น​สำเร็จ​ตาม​นั้น”
交叉引用
  • อาโมส 9:11 - “ในวันนั้นเราจะตั้งเต็นท์ของดาวิด “ที่ล้มลงแล้วขึ้นมาใหม่ เราจะซ่อมแซมสถานที่ที่พังทลายลง และปฏิสังขรณ์ซากปรักหักพัง และสร้างมันขึ้นเหมือนอย่างแต่ก่อน
  • ปฐมกาล 3:15 - เราจะให้เจ้ากับหญิงนั้น เป็นศัตรูกัน ทั้งเผ่าพันธุ์ ของเจ้ากับของนางด้วย เขาจะฟาดศีรษะของเจ้า และเจ้าจะฉก ส้นเท้าของเขา”
  • มัทธิว 26:56 - แต่ทั้งหมดนี้เป็นไปตามที่ผู้เผยพระวจนะได้เขียนไว้” แล้วสาวกทั้งหมดก็ละทิ้งพระองค์แล้วหนีไป ( มก.14:53-65 ; ยน.18:12 , 13 , 19-24 )
  • ยอห์น 17:11 - ข้าพระองค์จะไม่อยู่ในโลกอีกต่อไปแต่พวกเขายังอยู่ในโลกและข้าพระองค์กำลังจะไปหาพระองค์ ข้าแต่พระบิดาผู้บริสุทธิ์ ขอทรงปกป้องคุ้มครองพวกเขาไว้โดยฤทธานุภาพแห่งพระนามของพระองค์ พระนามซึ่งพระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์ เพื่อพวกเขาจะเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนที่พระองค์กับข้าพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกัน
  • ยอห์น 17:12 - ขณะข้าพระองค์อยู่กับพวกเขาข้าพระองค์ได้ปกป้องและรักษาพวกเขาไว้ให้ปลอดภัยโดยนามซึ่งพระองค์ได้ประทานแก่ข้าพระองค์ ไม่มีสักคนที่สูญเสียไป ยกเว้นผู้เดียวนั้นที่จะต้องพินาศเพื่อจะเป็นจริงตามพระคัมภีร์
  • ยอห์น 17:13 - “บัดนี้ข้าพระองค์กำลังไปหาพระองค์ แต่ที่ข้าพระองค์กล่าวสิ่งเหล่านี้ขณะยังอยู่ในโลก เพื่อว่าพวกเขาจะได้รับความชื่นชมยินดีของข้าพระองค์อย่างเต็มเปี่ยมอยู่ภายในพวกเขา
  • 1โครินธ์ 15:3 - เพราะเรื่องที่ข้าพเจ้าได้รับมานั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และข้าพเจ้าได้ถ่ายทอดให้ท่านคือ พระคริสต์ทรงวายพระชนม์เพราะบาปของเราตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์
  • 1โครินธ์ 15:4 - ทรงถูกฝังไว้และในวันที่สามพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตายตามที่พระคัมภีร์ระบุไว้
  • กิจการของอัครทูต 13:29 - เมื่อเขาทั้งหลายได้ทำตามสิ่งทั้งปวงที่มีเขียนไว้เกี่ยวกับพระองค์แล้วก็นำพระศพลงจากต้นไม้ไปวางไว้ในอุโมงค์
  • กิจการของอัครทูต 13:30 - แต่พระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย
  • กิจการของอัครทูต 13:31 - และบรรดาผู้ที่ได้ตามเสด็จพระองค์จากแคว้นกาลิลีมายังกรุงเยรูซาเล็มได้เห็นพระองค์เป็นเวลาหลายวัน บัดนี้พวกเขาเป็นพยานเรื่องพระองค์แก่ประชาชนของเรา
  • ลูกา 21:22 - เพราะนี่เป็นวาระแห่งการลงโทษ เพื่อให้สิ่งทั้งปวงสำเร็จตามที่มีเขียนไว้
  • มัทธิว 26:54 - แต่ถ้าเช่นนั้นจะเป็นจริงตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้หรือว่าต้องเป็นไปตามนี้?”
  • เยเรมีย์ 33:14 - “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘วันนั้นจะมาถึง เมื่อเราจะทำตามพันธสัญญาที่เต็มไปด้วยพระคุณซึ่งเราได้ให้ไว้แก่พงศ์พันธุ์อิสราเอลและพงศ์พันธุ์ยูดาห์
  • ลูกา 18:31 - พระเยซูทรงพาสาวกทั้งสิบสองคนเลี่ยงออกมาและตรัสบอกพวกเขาว่า “พวกเรากำลังขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และทุกอย่างที่บรรดาผู้เผยพระวจนะเขียนไว้เกี่ยวกับบุตรมนุษย์จะสำเร็จ
  • ลูกา 18:32 - พระองค์จะถูกมอบให้คนต่างชาติ พวกเขาจะเยาะเย้ย ดูหมิ่น ถ่มน้ำลายรด โบยตี และฆ่าพระองค์
  • ลูกา 18:33 - ในวันที่สามพระองค์จะเป็นขึ้นมาใหม่”
  • ลูกา 18:34 - เหล่าสาวกไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้เลย ความหมายของสิ่งเหล่านี้ถูกปิดบังจากพวกเขาและพวกเขาไม่รู้ว่าพระองค์กำลังตรัสถึงเรื่องอะไร ( มธ.20:29-34 ; มก.10:46-52 )
  • เศคาริยาห์ 14:4 - ในวันนั้นพระองค์จะทรงวางพระบาทบนภูเขามะกอกเทศ ทางตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็ม และภูเขามะกอกเทศจะแยกออกเป็นสองส่วน จากตะวันออกถึงตะวันตก ทำให้เกิดหุบเขาที่กว้างใหญ่ โดยครึ่งหนึ่งของภูเขาจะเคลื่อนไปทางเหนือ อีกครึ่งหนึ่งเคลื่อนไปทางใต้
  • มัทธิว 20:18 - “พวกเรากำลังขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และบุตรมนุษย์จะถูกทรยศและมอบให้พวกหัวหน้าปุโรหิตกับธรรมาจารย์ พวกเขาจะตัดสินประหารพระองค์
  • มัทธิว 20:19 - และจะมอบพระองค์ให้คนต่างชาติเยาะเย้ยโบยตีและตรึงตายบนไม้กางเขน แล้วในวันที่สามพระเจ้าจะทรงให้พระองค์คืนพระชนม์!” ( มก.10:35-45 )
  • ลูกา 22:37 - มีคำเขียนไว้ว่า ‘และเขาถูกนับเป็นพวกเดียวกับคนล่วงละเมิด’ เราบอกท่านว่าข้อความนี้จะต้องเป็นจริงกับตัวเรา ถูกแล้ว สิ่งที่เขียนไว้เกี่ยวกับเรากำลังจะสำเร็จ”
  • ยอห์น 16:16 - “อีกไม่นาน ท่านจะไม่เห็นเรา และจากนั้นไม่นานท่านจะเห็นเรา”
  • ยอห์น 16:17 - สาวกของพระองค์บางคนพูดกันว่า “พระองค์ทรงหมายความว่าอย่างไรที่ตรัสว่า ‘อีกไม่นานพวกท่านจะไม่เห็นเรา และจากนั้นไม่นานพวกท่านจะเห็นเรา’? และที่ว่า ‘เพราะเรากำลังจะไปหาพระบิดา’?”
  • เลวีนิติ 16:2 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงเตือนอาโรนพี่ชายของเจ้าไม่ให้เข้าไปในอภิสุทธิสถานหลังม่านซึ่งอยู่เบื้องหน้าพระที่นั่งกรุณาที่อยู่บนหีบพันธสัญญาตามอำเภอใจ มิฉะนั้นเขาจะต้องตาย เพราะเราจะปรากฏในกลุ่มเมฆเหนือพระที่นั่งกรุณา
  • เลวีนิติ 16:3 - “ต่อไปนี้เป็นข้อปฏิบัติในการที่อาโรนจะเข้าไปยังบริเวณสถานนมัสการ เขาจะต้องนำวัวหนุ่มสำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปและแกะผู้สำหรับเป็นเครื่องเผาบูชาไป
  • เลวีนิติ 16:4 - เขาต้องสวมเสื้อตัวในอันบริสุทธิ์ที่ทำด้วยผ้าลินินกับเครื่องแต่งกายชั้นในผ้าลินินที่ติดกับร่างกายของเขา คาดสายคาดเอวลินิน และโพกศีรษะด้วยผ้าลินิน นี่เป็นเครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์ ดังนั้นเขาต้องอาบน้ำก่อนที่จะสวมใส่
  • เลวีนิติ 16:5 - ให้เขารับแพะผู้สองตัวสำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และแกะผู้หนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชาจากชุมชนอิสราเอล
  • เลวีนิติ 16:6 - “ให้อาโรนถวายวัวหนุ่มหนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป เพื่อลบบาปให้ตนเองและครอบครัว
  • เลวีนิติ 16:7 - จากนั้นจะนำแพะสองตัวมาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ
  • เลวีนิติ 16:8 - เขาจะต้องจับฉลากสำหรับแพะทั้งสองนั้น ฉลากอันหนึ่งสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า และอีกอันหนึ่งสำหรับแพะรับบาป
  • เลวีนิติ 16:9 - อาโรนจะถวายแพะตัวที่ใช้ถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • เลวีนิติ 16:10 - แต่แพะที่ได้รับเลือกโดยฉลากให้เป็นแพะรับบาปจะถูกนำมาถวายทั้งที่ยังมีชีวิตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเป็นการลบบาป โดยส่งมันเข้าไปในถิ่นกันดารเป็นแพะรับบาป
  • เลวีนิติ 16:11 - “อาโรนจะนำวัวหนุ่มมาฆ่าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเพื่อลบบาปให้ตนเองและครอบครัว
  • เลวีนิติ 16:12 - เขาจะเอากระถางไฟบรรจุถ่านคุโชนจากแท่นบูชาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและกอบผงเครื่องหอมซึ่งบดละเอียดสองกำมือนำเข้าไปหลังม่าน
  • เลวีนิติ 16:13 - เขาจะโรยเครื่องหอมบนไฟต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ควันเครื่องหอมปกคลุมทั่วพระที่นั่งกรุณาเหนือหีบพันธสัญญา เพื่อว่าเขาจะไม่ตาย
  • เลวีนิติ 16:14 - เขาจะนำเลือดบางส่วนของวัวหนุ่มเข้าไปและใช้นิ้วพรมบนด้านหน้าของพระที่นั่งกรุณาเจ็ดครั้ง
  • เลวีนิติ 16:15 - “แล้วอาโรนจะฆ่าแพะเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับประชากร และนำเลือดของมันเข้าไปหลังม่าน แล้วทำเช่นเดียวกับที่ทำกับเลือดวัวผู้คือ เขาจะพรมเลือดนั้นที่ข้างบนและข้างหน้าของพระที่นั่งกรุณา
  • เลวีนิติ 16:16 - เขาจะลบบาปสำหรับอภิสุทธิสถานด้วยวิธีนี้เพราะมลทินและการกบฏของชาวอิสราเอล ไม่ว่าบาปของเขาจะเป็นอะไร เขาจะต้องทำอย่างเดียวกันนี้สำหรับเต็นท์นัดพบซึ่งอยู่ท่ามกลางพวกเขา ซึ่งแวดล้อมด้วยมลทินของพวกเขา
  • เลวีนิติ 16:17 - ห้ามผู้ใดอยู่ในเต็นท์นัดพบขณะที่อาโรนเข้าไปทำการลบบาปในอภิสุทธิสถาน จนกว่าเขาจะออกมาอีกครั้งหลังจากลบบาปให้ตนเอง ให้ครอบครัวและชุมชนอิสราเอลทั้งหมดแล้ว
  • เลวีนิติ 16:18 - “จากนั้นอาโรนจะไปยังแท่นบูชา คือต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและทำการลบบาปสำหรับแท่นนั้น เขาจะเอาเลือดวัวผู้และเลือดแพะบางส่วนทาที่เชิงงอนของแท่น
  • เลวีนิติ 16:19 - แล้วเอานิ้วจุ่มเลือดพรมบนแท่นบูชาเจ็ดครั้ง เป็นการชำระแท่นนั้นให้บริสุทธิ์พ้นจากมลทินของชนอิสราเอล
  • มาระโก 8:31 - นับแต่นั้นมาพระองค์ทรงเริ่มสั่งสอนเหล่าสาวกว่าบุตรมนุษย์ต้องทนทุกข์หลายประการ บรรดาผู้อาวุโส พวกหัวหน้าปุโรหิต กับเหล่าธรรมาจารย์จะไม่ยอมรับพระองค์ และพระองค์จะต้องถูกประหารและในวันที่สามจะทรงเป็นขึ้นมาอีก
  • มาระโก 8:32 - พระองค์ตรัสเรื่องนี้อย่างชัดแจ้ง ฝ่ายเปโตรดึงพระองค์เลี่ยงไปอีกทางหนึ่งและทูลติติงพระองค์
  • มาลาคี 4:2 - แต่พวกเจ้าที่ยำเกรงนามของเรา ดวงตะวันแห่งความชอบธรรมจะขึ้นมาพร้อมด้วยปีกแห่งการบำบัดรักษา และเจ้าจะโลดแล่นออกไปเหมือนลูกวัวที่ถูกปล่อยออกจากคอก
  • มาลาคี 4:3 - แล้วเจ้าจะเหยียบย่ำคนชั่ว พวกเขาจะเป็นเหมือนขี้เถ้าใต้ฝ่าเท้าของเจ้าในวันที่เราลงมือทำสิ่งเหล่านี้” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น
  • มาลาคี 4:4 - “จงระลึกถึงบทบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของเรา คือกฎหมายและบทบัญญัติต่างๆ ซึ่งเรามอบให้โมเสสบนภูเขาโฮเรบสำหรับชนชาติอิสราเอลทั้งปวง
  • มาลาคี 4:5 - “ดูเถิด เราจะส่งผู้เผยพระวจนะเอลียาห์มาหาพวกเจ้าก่อนวันอันยิ่งใหญ่น่ากลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึง
  • มาลาคี 4:6 - เขาจะหันจิตใจของพ่อมาหาลูกและหันจิตใจของลูกมาหาพ่อ มิฉะนั้นเราจะมาห้ำหั่นดินแดนนี้ด้วยคำสาปแช่ง”
  • โยเอล 2:28 - “และต่อมาภายหลัง เราจะเทวิญญาณของเราลงเหนือประชากรทั้งปวง บุตรชายบุตรสาวของเจ้าจะเผยพระวจนะ คนชราของเจ้าจะฝันเห็น คนหนุ่มของเจ้าจะเห็นนิมิต
  • โยเอล 2:29 - เมื่อถึงเวลานั้นเราจะเทวิญญาณของเรา ลงมาเหนือผู้รับใช้ของเราทั้งชายและหญิง
  • โยเอล 2:30 - เราจะสำแดงการอัศจรรย์ในฟ้าสวรรค์ และที่แผ่นดินโลก มีเลือด ไฟ และกลุ่มควัน
  • โยเอล 2:31 - ดวงอาทิตย์จะถูกเปลี่ยนเป็นความมืด และดวงจันทร์จะกลายเป็นเลือด ก่อนวันอันยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึง
  • โยเอล 2:32 - และทุกคนที่ร้องออกพระนามของพระยาห์เวห์ จะได้รับการช่วยให้รอด เพราะบนภูเขาศิโยน และในเยรูซาเล็มจะมีการช่วยกู้ ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้ ท่ามกลางผู้รอดชีวิตอยู่ ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกไว้
  • ยอห์น 3:14 - โมเสสยกงูขึ้นในถิ่นกันดารอย่างไร บุตรมนุษย์ก็ต้องถูกยกขึ้น อย่างนั้น
  • ปฐมกาล 49:10 - คทาจะไม่พ้นจากมือของยูดาห์ อำนาจปกครองจะไม่ขาดไปจากเชื้อสายของเขา จนกว่าบุคคลผู้เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงจะมาถึง บรรดาชนชาติจะเชื่อฟังผู้นั้น
  • มาลาคี 3:1 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ดูเถิด เราจะส่งทูตของเรามาเตรียมทางให้เราล่วงหน้า แล้วทันใดนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าที่เจ้าแสวงหาจะมายังพระวิหารของพระองค์ ทูตแห่งพันธสัญญาที่เจ้าปรารถนานั้นจะมา”
  • มาลาคี 3:2 - แต่ใครเล่าจะทนอยู่ได้ในวันที่พระองค์เสด็จมา? ใครเล่าจะยืนอยู่ได้เมื่อพระองค์ทรงปรากฏ? เพราะพระองค์จะทรงเป็นเหมือนไฟถลุง เหมือนสบู่ของช่างฟอก
  • มาลาคี 3:3 - พระองค์จะทรงนั่งลงอย่างช่างถลุงเงินและชำระให้บริสุทธิ์ จะทรงชำระชนเลวีเหมือนถลุงเงินและทองคำ แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้คนที่นำเครื่องบูชามาถวายด้วยความชอบธรรม
  • มาระโก 9:31 - เพราะทรงสั่งสอนพวกสาวกอยู่ พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “บุตรมนุษย์จะถูกทรยศให้ตกอยู่ในมือมนุษย์ พวกเขาจะฆ่าพระองค์ และหลังจากนั้นสามวันพระองค์จะเป็นขึ้นจากตาย”
  • ยอห์น 16:4 - เราบอกสิ่งนี้แก่พวกท่าน เพื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้น พวกท่านจะได้ระลึกว่าเราเตือนพวกท่านไว้แล้ว เราไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่พวกท่านไว้แต่แรก เพราะขณะนั้นเรายังอยู่กับพวกท่าน
  • ยอห์น 16:5 - “บัดนี้เรากำลังจะไปหาพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา กระนั้นก็ไม่มีใครสักคนในพวกท่านที่ถามเราว่า ‘พระองค์กำลังจะเสด็จไปไหน?’
  • ยอห์น 5:39 - ท่านขยันศึกษา พระคัมภีร์เพราะท่านคิดว่าโดยพระคัมภีร์ท่านจะได้ชีวิตนิรันดร์ พระธรรมเหล่านั้นคือพระคัมภีร์ที่เป็นพยานเกี่ยวกับเรา
  • กิจการของอัครทูต 17:2 - เปาโลเข้าไปในธรรมศาลาตามที่เขาเคยปฏิบัติมา และในวันสะบาโตทั้งสามสัปดาห์เปาโลได้ยกข้อพระคัมภีร์มาอภิปรายกับพวกเขา
  • กิจการของอัครทูต 17:3 - ชี้แจงและพิสูจน์ว่า พระคริสต์ ต้องทนทุกข์และเป็นขึ้นจากตาย เปาโลกล่าวว่า “พระเยซูผู้นี้ที่ข้าพเจ้าประกาศแก่พวกท่านคือพระคริสต์ ”
  • ยอห์น 19:24 - เขาพูดกันว่า “อย่าฉีกแบ่งเลย ให้เราจับฉลากกันว่าใครจะได้เสื้อตัวนี้” ทั้งนี้เพื่อจะเป็นจริงตาม พระคัมภีร์ที่ว่า “เขาทั้งหลายเอาเครื่องนุ่งห่มของข้าพระองค์มาแบ่งกัน และเอาเสื้อผ้าของข้าพระองค์มาจับฉลาก” พวกทหารทำเช่นนี้แหละ
  • ยอห์น 19:25 - ผู้ที่ยืนอยู่ข้างไม้กางเขนของพระเยซูได้แก่มารดาของพระองค์ น้าสาวของพระองค์ มารีย์ภรรยาของโคลปัส และมารีย์ชาวมักดาลา
  • ยอห์น 19:26 - เมื่อพระเยซูทรงเห็นมารดาของพระองค์และสาวกที่ทรงรักยืนอยู่ใกล้ๆ พระองค์จึงตรัสกับมารดาของพระองค์ว่า “หญิงที่รักเอ๋ย นี่คือบุตรชายของท่าน”
  • ยอห์น 19:27 - และตรัสกับสาวกคนนั้นว่า “นี่คือมารดาของท่าน” ตั้งแต่นั้นมาสาวกคนนี้ก็รับมารดาของพระองค์มาอยู่ที่บ้านของตน ( มธ.27:48 , 50 ; มก.15:36 , 37 ; ลก.23:36 )
  • ยอห์น 19:28 - หลังจากนั้นเมื่อพระองค์ทรงทราบว่าทุกสิ่งสำเร็จครบถ้วนแล้วและเพื่อจะเป็นจริงตามพระคัมภีร์ พระเยซูจึงตรัสว่า “เรากระหายน้ำ”
  • ยอห์น 19:29 - ที่นั่นมีภาชนะใส่น้ำองุ่นเปรี้ยวตั้งอยู่ พวกเขาจึงเอาฟองน้ำชุบน้ำองุ่นเปรี้ยวเสียบปลายไม้หุสบชูขึ้นถึงพระโอษฐ์ของพระเยซู
  • ยอห์น 19:30 - เมื่อทรงรับน้ำนั้นแล้วพระเยซูก็ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” จากนั้นพระองค์ก้มพระเศียรลงและสิ้นพระชนม์
  • ยอห์น 19:31 - วันนั้นเป็นวันเตรียมและรุ่งขึ้นจะเป็นวันสะบาโตพิเศษ เนื่องจากพวกยิวไม่ต้องการให้ศพค้างบนไม้กางเขนในช่วงวันสะบาโต จึงขอปีลาตให้ทุบขาผู้ที่ถูกตรึงให้หักและเอาศพลงมา
  • ยอห์น 19:32 - ดังนั้นพวกทหารจึงมาทุบขาของชายคนแรกที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนด้วยกันกับพระเยซูให้หัก แล้วทุบขาของอีกคนหนึ่งให้หักด้วย
  • ยอห์น 19:33 - แต่เมื่อมาถึงพระเยซูพวกเขาพบว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้วจึงไม่ได้ทุบขาของพระองค์
  • ยอห์น 19:34 - แต่ทหารคนหนึ่งเอาทวนแทงที่สีข้างของพระเยซูโลหิตกับน้ำก็ไหลออกมาทันที
  • ยอห์น 19:35 - ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้เป็นพยานและคำพยานของเขาเป็นความจริง เขารู้ว่าเขาพูดความจริงและเขาเป็นพยานเพื่อว่าท่านทั้งหลายจะเชื่อด้วย
  • ยอห์น 19:36 - สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อจะเป็นจริงตามพระคัมภีร์ที่ว่า “กระดูกของเขาจะไม่ถูกหักสักชิ้นเดียว”
  • ยอห์น 19:37 - และพระคัมภีร์อีกตอนหนึ่งที่กล่าวว่า “เขาทั้งหลายจะมองดูผู้ที่พวกเขาได้แทง” ( มธ.27:57-61 ; มก.15:42-47 ; ลก.23:50-56 )
  • มาระโก 10:33 - “พวกเรากำลังขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มและบุตรมนุษย์จะถูกทรยศและถูกมอบให้พวกหัวหน้าปุโรหิตกับธรรมาจารย์ พวกเขาจะตัดสินประหารพระองค์และจะมอบพระองค์ให้คนต่างชาติ
  • มาระโก 10:34 - คนเหล่านั้นจะเยาะเย้ยพระองค์และถ่มน้ำลายรดพระองค์ โบยตีพระองค์และฆ่าพระองค์ หลังจากนั้นสามวันพระองค์จะเป็นขึ้นจากตาย” ( มธ.20:20-28 )
  • ฮักกัย 2:7 - เราจะเขย่ามวลประชาชาติและสิ่งที่ประชาชาติทั้งหลายพึงปรารถนาจะหลั่งไหลมา และเราจะทำให้นิเวศนี้เปี่ยมด้วยสง่าราศี’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น
  • ฮักกัย 2:8 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า ‘เงินและทองเป็นของเรา
  • ฮักกัย 2:9 - สง่าราศีของนิเวศปัจจุบันจะรุ่งโรจน์กว่าสง่าราศีของนิเวศเดิม’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น ‘และเราจะให้สันติสุขแก่สถานที่นี้’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น”
  • กิจการของอัครทูต 3:18 - แต่พระเจ้าทรงให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเพื่อจะเป็นจริงตามที่ได้ตรัสไว้ล่วงหน้าผ่านทางผู้เผยพระวจนะทั้งปวงว่า พระคริสต์ ของพระองค์ต้องทนทุกข์ทรมาน
  • มัทธิว 17:22 - เมื่อพวกเขาพากันมาถึงกาลิลี พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกว่า “บุตรมนุษย์จะถูกทรยศให้ตกอยู่ในมือมนุษย์
  • มัทธิว 17:23 - พวกเขาจะฆ่าพระองค์และในวันที่สามพระองค์จะเป็นขึ้นจากตาย” และเหล่าสาวกพากันทุกข์โศกยิ่งนัก
  • ลูกา 24:46 - พระองค์ตรัสบอกพวกเขาว่า “นี่คือสิ่งที่เขียนไว้ คือพระคริสต์ต้องทนทุกข์และเป็นขึ้นจากตายในวันที่สาม
  • อิสยาห์ 50:2 - เมื่อเรามาถึง ทำไมจึงไม่มีใครสักคน? เมื่อเราเรียก ทำไมไม่มีใครตอบ? แขนของเราสั้นเกินกว่าที่จะไถ่เจ้าหรือ? เราขาดกำลังที่จะช่วยเจ้าให้รอดหรือ? เราสั่งเพียงคำเดียว ทะเลก็แห้งเหือด เราทำให้แม่น้ำกลับกลายเป็นทะเลทราย ปลาของพวกเขาเน่าเหม็นเพราะขาดน้ำ และตายเพราะความกระหาย
  • อิสยาห์ 50:3 - เราเอาความมืดห่อหุ้มท้องฟ้า เอาผ้ากระสอบคลุมมันเสีย”
  • อิสยาห์ 50:4 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประทานลิ้นที่ฝึกปรือแล้วแก่ข้าพเจ้า เพื่อจะรู้จักถ้อยคำซึ่งช่วยค้ำชูผู้อ่อนระโหย ทุกๆ เช้าพระองค์ทรงปลุกข้าพเจ้า ทรงปลุกหูของข้าพเจ้าให้รับฟังอย่างผู้ที่พระองค์ทรงสอน
  • อิสยาห์ 50:5 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงเปิดหูของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าไม่ได้ขัดขืน หรือถอยหนี
  • อิสยาห์ 50:6 - ข้าพเจ้ายอมหันหลังให้แก่ผู้ที่โบยตีข้าพเจ้า และเอียงแก้มให้แก่ผู้ที่ทึ้งเคราของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้หันหน้าหนี จากผู้ที่เย้ยหยันและถ่มน้ำลายรด
  • สดุดี 2:1 - เหตุใดประชาชาติทั้งหลายจึงคบคิด กัน? ชนชาติต่างๆ จะวางแผนให้ป่วยการไปทำไม?
  • สดุดี 2:2 - เหล่ากษัตริย์ของโลกตั้งตนขัดขืน บรรดาผู้ปกครองรวมตัวกัน เพื่อวางแผนต่อต้านองค์พระผู้เป็นเจ้า และต่อต้านผู้หนึ่งซึ่งพระองค์ทรงเจิมตั้งไว้
  • สดุดี 2:3 - แล้วกล่าวว่า “ให้พวกเราหักโซ่ตรวน และปลดเครื่องพันธนาการของพวกเขาทิ้งไป”
  • สดุดี 2:4 - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทับในฟ้าสวรรค์ทรงหัวเราะ พระองค์ทรงเย้ยหยันพวกเขา
  • สดุดี 2:5 - แล้วพระองค์ทรงกำราบพวกเขาด้วยพระพิโรธ และทรงทำให้พวกเขาหวาดกลัวด้วยพระพิโรธ โดยตรัสว่า
  • สดุดี 2:6 - “เราได้ตั้งกษัตริย์ผู้หนึ่งของเราไว้แล้ว บนศิโยนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา”
  • สดุดี 2:7 - กษัตริย์ผู้นั้นจะประกาศพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า พระองค์ได้ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า “เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราได้เป็นบิดาของเจ้า
  • สดุดี 2:8 - จงขอจากเรา แล้วเราจะมอบประชาชาติทั้งหลายให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า และให้เจ้าครอบครองไปจนสุดปลายแผ่นดินโลก
  • สดุดี 2:9 - เจ้าจะตีพวกเขาให้แตกด้วยกระบองเหล็ก เจ้าจะฟาดพวกเขาให้แหลกเป็นชิ้นๆ เหมือนหม้อดิน”
  • สดุดี 2:10 - เหตุฉะนั้น กษัตริย์ทั้งหลายเอ๋ย จงมีปัญญา บรรดาผู้นำของโลกเอ๋ย จงฟังคำตักเตือน
  • สดุดี 2:11 - จงปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยำเกรง และจงชื่นชมยินดีจนเนื้อเต้น
  • สดุดี 2:12 - จงก้มกราบพระบุตรนั้น มิฉะนั้นพระองค์จะทรงพระพิโรธ และท่านกับหนทางต่างๆ ของท่านจะถูกทำลาย เพราะว่าพระพิโรธของพระองค์จะพลุ่งขึ้นในพริบตา ความสุขมีแก่ทุกคนที่เข้ามาลี้ภัยในพระองค์
  • ฮีบรู 7:1 - เมลคีเซเดคผู้นี้ทรงเป็นกษัตริย์เมืองซาเลมและเป็นปุโรหิตของพระเจ้าผู้สูงสุด พระองค์ได้ทรงพบอับราฮัมและให้พรเขาหลังจากเขากลับจากการรบชนะเหล่ากษัตริย์
  • กันดารวิถี 35:25 - ชุมนุมประชากรต้องปกป้องผู้ถูกกล่าวหาจากผู้แก้แค้น และส่งเขากลับไปยังเมืองที่เขาไปลี้ภัยนั้น และเขาต้องอยู่ที่นั่นจวบจนมหาปุโรหิตผู้ได้รับการเจิมด้วยน้ำมันบริสุทธิ์สิ้นชีวิตลง
  • อิสยาห์ 49:1 - จงฟังข้าพเจ้าเถิด บรรดาเกาะแก่งทั้งหลายเอ๋ย ชนชาติไกลโพ้นทั้งหลาย ฟังทางนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเรียกข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้ายังไม่เกิด ทรงเอ่ยชื่อข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าถือกำเนิด
  • อิสยาห์ 49:2 - พระองค์ทรงทำให้ปากของข้าพเจ้าเหมือนดาบคมกริบ ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มเงาแห่งพระหัตถ์ ทรงทำให้ข้าพเจ้าเป็นลูกธนูคมปลาบ และทรงเก็บข้าพเจ้าไว้ในแล่งธนูของพระองค์
  • อิสยาห์ 49:3 - พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอล เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เราจะสำแดงเกียรติบารมีของเราในตัวเจ้า”
  • อิสยาห์ 49:4 - แต่ข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าตรากตรำไปอย่างไร้จุดหมาย ลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์และไร้ค่า ถึงกระนั้นสิ่งที่ข้าพเจ้าควรได้ก็อยู่ในพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า บำเหน็จของข้าพเจ้าอยู่ที่พระเจ้าของข้าพเจ้า”
  • อิสยาห์ 49:5 - และบัดนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า พระองค์ผู้ทรงสร้างข้าพเจ้าในครรภ์มารดา เพื่อให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อนำยาโคบกลับมายังพระองค์ และรวบรวมอิสราเอลมายังพระองค์เอง เพราะข้าพเจ้ามีเกียรติในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า และพระเจ้าทรงเป็นพละกำลังของข้าพเจ้า
  • อิสยาห์ 49:6 - พระองค์ตรัสว่า “เป็นการเล็กน้อยเกินไปที่จะให้เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เพื่อฟื้นฟูชนเผ่าต่างๆ ของยาโคบให้กลับสู่สภาพเดิม และนำชนอิสราเอลเหล่านั้นซึ่งเราสงวนไว้กลับมาหาเรา เราจะให้เจ้าเป็นแสงสว่างสำหรับชนต่างชาติด้วย เพื่อเจ้าจะนำความรอดของเราไปจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก”
  • อิสยาห์ 49:7 - พระยาห์เวห์ พระผู้ไถ่ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ตรัสแก่ผู้นั้นซึ่งเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของชาติ ผู้เป็นคนรับใช้ของบรรดาผู้ครอบครองนั้นว่า “กษัตริย์ทั้งหลายจะเห็นเจ้าแล้วยืนขึ้น เจ้านายทั้งปวงจะเห็นเจ้าแล้วหมอบกราบ เนื่องด้วยองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงซื่อสัตย์ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ทรงเลือกสรรเจ้า”
  • อิสยาห์ 49:8 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ในเวลาแห่งความโปรดปราน เราจะตอบเจ้า และในวันแห่งความรอด เราจะช่วยเจ้า เราจะปกป้องเจ้า และทำให้เจ้าเป็นพันธสัญญาแก่เหล่าประชากร เพื่อให้ดินแดนนั้นกลับคืนสู่ปกติสุข และรื้อฟื้นกรรมสิทธิ์ซึ่งถูกทิ้งร้างขึ้นมาใหม่
  • โฮเชยา 1:7 - แต่เราจะแสดงความรักต่อพงศ์พันธุ์ยูดาห์และจะช่วยพวกเขา ไม่ใช่ด้วยธนู ดาบ สงคราม หรือด้วยม้าและพลม้า แต่โดยพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา”
  • โฮเชยา 1:8 - หลังจากที่ให้โลรุหะมาห์หย่านมแล้ว โกเมอร์ก็มีบุตรชายอีกคนหนึ่ง
  • โฮเชยา 1:9 - แล้วพระองค์ตรัสว่า “จงเรียกเขาว่าโลอัมมี เพราะพวกเจ้าไม่ใช่ประชากรของเราและเราไม่ใช่พระเจ้าของเจ้า
  • โฮเชยา 1:10 - “ถึงกระนั้นชนชาติอิสราเอลจะเป็นเหมือนเม็ดทรายที่ชายทะเลซึ่งตวงนับไม่ได้ ในที่ซึ่งพระเจ้าตรัสแก่เขาว่า ‘เจ้าไม่ใช่ประชากรของเรา’ พวกเขาจะได้ชื่อว่า ‘บุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่’
  • โฮเชยา 1:11 - ประชากรยูดาห์และอิสราเอลจะถูกรวมเข้าด้วยกันอีก และพวกเขาจะแต่งตั้งผู้นำคนหนึ่งและจะพากันออกมาจากแผ่นดินนั้น เพราะวันแห่งยิสเรเอลจะยิ่งใหญ่
  • กิจการของอัครทูต 7:37 - “โมเสสคนนี้เองที่บอกชนอิสราเอลว่า ‘พระเจ้าจะทรงส่งผู้เผยพระวจนะเช่นข้าพเจ้ามาคนหนึ่งสำหรับท่านจากหมู่ประชากรของพวกท่านเอง’
  • สดุดี 16:9 - ฉะนั้นจิตใจของข้าพเจ้าจึงยินดีและลิ้นของข้าพเจ้าก็ปรีดา กายของข้าพเจ้าก็จะพักอยู่อย่างปลอดภัยเช่นกัน
  • สดุดี 16:10 - เพราะพระองค์จะไม่ทรงทิ้งข้าพระองค์ไว้กับหลุมฝังศพ ทั้งจะไม่ทรงปล่อยให้ผู้ซื่อสัตย์ของพระองค์ เน่าเปื่อย
  • สดุดี 16:11 - พระองค์ได้ทรงสำแดง หนทางแห่งชีวิตแก่ข้าพระองค์ พระองค์จะทรงให้ข้าพระองค์เปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์ มีความชื่นบานอยู่ที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์เป็นนิตย์
  • เยเรมีย์ 23:5 - องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “วันนั้นจะมาถึง เมื่อเราจะสถาปนากิ่งอันชอบธรรมให้แก่ดาวิด ผู้นั้นเป็นกษัตริย์ซึ่งจะปกครองอย่างชาญฉลาด และทำสิ่งที่ถูกต้องเที่ยงธรรมในแผ่นดิน
  • โฮเชยา 3:5 - หลังจากนั้นชนชาติอิสราเอลจะกลับมาแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาและดาวิดกษัตริย์ของเขา พวกเขาจะตัวสั่นเข้ามาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าและกลับมาหาพระพรของพระองค์ในบั้นปลาย
  • กันดารวิถี 21:8 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงทำงูตัวหนึ่งติดไว้ที่ยอดเสา ผู้ใดถูกงูกัด จงมองดูงูนั้นแล้วจะรอดชีวิต”
  • ปฐมกาล 14:18 - และกษัตริย์เมลคีเซเดคแห่งซาเลม ผู้เป็นปุโรหิตของพระเจ้าสูงสุด ได้นำอาหารและเหล้าองุ่นออกมาให้
  • ดาเนียล 2:44 - “ในยุคของกษัตริย์เหล่านั้น พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์จะทรงตั้งอาณาจักรหนึ่งซึ่งไม่มีใครทำลายล้างได้ ทั้งจะไม่ตกเป็นของชนชาติอื่น อาณาจักรนี้จะบดขยี้อาณาจักรอื่นๆ ทั้งปวงจนราบคาบ อาณาจักรนี้จะยั่งยืนมั่นคงตลอดกาล
  • อิสยาห์ 42:1 - “นี่คือผู้รับใช้ของเรา ซึ่งเราเชิดชู ผู้ที่เราเลือกสรรไว้ ซึ่งเราชื่นชม เราจะส่งวิญญาณของเราลงมาเหนือเขา และเขาจะนำความยุติธรรมไปถึงบรรดาประชาชาติ
  • อิสยาห์ 42:2 - เขาจะไม่ตะโกนหรือส่งเสียงร้อง ไม่ส่งเสียงดังกลางถนน
  • อิสยาห์ 42:3 - ไม้อ้อช้ำแล้ว เขาจะไม่หัก ไส้ตะเกียงที่ริบหรี่ เขาจะไม่ดับ เขาจะนำความยุติธรรมมาอย่างซื่อสัตย์
  • อิสยาห์ 42:4 - เขาจะไม่สะดุดหรือท้อถอย จนกว่าจะได้สถาปนาความยุติธรรมขึ้นในโลก หมู่เกาะจะฝากความหวังไว้ที่บทบัญญัติของเขา”
  • มีคาห์ 5:1 - นครแห่งกองทหารเอ๋ย จัดทัพเถิด เพราะศัตรูมาล้อมเมืองของเราแล้ว เขาจะเอาไม้เท้าฟาดแก้มผู้ปกครองของอิสราเอล
  • มีคาห์ 5:2 - “ส่วนเจ้า เบธเลเฮม เอฟราธาห์เอ๋ย ถึงแม้เจ้าเป็นคนเล็กน้อยในหมู่ตระกูลต่างๆ ของยูดาห์ แต่จะมีผู้หนึ่งออกมาจากเจ้าเพื่อเรา เป็นผู้ที่จะครอบครองอิสราเอล ผู้นั้นมีที่มา จากอดีตกาล จากโบราณกาล ”
  • มีคาห์ 5:3 - ฉะนั้น อิสราเอลจะถูกทอดทิ้ง จวบจนเมื่อถึงเวลาที่ผู้หญิงซึ่งกำลังเจ็บครรภ์นั้นคลอดบุตร และพี่น้องอื่นๆ ของบุคคลนั้น กลับมาสมทบกับชนอิสราเอล
  • มีคาห์ 5:4 - เขาจะยืนหยัดเลี้ยงดูฝูงแกะของเขา โดยกำลังขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยบารมีแห่งพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และพวกเขาจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่นคงปลอดภัย เพราะความยิ่งใหญ่ของเขาผู้นั้นจะแผ่ถึงสุดปลายแผ่นดินโลก
  • ฮีบรู 3:5 - โมเสสสัตย์ซื่อในฐานะผู้รับใช้ในทุกเรื่องเกี่ยวกับบ้านของพระเจ้า เป็นพยานถึงสิ่งที่จะตรัสในภายหน้า
  • อิสยาห์ 28:16 - ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ดูเถิด เราวางศิลาก้อนหนึ่งไว้ในศิโยน เป็นศิลามุมเอกล้ำค่า เหมาะเป็นรากฐานอันมั่นคง ผู้ที่วางใจจะไม่มีวันท้อแท้
  • สดุดี 88:1 - ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอด ข้าพระองค์เฝ้าร้องทูลต่อหน้าพระองค์ทั้งวันทั้งคืน
  • สดุดี 88:2 - ขอให้คำอธิษฐานของข้าพระองค์ขึ้นมาถึงต่อหน้าพระองค์ โปรดเอียงพระกรรณสดับคำร้องทูลของข้าพระองค์
  • สดุดี 88:3 - เพราะจิตวิญญาณของข้าพระองค์ทุกข์ร้อนยิ่งนัก และชีวิตของข้าพระองค์เฉียดใกล้หลุมฝังศพ
  • สดุดี 88:4 - ข้าพระองค์ถูกนับรวมอยู่ในกลุ่มคนที่ลงสู่หลุม ข้าพระองค์เหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง
  • สดุดี 88:5 - ข้าพระองค์ถูกแยกไว้ในหมู่คนตาย เหมือนผู้ที่ถูกฆ่าซึ่งนอนอยู่ในหลุมฝังศพ ผู้ที่พระองค์จะไม่ทรงนึกถึงอีกต่อไป ผู้ที่พระองค์จะไม่ทรงเหลียวแลอีกต่อไป
  • สดุดี 88:6 - พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์จมลงในหลุมที่ลึกที่สุด ในห้วงลึกที่มืดมิดที่สุด
  • สดุดี 88:7 - พระพิโรธของพระองค์ตกหนักอยู่เหนือข้าพระองค์ พระองค์ทรงให้กระแสคลื่นของพระองค์ซัดท่วมข้าพระองค์ เสลาห์
  • สดุดี 88:8 - พระองค์ทรงทำให้เพื่อนสนิทตีตัวออกห่างจากข้าพระองค์ ทรงทำให้ข้าพระองค์น่ารังเกียจชิงชัง ข้าพระองค์ถูกกักกันและหมดทางหนี
  • สดุดี 88:9 - ดวงตาของข้าพระองค์หม่นหมองเพราะความทุกข์โศก ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ทูลวิงวอนต่อพระองค์ทุกวัน ข้าพระองค์ยกมือต่อพระองค์
  • สดุดี 88:10 - พระองค์ทรงสำแดงการอัศจรรย์แก่คนตายหรือ? ผู้ที่ตายแล้วลุกขึ้นสรรเสริญพระองค์หรือ? เสลาห์
  • สดุดี 88:11 - ความรักมั่นคงของพระองค์ถูกประกาศในหลุมฝังศพหรือ? ความซื่อสัตย์ของพระองค์ถูกประกาศในแดนพินาศหรือ?
  • สดุดี 88:12 - การอัศจรรย์ของพระองค์เป็นที่รู้จักในแดนแห่งความมืดมิดหรือ? พระราชกิจอันชอบธรรมของพระองค์เป็นที่รู้จักในแดนที่ถูกลืมหรือ?
  • สดุดี 88:13 - แต่ข้าพระองค์ร้องทูลให้ทรงช่วย ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ยามเช้าคำอธิษฐานของข้าพระองค์ขึ้นถึงพระองค์
  • สดุดี 88:14 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เหตุใดทรงทอดทิ้งข้าพระองค์? เหตุใดทรงซ่อนพระพักตร์หนีจากข้าพระองค์?
  • สดุดี 88:15 - ตั้งแต่เยาว์วัย ข้าพระองค์ทุกข์ทรมานและเฉียดใกล้ความตาย ข้าพระองค์เผชิญความน่าสะพรึงกลัวของพระองค์และหมดหวัง
  • สดุดี 88:16 - พระพิโรธของพระองค์ท่วมท้นข้าพระองค์ ความน่าสะพรึงกลัวของพระองค์ทำลายข้าพระองค์
  • สดุดี 88:17 - สิ่งเหล่านั้นโหมกระหน่ำข้าพระองค์ตลอดทั้งวันเหมือนน้ำหลาก ท่วมข้าพระองค์จนมิด
  • สดุดี 88:18 - พระองค์ทรงพรากคนรัก และญาติมิตรไปหมด เหลือแต่ความมืดที่เป็นเพื่อนสนิทของข้าพระองค์
  • ปฐมกาล 22:18 - และทุกประชาชาติทั่วโลกจะได้รับพรผ่านทางเชื้อสาย ของเจ้า เพราะเจ้าได้เชื่อฟังเรา”
  • 1เปโตร 1:11 - พวกเขาพยายามพิเคราะห์ดูว่าสิ่งที่พระวิญญาณของพระคริสต์ในพวกเขาได้บ่งชี้ไว้นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใดและจะเกิดขึ้นอย่างไร เมื่อพระองค์ได้ทำนายถึงการทนทุกข์ของพระคริสต์และบรรดาพระเกียรติสิริที่จะตามมา
  • อิสยาห์ 61:1 - พระวิญญาณของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้ ให้ประกาศข่าวดีแก่ผู้ยากไร้ พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้ามาปลอบโยนผู้ชอกช้ำระกำใจ ให้ประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย และปลดปล่อยนักโทษ จากความมืด
  • อิสยาห์ 61:2 - ให้ประกาศปีแห่งความโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า และวันแห่งการแก้แค้นของพระเจ้าของเรา ให้ปลอบโยนทุกคนที่คร่ำครวญหวนไห้
  • อิสยาห์ 61:3 - และมอบมงกุฎแห่งความงามแทนขี้เถ้า แก่ผู้ที่ทุกข์โศกในศิโยน มอบน้ำมันแห่งความยินดี แทนการคร่ำครวญ และเครื่องนุ่งห่มแห่งคำสรรเสริญ แทนดวงใจที่ท้อแท้สิ้นหวัง พวกเขาจะได้ชื่อว่าต้นโอ๊กแห่งความชอบธรรม เป็นต้นไม้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปลูกไว้ เพื่อสำแดงความรุ่งโรจน์ของพระองค์
  • ดาเนียล 7:13 - “ในนิมิตคืนนั้น ข้าพเจ้าเห็นผู้หนึ่งเหมือนบุตรมนุษย์ เสด็จมาพร้อมด้วยหมู่เมฆแห่งฟ้าสวรรค์ พระองค์เสด็จเข้าไปใกล้และเข้าเฝ้าองค์ผู้ดำรงอยู่ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์
  • ดาเนียล 9:24 - “เจ็ดสิบของ ‘เจ็ด’ ทรงกำหนดไว้แล้วสำหรับพี่น้องร่วมชาติและนครศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ให้เลิกการล่วงละเมิด เลิกทำบาป ลบล้างความชั่ว และนำความชอบธรรมอันมั่นคงนิรันดร์มาให้ เพื่อประทับตรานิมิตและคำพยากรณ์และเพื่อเจิมสถานที่บริสุทธิ์ที่สุด
  • ดาเนียล 9:25 - “จงรับรู้และเข้าใจข้อนี้เถิด คือตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกา ให้กอบกู้และสร้างเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ จวบจนผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งให้เป็นผู้ครอบครองนั้นจะมาถึง จะมีเจ็ดของ ‘เจ็ด’ และหกสิบสองของ ‘เจ็ด’ จะมีการสร้างถนนหนทางและคูเมือง แต่ทำในช่วงทุกข์ยากลำบาก
  • ดาเนียล 9:26 - หลังจากหกสิบสองของ ‘เจ็ด’ ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งไว้จะถูกประหารและจะไม่เหลืออะไร ประชาชนของผู้ครอบครองจะมาทำลายกรุงนั้นและสถานนมัสการ วาระสุดท้ายจะมาเหมือนน้ำท่วม สงครามจะขับเคี่ยวกันไปจนถึงจุดจบ และมีวิบัติตามที่กำหนดไว้
  • ดาเนียล 9:27 - ผู้นั้นจะยืนยันคำมั่นสัญญากับคนเป็นอันมากเป็นเวลาหนึ่งของ ‘เจ็ด’ แต่กลางของ ‘เจ็ด’ นั้นเอง เขาจะสั่งยุติการถวายเครื่องบูชาและของถวายต่างๆ แล้วผู้ที่ก่อให้เกิดวิบัติจะตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนอันเป็นต้นเหตุของวิบัติไว้ที่ด้านหนึ่งของพระวิหารซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเริศร้าง จวบจนวาระสุดท้ายมาถึงเขา ตามที่กำหนดไว้”
  • เอเสเคียล 17:22 - “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราเองนี่แหละจะเอาหน่อจากยอดของสนซีดาร์ไปปลูกไว้ เราจะหักหน่ออ่อนจากยอดไปปลูกไว้บนภูเขาสูง
  • สดุดี 69:1 - ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ด้วยเถิด เพราะน้ำท่วมถึงคอข้าพระองค์แล้ว
  • สดุดี 69:2 - ข้าพระองค์จมดิ่งลงในตมลึก ซึ่งไม่มีที่ให้หยั่งเท้า ข้าพระองค์จมอยู่ในห้วงน้ำลึก กระแสน้ำท่วมมิดข้าพระองค์
  • สดุดี 69:3 - ข้าพระองค์วิงวอนร่ำร้องขอความช่วยเหลือจนอ่อนล้า คอของข้าพระองค์แห้งผาก ตาของข้าพระองค์หม่นหมอง เฝ้าแต่มองหาพระเจ้าของข้าพระองค์
  • สดุดี 69:4 - คนที่เกลียดชังข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุ มีมากกว่าผมบนศีรษะของข้าพระองค์เสียอีก ศัตรูผู้มุ่งทำลายล้างข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุมีมากมายยิ่งนัก ข้าพระองค์ถูกบีบบังคับให้คืนสิ่งที่ข้าพระองค์ไม่ได้ขโมยมา
  • สดุดี 69:5 - ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงทราบดีว่าข้าพระองค์โง่เขลา ความผิดของข้าพระองค์ไม่อาจซ่อนไว้จากพระองค์
  • สดุดี 69:6 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ขออย่าให้ผู้ที่หวังในพระองค์ต้องอับอายเพราะข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าแห่งอิสราเอล ขออย่าให้บรรดาผู้แสวงหาพระองค์ ต้องอดสูเพราะข้าพระองค์
  • สดุดี 69:7 - เพราะข้าพระองค์ต้องทนต่อคำเยาะเย้ยถากถางเพราะเห็นแก่พระองค์ และต้องอับอายขายหน้า
  • สดุดี 69:8 - ข้าพระองค์กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับพี่น้องของข้าพระองค์ กลายเป็นคนต่างด้าวสำหรับพี่น้องท้องเดียวกัน
  • สดุดี 69:9 - เพราะความร้อนใจเพื่อพระนิเวศของพระองค์ท่วมท้นข้าพระองค์ การหมิ่นประมาทของผู้ที่สบประมาทพระองค์ตกอยู่บนข้าพระองค์
  • สดุดี 69:10 - เมื่อร่ำไห้และถืออดอาหาร ข้าพระองค์ต้องทนการเย้ยหยัน
  • สดุดี 69:11 - เมื่อข้าพระองค์สวมเสื้อผ้ากระสอบ ผู้คนพูดกระทบกระเทียบข้าพระองค์
  • สดุดี 69:12 - บรรดาผู้นั่งอยู่ที่ประตูเมืองเยาะเย้ยข้าพระองค์ และข้าพระองค์ตกเป็นเพลงเปรียบเปรยของคนขี้เมา
  • สดุดี 69:13 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ข้าพระองค์อธิษฐานทูลต่อพระองค์ ในยามที่พระองค์ทรงโปรด ข้าแต่พระเจ้า โดยความรักยิ่งใหญ่ของพระองค์ ขอทรงตอบข้าพระองค์ด้วยความรอดอันแน่นอนซึ่งมาจากพระองค์
  • สดุดี 69:14 - ขอทรงดึงข้าพระองค์พ้นจากตมลึกนี้ อย่าให้ข้าพระองค์จมลงไป ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากบรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพระองค์ ขอทรงช่วยให้พ้นจากห้วงน้ำลึก
  • สดุดี 69:15 - ขออย่าทรงให้น้ำหลากท่วมมิดข้าพระองค์ หรือให้เหวลึกกลืนข้าพระองค์ หรือให้แดนคนตายงับข้าพระองค์ไว้
  • สดุดี 69:16 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงตอบข้าพระองค์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ล้ำเลิศ ขอทรงหันมาหาข้าพระองค์ด้วยพระเมตตาคุณอันล้นเหลือ
  • สดุดี 69:17 - ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์จากผู้รับใช้ของพระองค์ ขอทรงตอบข้าพระองค์โดยเร็วเพราะข้าพระองค์กำลังเดือดร้อน
  • สดุดี 69:18 - ขอทรงเสด็จมาใกล้ และช่วยกู้ข้าพระองค์ด้วยเถิด ขอทรงปลดปล่อยข้าพระองค์จากเหล่าศัตรู
  • สดุดี 69:19 - พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์ถูกดูหมิ่น เย้ยหยัน และอับอายเพียงใด ศัตรูทั้งปวงของข้าพระองค์ก็อยู่ต่อหน้าพระองค์
  • สดุดี 69:20 - การเย้ยหยันทำให้ดวงใจของข้าพระองค์ชอกช้ำร้าวราน กลายเป็นคนสิ้นท่าอนาถา ข้าพระองค์เหลียวหาความเห็นอกเห็นใจแต่ไม่พบเลย มองหาคนปลอบใจ แต่ไม่มีแม้สักคน
  • สดุดี 69:21 - พวกเขาเอาน้ำดีรสขมใส่ในอาหารของ ข้าพระองค์ และให้น้ำส้มสายชูเมื่อข้าพระองค์กระหาย
  • สดุดี 69:22 - ขอให้สำรับที่ตั้งไว้ตรงหน้าพวกเขากลายเป็นบ่วงแร้ว ขอให้กลายเป็นสิ่งคืนสนองและเป็น กับดัก
  • สดุดี 69:23 - ขอให้ดวงตาของพวกเขามืดมัวไป พวกเขาจะได้มองไม่เห็น และขอให้หลังของพวกเขาค้อมลงตลอดไป
  • สดุดี 69:24 - ขอทรงระบายพระพิโรธใส่พวกเขา ให้พระพิโรธอันเกรี้ยวกราดตะครุบพวกเขา
  • สดุดี 69:25 - ขอให้ที่อยู่ของพวกเขาเริศร้าง อย่าให้มีผู้ใดอาศัยอยู่ในที่พำนักของพวกเขา
  • สดุดี 69:26 - เพราะพวกเขาข่มเหงผู้ที่พระองค์ทรงโบยตี และพูดถึงความเจ็บปวดของผู้ที่พระองค์ทรงทำให้บาดเจ็บ
  • สดุดี 69:27 - ขอทรงกล่าวโทษพวกเขา คดีแล้วคดีเล่า อย่าให้พวกเขามีส่วนในความรอดของพระองค์
  • สดุดี 69:28 - ขอให้คนเหล่านี้ถูกลบชื่อออกจากหนังสือแห่งชีวิต และอย่าให้มีรายชื่อร่วมกับผู้ชอบธรรม
  • สดุดี 69:29 - ข้าพระองค์เจ็บปวดและทนทุกข์ ข้าแต่พระเจ้า ขอให้ความรอดซึ่งมาจากพระองค์ปกป้องข้าพระองค์ไว้
  • สดุดี 69:30 - ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระนามของพระเจ้าด้วยบทเพลง และถวายเกียรติแด่พระองค์ ด้วยการขอบพระคุณ
  • สดุดี 69:31 - สิ่งนี้จะเป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งกว่าการถวายวัว ยิ่งกว่าการถวายวัวผู้ทั้งเขาและกีบ
  • สดุดี 69:32 - ผู้ตกทุกข์ได้ยากจะเห็นแล้วยินดี บรรดาท่านผู้แสวงหาพระเจ้าจงเบิกบานใจ
  • สดุดี 69:33 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสดับฟังผู้ยากไร้ และไม่ทรงดูหมิ่นคนของพระองค์ที่ตกเป็นเชลย
  • สดุดี 69:34 - ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ทั้งทะเลและสรรพสิ่งในทะเล จงสรรเสริญพระองค์
  • สดุดี 69:35 - เพราะพระเจ้าจะทรงช่วยกู้ศิโยน และจะทรงสร้างเมืองต่างๆ ของยูดาห์ขึ้นใหม่ แล้วเหล่าประชากรจะตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นั่นและครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์
  • สดุดี 69:36 - ลูกหลานของผู้รับใช้ของพระองค์จะได้รับดินแดนเป็นมรดก บรรดาผู้ที่รักพระนามของพระองค์จะอาศัยอยู่ที่นั่น
  • เศคาริยาห์ 13:7 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “ดาบเอ๋ย จงตื่นขึ้น ห้ำหั่นคนเลี้ยงแกะของเรา และคนใกล้ชิดของเรา จงฟาดฟันคนเลี้ยงแกะ และแกะจะกระจัดกระจายไป และเราจะตวัดมือฟาดผู้เล็กน้อย”
  • สดุดี 118:22 - ศิลาซึ่งช่างก่อได้ทิ้งแล้ว บัดนี้กลับกลายเป็นศิลามุมเอก
  • มัทธิว 16:21 - นับแต่นั้นมาพระเยซูทรงเริ่มชี้แจงแก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่าพระองค์จะต้องไปยังเยรูซาเล็ม ต้องทนทุกข์หลายประการด้วยน้ำมือของบรรดาผู้อาวุโสและพวกหัวหน้าปุโรหิตกับเหล่าธรรมาจารย์ พระองค์จะต้องถูกประหาร และในวันที่สามจะทรงมีชีวิตกลับเป็นขึ้นมาใหม่
  • อิสยาห์ 9:6 - ด้วยว่ามีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งที่ประทานแก่เรา และการปกครองจะอยู่บนบ่าของเขา และเขาจะได้รับการขนานนามว่า “ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช”
  • สดุดี 40:6 - พระองค์ไม่ได้ทรงประสงค์เครื่องบูชาและของถวาย ไม่ได้ทรงเรียกร้องเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาไถ่บาป แต่ทรงเปิดหูของข้าพระองค์
  • สดุดี 40:7 - แล้วข้าพระองค์ทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ ข้าพระองค์มาแล้ว ในหนังสือม้วนได้เขียนถึงข้าพระองค์ไว้
  • สดุดี 40:8 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ปรารถนาจะทำตามพระประสงค์ของพระองค์ บทบัญญัติของพระองค์อยู่ในดวงใจของข้าพระองค์”
  • เศคาริยาห์ 11:8 - ภายในเดือนเดียวข้าพเจ้าได้กำจัดคนเลี้ยงแกะทั้งสามคนนั้นออกไป แต่ข้าพเจ้ากลับเอือมระอาฝูงแกะคือชนชาตินี้ และพวกเขาก็เกลียดชังข้าพเจ้า
  • เศคาริยาห์ 11:9 - ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า “เราจะไม่เป็นคนเลี้ยงของเจ้าอีกแล้ว ใครจะตายก็ให้ตายไป ใครจะพินาศก็ให้พินาศไป ที่เหลือก็ให้กินเลือดกินเนื้อกันเอง”
  • เศคาริยาห์ 11:10 - แล้วข้าพเจ้าเอาไม้เท้าที่ชื่อว่า “พระคุณ” มาหักเสีย เป็นการล้มเลิกพันธสัญญาที่ข้าพเจ้าทำไว้กับประชาชาติทั้งปวง
  • เศคาริยาห์ 11:11 - เป็นอันยกเลิกสัญญาในวันนั้น แล้วผู้ตกทุกข์ได้ยากในฝูงแกะซึ่งมองดูข้าพเจ้าอยู่ ก็รู้ว่าเป็นพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า
  • เศคาริยาห์ 11:12 - ข้าพเจ้ากล่าวกับพวกเขาว่า “หากท่านเห็นชอบ ก็จงจ่ายค่าจ้างให้เรา ถ้าไม่เห็นดี ก็เก็บค่าจ้างนั้นไว้เถิด” ฉะนั้นเขาจึงจ่ายเงินให้ข้าพเจ้าเป็นเงินสามสิบแผ่น
  • เศคาริยาห์ 11:13 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงโยนเงินนี้ให้แก่ช่างปั้นหม้อ คือเงินค่าจ้างอย่างงามที่พวกเขาจ่ายให้” ข้าพเจ้าก็นำเงินสามสิบแผ่นนั้นโยนเข้าไปในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับช่างปั้นหม้อ
  • ลูกา 9:44 - “จงตั้งใจฟังสิ่งที่เราจะบอกท่านให้ดี คือบุตรมนุษย์จะถูกทรยศให้ตกอยู่ในมือมนุษย์”
  • สดุดี 109:4 - ข้าพระองค์เป็นมิตรกับเขา แต่เขากลับกล่าวหาข้าพระองค์ แม้ข้าพระองค์กำลังอธิษฐานเพื่อพวกเขา
  • สดุดี 109:5 - พวกเขาตอบแทนความดีของข้าพระองค์ด้วยความชั่ว ตอบแทนมิตรภาพด้วยความเกลียดชัง
  • สดุดี 109:6 - ขอทรงตั้ง คนชั่ว ให้ต่อต้านเขา ขอให้ผู้กล่าวโทษ ยืนอยู่ข้างขวาเขา
  • สดุดี 109:7 - เมื่อถูกไต่สวน ขอให้เขาถูกตัดสินว่าผิดจริง ขอให้คำอธิษฐานของเขามัดตัวเขา
  • สดุดี 109:8 - ขอให้เขาอายุสั้น ให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำแทนตำแหน่ง ของเขา
  • สดุดี 109:9 - ขอให้ลูกๆ ของเขากำพร้าพ่อ และภรรยาของเขาเป็นม่าย
  • สดุดี 109:10 - ขอให้ลูกหลานของเขาเร่ร่อนขอทาน ขอให้พวกเขาถูกขับไล่ออกจาก ที่อาศัยอันปรักหักพัง
  • สดุดี 109:11 - ขอให้เจ้าหนี้ยึดของทุกอย่างที่เขามี ขอให้คนต่างถิ่นมาปล้นชิงสิ่งที่เขาลงแรงหามา
  • สดุดี 109:12 - ขออย่าให้ใครเมตตากรุณาเขา หรือสงสารลูกกำพร้าพ่อของเขา
  • สดุดี 109:13 - ขอให้วงศ์วานของเขาถูกตัดขาด ให้เขาสิ้นชื่อภายในชั่วอายุถัดไป
  • สดุดี 109:14 - ขอให้ความชั่วช้าของบรรพบุรุษของเขาเป็นที่ระลึกอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้บาปของมารดาเขาไม่มีวันลบเลือนไป
  • สดุดี 109:15 - ขอให้บาปเหล่านั้นอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ เพื่อพระองค์จะทรงกระทำให้เขาถูกลืมไปจากโลก
  • สดุดี 109:16 - เพราะเขาไม่เคยคิดที่จะเมตตากรุณาใคร แต่เข่นฆ่าคนยากไร้ คนขัดสนและคนชอกช้ำ
  • สดุดี 109:17 - เขารักที่จะแช่งด่า ขอให้คำแช่งด่า ตกอยู่กับเขา เขาไม่นิยมชมชอบการให้พร ขอให้พร ห่างไกลจากเขา
  • สดุดี 109:18 - เขาแช่งด่าจนติดนิสัยเหมือนเสื้อผ้าติดกาย มันซึมเข้าไปในตัวเขาเหมือนน้ำ ซึมเข้าไปในกระดูกเหมือนน้ำมัน
  • สดุดี 109:19 - ขอให้การแช่งด่าเป็นดั่งเสื้อคลุมห่อตัวเขา เป็นดั่งเข็มขัดรัดรอบเขาไว้ตลอดไป
  • สดุดี 109:20 - ขอให้ทั้งหมดนี้เป็นการตอบแทนจากองค์พระผู้เป็นเจ้าที่มีต่อบรรดาผู้กล่าวหาข้าพระองค์ ที่มีต่อบรรดาผู้ที่ใส่ร้ายข้าพระองค์
  • ฮีบรู 9:8 - พระวิญญาณทรงสำแดงโดยสิ่งเหล่านี้ว่า ตราบใดที่พลับพลาแรกยังตั้งอยู่ ทางเข้าสู่อภิสุทธิสถานก็ยังไม่เปิด
  • อิสยาห์ 11:1 - หน่อหนึ่งจะงอกขึ้นมาจากตอของเจสซี กิ่งหนึ่งจะเกิดผล จากรากของเขา
  • อิสยาห์ 11:2 - พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทับอยู่เหนือผู้นั้น คือองค์พระวิญญาณแห่งสติปัญญาและความเข้าใจ พระวิญญาณแห่งคำปรึกษาและอานุภาพ พระวิญญาณแห่งความรู้และความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • อิสยาห์ 11:3 - และเขาผู้นั้นจะปีติยินดีในความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะไม่พิพากษาตามที่ได้เห็นภายนอก หรือตัดสินตามที่ได้ฟัง
  • อิสยาห์ 11:4 - แต่เขาจะพิพากษาคนขัดสนด้วยความชอบธรรม และตัดสินอย่างยุติธรรมเพื่อคนยากจนในแผ่นดินโลก เขาจะฟาดโลกด้วยคำพิพากษาจากริมฝีปากของเขา เขาจะประหารคนชั่วด้วยลมจากปากของเขา
  • อิสยาห์ 11:5 - ความชอบธรรมจะเป็นเข็มขัดของเขา และความซื่อสัตย์จะเป็นสายคาดเอวของเขา
  • อิสยาห์ 11:6 - สุนัขป่ากับลูกแกะจะอาศัยอยู่ด้วยกัน เสือดาวจะนอนเคียงข้างแพะ ลูกวัวกับสิงโตและลูกอ่อนของสัตว์อื่นๆ จะอยู่ด้วยกัน และเด็กเล็กๆ คนหนึ่งจะนำพวกมัน
  • อิสยาห์ 11:7 - แม่วัวจะกินหญ้าอยู่กับหมี ลูกของมันทั้งสองจะนอนด้วยกัน และสิงโตจะกินฟางเหมือนวัว
  • อิสยาห์ 11:8 - ทารกจะเล่นอยู่ใกล้รูงูเห่า และเด็กเล็กๆ จะยื่นมือเข้าไปในรังของงูพิษ
  • อิสยาห์ 11:9 - พวกมันจะไม่ทำร้ายหรือทำลายกัน ตลอดทั่วภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เพราะแผ่นดินโลกจะเต็มไปด้วยความรู้เรื่ององค์พระผู้เป็นเจ้า ดุจน้ำปกคลุมทะเล
  • อิสยาห์ 11:10 - ในวันนั้นรากของเจสซีจะตั้งเด่นดุจธงสำหรับมวลประชาชาติ ชาติต่างๆ จะรวมพลกันมาหาเขา และที่พำนักของเขาจะสง่างาม
  • เอเสเคียล 34:23 - เราจะตั้งคนเลี้ยงแกะคนหนึ่งเหนือพวกเขาคือดาวิดผู้รับใช้ของเรา เขาจะเลี้ยงดูและทำหน้าที่เป็นคนเลี้ยงแกะของพวกเขา
  • อิสยาห์ 7:14 - ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าเองจะประทานหมายสำคัญแก่ท่าน คือหญิงพรหมจารีคนหนึ่งจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย และ จะเรียกบุตรนั้นว่าอิมมานูเอล
  • สดุดี 22:1 - พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ทำไมทรงทอดทิ้งข้าพระองค์? เหตุใดพระองค์จึงทรงห่างไกล ไม่มาช่วยกู้ข้าพระองค์? ทรงห่างไกล ไม่ฟังคำคร่ำครวญของข้าพระองค์?
  • สดุดี 22:2 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลตลอดวัน แต่พระองค์ไม่ทรงตอบ ยามค่ำคืนข้าพระองค์ก็ไม่หยุดวิงวอน
  • สดุดี 22:3 - ถึงกระนั้นพระองค์ทรงประทับบนบัลลังก์ เป็นองค์บริสุทธิ์ พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญของอิสราเอล
  • สดุดี 22:4 - บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายวางใจในพระองค์ เขาเหล่านั้นวางใจในพระองค์ และพระองค์ทรงช่วยกู้พวกเขา
  • สดุดี 22:5 - พวกเขาร้องทูลพระองค์และได้รับการช่วยกู้ พวกเขาวางใจในพระองค์และไม่ผิดหวัง
  • สดุดี 22:6 - แต่ข้าพระองค์เป็นตัวหนอน ไม่ใช่คน ผู้คนก็ประณาม ประชาชนก็ดูแคลน
  • สดุดี 22:7 - คนทั้งปวงที่เห็นข้าพระองค์ก็เย้ยหยัน พวกเขาส่ายหน้าและพูดเหยียดหยามใส่ข้าพระองค์ว่า
  • สดุดี 22:8 - “เขาวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าช่วยเขาสิ ในเมื่อพระองค์ปีติยินดีในตัวเขา ก็ให้พระองค์ช่วยกู้เขาสิ”
  • สดุดี 22:9 - ถึงกระนั้นพระองค์ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์ พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์วางใจใน พระองค์ตั้งแต่อยู่ในอ้อมอกแม่
  • สดุดี 22:10 - ตั้งแต่เกิด ข้าพระองค์ก็ถูกทิ้งให้พึ่งพิงพระองค์ ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังอยู่ในครรภ์มารดา พระองค์ก็ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์
  • สดุดี 22:11 - ขออย่าทรงไกลห่างจากข้าพระองค์ เพราะความทุกข์ร้อนอยู่ใกล้ และไม่มีใครช่วยได้เลย
  • สดุดี 22:12 - เหล่ากระทิงห้อมล้อมข้าพระองค์ ฝูงโคถึกแห่งบาชานรุมล้อมข้าพระองค์
  • สดุดี 22:13 - พวกเขาอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพระองค์ ดั่งสิงโตคำรามและกัดฉีกเหยื่อ
  • สดุดี 22:14 - พละกำลังของข้าพระองค์เหือดแห้งไปดั่งสายน้ำ กระดูกทุกซี่ของข้าพระองค์หลุดจากข้อต่อ ใจของข้าพระองค์อ่อนล้าดั่งขี้ผึ้ง หลอมละลายภายในข้าพระองค์
  • สดุดี 22:15 - กำลังของข้าพระองค์แห้งผากไปดั่งดินเผา ลิ้นของข้าพระองค์เกาะติดเพดานปาก พระองค์ทรงปล่อยให้ข้าพระองค์นอน เกลือกธุลีแห่งความตาย
  • สดุดี 22:16 - เหล่าสุนัขรายล้อมข้าพระองค์ กลุ่มคนชั่วรุมล้อมข้าพระองค์ พวกเขาทิ่มแทงมือและเท้าของข้าพระองค์
  • สดุดี 22:17 - ข้าพระองค์สามารถนับกระดูกทั้งหมดของข้าพระองค์ ผู้คนจ้องมองข้าพระองค์อย่างสะใจ
  • สดุดี 22:18 - พวกเขาเอาเครื่องนุ่งห่มของข้าพระองค์มาแบ่งกัน และเอาเสื้อผ้าของข้าพระองค์มาจับสลาก
  • สดุดี 22:19 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ส่วนพระองค์ ขออย่าทรงห่างไกล ข้าแต่องค์ผู้ทรงเป็นพละกำลังของข้าพระองค์ โปรดรีบรุดเสด็จมาช่วยข้าพระองค์
  • สดุดี 22:20 - ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากคมดาบ ขอทรงช่วยชีวิตอันมีค่าของข้าพระองค์ให้พ้นจากอำนาจของเหล่าสุนัข
  • สดุดี 22:21 - ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากปากสิงห์ ขอทรงช่วยให้รอดพ้นจากเขาของวัวป่า
  • สดุดี 22:22 - ข้าพระองค์จะประกาศพระนามของพระองค์แก่พี่น้องทั้งหลายของข้าพระองค์ จะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุม
  • สดุดี 22:23 - ท่านทั้งหลายที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า จงสรรเสริญพระองค์! ท่านทั้งปวงผู้เป็นวงศ์วานของยาโคบ จงถวายพระเกียรติแด่พระองค์! จงยำเกรงพระองค์เถิด ท่านทั้งปวงผู้เป็นวงศ์วานของอิสราเอล!
  • สดุดี 22:24 - เพราะพระองค์ไม่ได้ทรงดูแคลนหรือรังเกียจเดียดฉันท์ ความทุกข์ทรมานของผู้ตกทุกข์ได้ยาก พระองค์ไม่ได้ทรงซ่อนพระพักตร์จากเขา แต่ทรงสดับฟังเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขา
  • สดุดี 22:25 - เนื่องด้วยพระองค์ ข้าพระองค์ร้องสรรเสริญในที่ชุมนุมใหญ่ ข้าพระองค์จะทำตามคำปฏิญาณของข้าพระองค์ ให้สำเร็จต่อหน้าบรรดาผู้ยำเกรงพระองค์
  • สดุดี 22:26 - คนยากไร้จะรับประทานและอิ่มหนำ บรรดาผู้เสาะหาองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ ขอให้จิตใจของท่านทั้งหลายมีชีวิตอยู่ตลอดกาล!
  • สดุดี 22:27 - ทั่วทุกมุมโลกจะระลึกได้ และหันมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกครอบครัวของชาติต่างๆ จะหมอบกราบต่อหน้าพระองค์
  • สดุดี 22:28 - เพราะอำนาจการปกครองเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ทรงปกครองเหนือมวลประชาชาติ
  • สดุดี 22:29 - คนมั่งคั่งทุกคนในแผ่นดินโลกจะเลี้ยงฉลองและนมัสการพระองค์ ทุกคนที่ต้องกลับสู่ผงคลีดินจะคุกเข่าลงต่อหน้าพระองค์ คือผู้ที่ไม่สามารถรักษาชีวิตของตนไว้ได้
  • สดุดี 22:30 - บรรดาลูกหลานจะปรนนิบัติพระองค์ มนุษย์จะกล่าวถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าให้คนรุ่นต่อไปฟัง
  • สดุดี 22:31 - พวกเขาจะประกาศความชอบธรรมของพระองค์ แก่ชนรุ่นหลังที่ยังไม่เกิดมา เพราะพระองค์ได้ทรงกระทำเช่นนั้น
  • ลูกา 24:6 - พระองค์ไม่ได้ทรงอยู่ที่นี่ พระองค์ทรงเป็นขึ้นแล้ว! จงระลึกถึงสิ่งที่พระองค์ทรงบอกพวกท่านไว้ขณะที่ยังอยู่ในแคว้นกาลิลีที่ว่า
  • ลูกา 24:7 - ‘บุตรมนุษย์จะต้องถูกมอบไว้ในมือของคนบาป ถูกตรึงตายที่ไม้กางเขน และในวันที่สามจะทรงให้เป็นขึ้นมาใหม่’ ”
  • กิจการของอัครทูต 3:22 - เพราะโมเสสกล่าวไว้ว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านจะทรงตั้งผู้เผยพระวจนะเช่นข้าพเจ้าขึ้นมาคนหนึ่งสำหรับท่านจากหมู่ประชากรของพวกท่านเอง ท่านต้องรับฟังทุกสิ่งที่เขาบอก
  • กิจการของอัครทูต 3:23 - ผู้ใดไม่ฟังจะถูกตัดขาดจากชนชาติของเขา’
  • กิจการของอัครทูต 3:24 - “อันที่จริง ผู้เผยพระวจนะทั้งปวงตั้งแต่ซามูเอลมาล้วนพยากรณ์ถึงวันเวลาเหล่านี้
  • ยอห์น 5:46 - หากท่านเชื่อโมเสส ท่านควรจะเชื่อเราเพราะโมเสสได้เขียนเกี่ยวกับเรา
  • วิวรณ์ 19:10 - ถึงตรงนี้ข้าพเจ้าหมอบลงแทบเท้าทูตสวรรค์เพื่อนมัสการ แต่ทูตนั้นกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “อย่าทำเช่นนั้น! เราเป็นเพื่อนผู้รับใช้ร่วมกับท่านและร่วมกับพี่น้องของท่านที่ยึดมั่นในคำพยานเรื่องพระเยซู จงนมัสการพระเจ้า! เพราะคำพยานเรื่องพระเยซูนั้นคือหัวใจของการเผยพระวจนะ”
  • เศคาริยาห์ 9:9 - ธิดาแห่งศิโยน เอ๋ย! จงชื่นชมยินดีเหลือล้น ธิดาแห่งเยรูซาเล็ม เอ๋ย! จงโห่ร้อง ดูเถิด กษัตริย์ของเจ้าเสด็จมาหาเจ้า ทรงชอบธรรมและนำความรอดมา ทรงอ่อนโยนและประทับมาบนหลังลา ทรงลูกลาเสด็จมา
  • สดุดี 110:1 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเจ้านาย ของข้าพเจ้าว่า “จงนั่งที่ขวามือของเรา จนกว่าเราจะทำให้ศัตรูของเจ้า เป็นแท่นวางเท้าของเจ้า”
  • สดุดี 110:2 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้คทาทรงฤทธิ์ของท่าน แผ่อำนาจออกไปจากศิโยน ท่านจะปกครองในหมู่อริราชศัตรู
  • สดุดี 110:3 - ในวันที่ท่านออกศึก กองทหารของท่านจะเต็มใจอาสาสู้รบ ตั้งแนวรบด้วยพระบารมีศักดิ์สิทธิ์ ท่านจะได้รับหยาดน้ำค้างแห่งวัยฉกรรจ์ จากครรภ์แห่งรุ่งอรุณ
  • สดุดี 110:4 - องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงปฏิญาณแล้ว และจะไม่ทรงเปลี่ยนพระทัยคือ “เจ้าเป็นปุโรหิตชั่วนิรันดร์ ตามแบบของเมลคีเซเดค”
  • สดุดี 110:5 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประทับเบื้องขวาของท่าน พระองค์จะทรงบดขยี้กษัตริย์ทั้งหลายในวันแห่งพระพิโรธของพระองค์
  • สดุดี 110:6 - พระองค์จะทรงพิพากษานานาประชาชาติ ทำให้ผู้คนล้มตายเกลื่อนกลาด จะทรงบดขยี้ผู้นำทั่วโลก
  • สดุดี 110:7 - ท่านจะดื่มน้ำจากลำธารริมทาง ฉะนั้นท่านจะผงาดเกรียงไกร
  • อิสยาห์ 40:1 - พระเจ้าของท่านตรัสว่า จงปลอบโยน จงปลอบโยนประชากรของเรา
  • อิสยาห์ 40:2 - จงกล่าวแก่เยรูซาเล็มอย่างอ่อนโยน และแจ้งให้เธอทราบว่า เธอได้ผ่านความทุกข์ลำเค็ญแล้ว บาปของเธอได้รับการชดใช้แล้ว ซึ่งเธอได้รับโทษจากพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าครบถ้วน แล้ว ตามบาปทั้งสิ้นที่เธอทำไป
  • อิสยาห์ 40:3 - เสียงของผู้หนึ่งร้องว่า “จงเตรียมทางในถิ่นกันดาร สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางหลวงของพระเจ้า ในถิ่นกันดารให้ตรงไป
  • อิสยาห์ 40:4 - หุบเขาทุกแห่งจะถูกยกขึ้น ภูเขาและเนินเขาทุกแห่งจะถูกทำให้ต่ำลง พื้นดินขรุขระจะถูกทำให้เรียบ ที่ลุ่มๆ ดอนๆ จะถูกทำให้เป็นที่ราบ
  • อิสยาห์ 40:5 - แล้วพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการเปิดเผย และมวลมนุษยชาติจะได้เห็นร่วมกัน เพราะพระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้แล้ว”
  • อิสยาห์ 40:6 - เสียงหนึ่งกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “จงร้องเถิด” และข้าพเจ้าถามว่า “ข้าพเจ้าควรจะร้องว่าอะไร?” เสียงนั้นกล่าวว่า “มวลมนุษยชาตินั้นเหมือนหญ้า และเกียรติทั้งปวงของพวกเขาก็เหมือนดอกไม้ในท้องทุ่ง
  • อิสยาห์ 40:7 - ต้นหญ้าเหี่ยวเฉาและดอกไม้ร่วงโรยไป เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหายใจรดใส่มัน แน่ทีเดียว มนุษย์เราก็เหมือนหญ้า
  • อิสยาห์ 40:8 - ต้นหญ้าเหี่ยวเฉาและดอกไม้ร่วงโรยไป แต่พระวจนะของพระเจ้าของเรายืนยงนิรันดร์”
  • อิสยาห์ 40:9 - ท่านผู้นำข่าวดีมายังศิโยน จงขึ้นไปบนภูเขาสูง ท่านผู้นำข่าวดีมายังเยรูซาเล็ม จงป่าวร้องสุดเสียง จงป่าวร้องให้สุดเสียง อย่ากลัวเลย จงร้องบอกเมืองต่างๆ ของยูดาห์ว่า “นี่คือพระเจ้าของท่าน!”
  • อิสยาห์ 40:10 - ดูเถิด พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตเสด็จมาด้วยฤทธิ์อำนาจ พระกรของพระองค์ครอบครองเพื่อพระองค์ ดูเถิด บำเหน็จรางวัลของพระองค์ก็อยู่ที่พระองค์ และพระองค์ทรงนำค่าตอบแทนของพระองค์มาด้วย
  • อิสยาห์ 40:11 - พระองค์ทรงเลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์ดั่งคนเลี้ยงแกะ พระองค์ทรงรวบรวมบรรดาลูกแกะไว้ในอ้อมพระกร โอบอุ้มไว้แนบพระทรวง พระองค์ทรงนำแม่แกะที่มีลูกอย่างอ่อนสุภาพ
  • สดุดี 72:1 - ข้าแต่พระเจ้า ขอประทานความยุติธรรมของพระองค์แก่กษัตริย์องค์นั้น และความชอบธรรมของพระองค์แก่ราชโอรส
  • สดุดี 72:2 - กษัตริย์จะ พิพากษาประชากรของพระองค์ด้วยความชอบธรรม ให้ความยุติธรรมแก่ผู้ทุกข์ลำเค็ญ
  • สดุดี 72:3 - ขอให้ภูเขานำความมั่งคั่งมาสู่ประชาชน เนินเขาให้ผลผลิตแห่งความชอบธรรม
  • สดุดี 72:4 - ขอให้ท่านปกป้องผู้ทุกข์ลำเค็ญในหมู่ประชาชน และช่วยกู้ลูกหลานของผู้ยากไร้ ขอให้ท่านบดขยี้คนที่ข่มเหงรังแกเขา
  • สดุดี 72:5 - ขอให้ท่านยืนยง ดั่งดวงอาทิตย์ ดั่งดวงจันทร์อยู่คู่ฟ้า คือตลอดทุกชั่วอายุคน
  • สดุดี 72:6 - ขอให้ท่านเป็นเหมือนฝนที่ตกลงมารดทุ่งหญ้าโล่งเตียน เหมือนสายฝนที่รดผืนแผ่นดิน
  • สดุดี 72:7 - ผู้ชอบธรรมจะเจริญรุ่งเรืองในรัชกาลของท่าน มีความผาสุกรุ่งเรืองไปจนกว่าดวงจันทร์จะดับสูญ
  • สดุดี 72:8 - ขอให้ท่านครอบครองจากทะเลฟากหนึ่งจดทะเลอีกฟากหนึ่ง จากแม่น้ำนั้น จนสุดโลก
  • สดุดี 72:9 - ขอให้ชนเผ่าต่างๆ ในถิ่นกันดารหมอบกราบท่าน ศัตรูของท่านจะสยบลงคลุกฝุ่น
  • สดุดี 72:10 - ขอให้บรรดากษัตริย์แห่งทารชิชและแห่งหมู่เกาะทั้งหลาย นำเครื่องบรรณาการมาถวายท่าน เหล่ากษัตริย์จากเชบาและเสบา จะนำของกำนัลมาถวาย
  • สดุดี 72:11 - ขอให้เหล่ากษัตริย์มาน้อมคำนับท่าน ประชาชาติทั้งปวงจะมาปรนนิบัติท่าน
  • สดุดี 72:12 - เพราะท่านจะช่วยกู้คนยากไร้ผู้ร้องทุกข์ ช่วยเหลือผู้ทุกข์ลำเค็ญซึ่งไม่มีใครช่วย
  • สดุดี 72:13 - ท่านมีใจสงสารผู้ที่อ่อนแอและขัดสน และช่วยชีวิตผู้ยากไร้ลำเค็ญ
  • สดุดี 72:14 - ท่านจะช่วยเขาให้พ้นจากการกดขี่ข่มเหง และจากความทารุณโหดร้าย เพราะโลหิตของเขามีค่าในสายตาของท่าน
  • สดุดี 72:15 - ขอให้ท่านอายุยืนนาน! ขอให้มีผู้นำทองคำจากเชบามาถวายท่าน ขอให้มีผู้อธิษฐานเผื่อท่านตลอดไป และอวยพรแก่ท่านตลอดวันเวลา
  • สดุดี 72:16 - ขอให้ข้าวอุดมทั่วแผ่นดิน แม้บนยอดเขาก็ยังชูรวงแกว่งไกวไปมา ขอให้พืชผลงอกงามดั่งเลบานอน ขอให้เจริญงอกงามดั่งหญ้าแห่งท้องทุ่ง
  • สดุดี 72:17 - ขอให้นามของท่านเลื่องลือตลอดกาล และยั่งยืนดั่งดวงอาทิตย์ มวลประชาชาติจะได้รับพรเพราะท่าน และพวกเขาจะเรียกท่านว่าผู้ได้รับพระพร
  • สดุดี 72:18 - ขอถวายสรรเสริญแด่พระเจ้าพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล พระองค์ผู้เดียวทรงกระทำพระราชกิจอันมหัศจรรย์
  • สดุดี 72:19 - ขอถวายสรรเสริญแด่พระนามอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ตลอดนิรันดร์ ขอให้ทั่วโลกเต็มไปด้วยพระเกียรติสิริของพระองค์ อาเมน และอาเมน
  • สดุดี 72:20 - จบคำอธิษฐานของดาวิดบุตรเจสซีเพียงเท่านี้
  • เศคาริยาห์ 6:12 - บอกเขาว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘นี่คือผู้ที่ได้ชื่อว่า “กิ่ง” เขาจะแตกกิ่งก้านสาขาจากที่ของเขาและสร้างวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 18:15 - พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงตั้งผู้เผยพระวจนะเหมือนข้าพเจ้าขึ้นมาคนหนึ่งสำหรับท่าน จากท่ามกลางพี่น้องของท่านเอง ท่านต้องรับฟังเขา
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 18:16 - เพราะท่านเองได้ทูลขอจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่ภูเขาโฮเรบในวันชุมนุมนั้น เมื่อท่านกล่าวว่า “ขออย่าให้เราได้ยินพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา หรืออย่าให้เราเห็นเปลวไฟใหญ่นั้นอีกเลย มิฉะนั้นเราจะต้องตาย”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 18:17 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ที่พวกเขากล่าวมาก็ดี
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 18:18 - เราจะตั้งผู้เผยพระวจนะขึ้นมาคนหนึ่งเหมือนเจ้าในหมู่พี่น้องของเขา เราจะใส่ถ้อยคำของเราไว้ในปากของเขา เขาจะแจ้งทุกสิ่งที่เราสั่งเขาแก่เหล่าประชากร
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 18:19 - ถ้าผู้ใดไม่ยอมฟังคำพูดของเราซึ่งผู้เผยพระวจนะนั้นกล่าวในนามของเรา เราเองจะจัดการกับผู้นั้น
  • ฮีบรู 10:1 - บทบัญญัติเป็นแต่เพียงเงาของสิ่งประเสริฐซึ่งจะมาถึง ไม่ใช่ของจริง เพราะเหตุนี้จึงไม่สามารถทำให้ผู้เข้าเฝ้านมัสการสมบูรณ์พร้อมด้วยเครื่องบูชาเดิมๆ ซึ่งถวายซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกๆ ปีไม่มีสิ้นสุด
  • ลูกา 9:22 - และตรัสว่า “บุตรมนุษย์ต้องทนทุกข์หลายประการ ถูกบรรดาผู้อาวุโสและพวกหัวหน้าปุโรหิตกับธรรมาจารย์ปฏิเสธ พระองค์จะต้องถูกประหาร และในวันที่สามจะทรงมีชีวิตกลับเป็นขึ้นมาใหม่”
  • กิจการของอัครทูต 13:33 - พระองค์ได้ทรงกระทำให้สำเร็จแล้วเพื่อพวกเราผู้เป็นลูกหลานของคนเหล่านั้นโดยทรงให้พระเยซูเป็นขึ้นตามที่เขียนไว้ในสดุดีบทที่สองว่า “ ‘เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราได้เป็นบิดาของเจ้า ’
  • เศคาริยาห์ 12:10 - “และเราจะให้พงศ์พันธุ์ดาวิดกับชาวเยรูซาเล็มมีวิญญาณ แห่งพระคุณและการอธิษฐาน พวกเขาจะมองดู เราผู้ที่พวกเขาได้แทง และจะไว้ทุกข์ให้เหมือนคนที่ไว้ทุกข์ให้ลูกคนเดียวของตน และร่ำไห้อย่างขมขื่นอาลัยผู้นั้นเหมือนอาลัยเมื่อลูกชายหัวปีของตนตาย
  • ลูกา 24:26 - พระคริสต์ ต้องทนทุกข์ทรมานด้วยสิ่งเหล่านั้น แล้วเข้าสู่พระเกียรติสิริของพระองค์ไม่ใช่หรือ?”
  • ลูกา 24:27 - จากนั้นพระองค์ทรงอธิบายทุกอย่างที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์เกี่ยวกับพระองค์เองให้เขาทั้งสองฟังตั้งแต่โมเสสตลอดจนผู้เผยพระวจนะทั้งปวง
逐节对照交叉引用
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “นี่คือสิ่งที่เราบอกไว้เมื่อยังอยู่กับท่านทั้งหลาย คือทุกสิ่งต้องสำเร็จตามที่เขียนไว้เกี่ยวกับเราในหนังสือบัญญัติของโมเสส หนังสือผู้เผยพระวจนะ และในหนังสือสดุดี”
  • 新标点和合本 - 耶稣对他们说:“这就是我从前与你们同在之时所告诉你们的话说:摩西的律法、先知的书,和诗篇上所记的,凡指着我的话都必须应验。”
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 耶稣对他们说:“这就是我从前和你们同在时所告诉你们的话:摩西的律法、先知的书,和《诗篇》上所记一切指着我的话都必须应验。”
  • 和合本2010(神版-简体) - 耶稣对他们说:“这就是我从前和你们同在时所告诉你们的话:摩西的律法、先知的书,和《诗篇》上所记一切指着我的话都必须应验。”
  • 当代译本 - 耶稣对他们说:“我跟你们在一起的时候曾经说过,摩西的律法书、先知的书以及诗篇里有关我的记载都要应验。”
  • 圣经新译本 - 主对他们说:“这就是我从前与你们同在的时候,对你们说过的话:摩西的律法、先知书和诗篇上所记关于我的一切事,都必定应验。”
  • 中文标准译本 - 耶稣对他们说:“这就是我还与你们在一起的时候,对你们说过的话:摩西的律法、先知书和诗篇上所记的有关我的一切事,都必须应验。”
  • 现代标点和合本 - 耶稣对他们说:“这就是我从前与你们同在之时所告诉你们的话说:摩西的律法、先知的书和诗篇上所记的,凡指着我的话都必须应验。”
  • 和合本(拼音版) - 耶稣对他们说:“这就是我从前与你们同在之时所告诉你们的话说:摩西的律法、先知的书和诗篇上所记的,凡指着我的话,都必须应验。”
  • New International Version - He said to them, “This is what I told you while I was still with you: Everything must be fulfilled that is written about me in the Law of Moses, the Prophets and the Psalms.”
  • New International Reader's Version - Jesus said to them, “This is what I told you while I was still with you. Everything written about me in the Law of Moses, the Prophets and the Psalms must come true.”
  • English Standard Version - Then he said to them, “These are my words that I spoke to you while I was still with you, that everything written about me in the Law of Moses and the Prophets and the Psalms must be fulfilled.”
  • New Living Translation - Then he said, “When I was with you before, I told you that everything written about me in the law of Moses and the prophets and in the Psalms must be fulfilled.”
  • The Message - Then he said, “Everything I told you while I was with you comes to this: All the things written about me in the Law of Moses, in the Prophets, and in the Psalms have to be fulfilled.”
  • Christian Standard Bible - He told them, “These are my words that I spoke to you while I was still with you — that everything written about me in the Law of Moses, the Prophets, and the Psalms must be fulfilled.”
  • New American Standard Bible - Now He said to them, “These are My words which I spoke to you while I was still with you, that all the things that are written about Me in the Law of Moses and the Prophets and the Psalms must be fulfilled.”
  • New King James Version - Then He said to them, “These are the words which I spoke to you while I was still with you, that all things must be fulfilled which were written in the Law of Moses and the Prophets and the Psalms concerning Me.”
  • Amplified Bible - Then He said to them, “This is what I told you while I was still with you, everything which has been written about Me in the Law of Moses and the [writings of the] Prophets and the Psalms must be fulfilled.”
  • American Standard Version - And he said unto them, These are my words which I spake unto you, while I was yet with you, that all things must needs be fulfilled, which are written in the law of Moses, and the prophets, and the psalms, concerning me.
  • King James Version - And he said unto them, These are the words which I spake unto you, while I was yet with you, that all things must be fulfilled, which were written in the law of Moses, and in the prophets, and in the psalms, concerning me.
  • New English Translation - Then he said to them, “These are my words that I spoke to you while I was still with you, that everything written about me in the law of Moses and the prophets and the psalms must be fulfilled.”
  • World English Bible - He said to them, “This is what I told you, while I was still with you, that all things which are written in the law of Moses, the prophets, and the psalms, concerning me must be fulfilled.”
  • 新標點和合本 - 耶穌對他們說:「這就是我從前與你們同在之時所告訴你們的話說:摩西的律法、先知的書,和詩篇上所記的,凡指着我的話都必須應驗。」
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 耶穌對他們說:「這就是我從前和你們同在時所告訴你們的話:摩西的律法、先知的書,和《詩篇》上所記一切指着我的話都必須應驗。」
  • 和合本2010(神版-繁體) - 耶穌對他們說:「這就是我從前和你們同在時所告訴你們的話:摩西的律法、先知的書,和《詩篇》上所記一切指着我的話都必須應驗。」
  • 當代譯本 - 耶穌對他們說:「我跟你們在一起的時候曾經說過,摩西的律法書、先知的書以及詩篇裡有關我的記載都要應驗。」
  • 聖經新譯本 - 主對他們說:“這就是我從前與你們同在的時候,對你們說過的話:摩西的律法、先知書和詩篇上所記關於我的一切事,都必定應驗。”
  • 呂振中譯本 - 耶穌又對他們說:『我這些話、我從前還和你們同在時所對你們講的話、就是:凡 摩西 《律法書》和《神言人的書》跟《詩篇》上所記的關於我的話、都必須得應驗。』
  • 中文標準譯本 - 耶穌對他們說:「這就是我還與你們在一起的時候,對你們說過的話:摩西的律法、先知書和詩篇上所記的有關我的一切事,都必須應驗。」
  • 現代標點和合本 - 耶穌對他們說:「這就是我從前與你們同在之時所告訴你們的話說:摩西的律法、先知的書和詩篇上所記的,凡指著我的話都必須應驗。」
  • 文理和合譯本 - 謂之曰、此乃我素偕爾時、所語爾者、云、凡摩西律、先知書、及詩篇所載指我者、悉必應也、
  • 文理委辦譯本 - 曰、摩西例、先知書、及詩篇、所載指我者、皆應、我素偕爾、曾言之矣、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 曰、昔我偕爾時、曾告爾云、凡 摩西 律法、先知書、及詩篇所載指我之言、皆必應、今果應矣、
  • 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 耶穌又謂諸徒曰:『曩日與爾同處、予曾明言、 摩西 律先知書與聖詠中所載予事、悉當應驗。』
  • Nueva Versión Internacional - —Cuando todavía estaba yo con ustedes, les decía que tenía que cumplirse todo lo que está escrito acerca de mí en la ley de Moisés, en los profetas y en los salmos.
  • 현대인의 성경 - 그러고서 예수님은 그들에게 “내가 너희와 함께 있을 때 모세의 율법책과 예언서와 시편에 나에 대하여 기록된 모든 것이 이루어져야 한다고 너희에게 말한 것이 바로 이것이다” 하시고
  • Новый Русский Перевод - – Об этом Я и говорил вам, когда был еще с вами, – сказал Он. – Все записанное обо Мне в Законе Моисея, у Пророков и в Псалмах должно исполниться.
  • Восточный перевод - – Об этом Я и говорил вам, когда был ещё с вами, – сказал Он. – Всё записанное обо Мне в Таурате , в Книге Пророков и в Забуре должно исполниться.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - – Об этом Я и говорил вам, когда был ещё с вами, – сказал Он. – Всё записанное обо Мне в Таурате , в Книге Пророков и в Забуре должно исполниться.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - – Об этом Я и говорил вам, когда был ещё с вами, – сказал Он. – Всё записанное обо Мне в Тавроте , в Книге Пророков и в Забуре должно исполниться.
  • La Bible du Semeur 2015 - Puis il leur dit : Voici ce que je vous ai dit quand j’étais encore avec vous : « Il faut que s’accomplisse tout ce qui est écrit de moi dans la Loi de Moïse, dans les prophètes, et dans les Psaumes. »
  • リビングバイブル - イエスは言われました。「以前、いっしょにいた時、モーセや預言者の書いたこと、それに聖書の詩篇にあることは、必ずそのとおりになると話して聞かせたはずです。忘れてしまったのですか。」
  • Nestle Aland 28 - Εἶπεν δὲ πρὸς αὐτούς· οὗτοι οἱ λόγοι μου οὓς ἐλάλησα πρὸς ὑμᾶς ἔτι ὢν σὺν ὑμῖν, ὅτι δεῖ πληρωθῆναι πάντα τὰ γεγραμμένα ἐν τῷ νόμῳ Μωϋσέως καὶ τοῖς προφήταις καὶ ψαλμοῖς περὶ ἐμοῦ.
  • unfoldingWord® Greek New Testament - εἶπεν δὲ πρὸς αὐτούς, οὗτοι οἱ λόγοι μου, οὓς ἐλάλησα πρὸς ὑμᾶς ἔτι ὢν σὺν ὑμῖν, ὅτι δεῖ πληρωθῆναι πάντα τὰ γεγραμμένα ἐν τῷ νόμῳ Μωϋσέως, καὶ τοῖς προφήταις, καὶ ψαλμοῖς, περὶ ἐμοῦ.
  • Nova Versão Internacional - E disse-lhes: “Foi isso que eu falei enquanto ainda estava com vocês: Era necessário que se cumprisse tudo o que a meu respeito está escrito na Lei de Moisés, nos Profetas e nos Salmos”.
  • Hoffnung für alle - Dann sagte er zu ihnen: »Erinnert euch an das, was ich euch angekündigt habe, als ich noch mit euch zusammen war: ›Alles muss sich erfüllen, was bei Mose, bei den Propheten und in den Psalmen über mich steht.‹«
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa nhắc nhở: “Trước đây, khi còn ở với các con, Ta đã từng nói mọi lời Môi-se, các tiên tri, và các Thi Thiên viết về Ta đều phải được ứng nghiệm.”
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระ​เยซู​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “สิ่ง​ที่​เรา​ได้​บอก​เจ้า​ไว้​ขณะ​ที่​เรา​ยัง​อยู่​กับ​เจ้า​ก็​คือ ทุก​สิ่ง​ที่​เขียน​ไว้​เกี่ยว​กับ​เรา​ใน​หมวด​กฎ​บัญญัติ​ของ​โมเสส หมวด​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า และ​หมวด​สดุดี จะ​เกิด​ขึ้น​สำเร็จ​ตาม​นั้น”
  • อาโมส 9:11 - “ในวันนั้นเราจะตั้งเต็นท์ของดาวิด “ที่ล้มลงแล้วขึ้นมาใหม่ เราจะซ่อมแซมสถานที่ที่พังทลายลง และปฏิสังขรณ์ซากปรักหักพัง และสร้างมันขึ้นเหมือนอย่างแต่ก่อน
  • ปฐมกาล 3:15 - เราจะให้เจ้ากับหญิงนั้น เป็นศัตรูกัน ทั้งเผ่าพันธุ์ ของเจ้ากับของนางด้วย เขาจะฟาดศีรษะของเจ้า และเจ้าจะฉก ส้นเท้าของเขา”
  • มัทธิว 26:56 - แต่ทั้งหมดนี้เป็นไปตามที่ผู้เผยพระวจนะได้เขียนไว้” แล้วสาวกทั้งหมดก็ละทิ้งพระองค์แล้วหนีไป ( มก.14:53-65 ; ยน.18:12 , 13 , 19-24 )
  • ยอห์น 17:11 - ข้าพระองค์จะไม่อยู่ในโลกอีกต่อไปแต่พวกเขายังอยู่ในโลกและข้าพระองค์กำลังจะไปหาพระองค์ ข้าแต่พระบิดาผู้บริสุทธิ์ ขอทรงปกป้องคุ้มครองพวกเขาไว้โดยฤทธานุภาพแห่งพระนามของพระองค์ พระนามซึ่งพระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์ เพื่อพวกเขาจะเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนที่พระองค์กับข้าพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกัน
  • ยอห์น 17:12 - ขณะข้าพระองค์อยู่กับพวกเขาข้าพระองค์ได้ปกป้องและรักษาพวกเขาไว้ให้ปลอดภัยโดยนามซึ่งพระองค์ได้ประทานแก่ข้าพระองค์ ไม่มีสักคนที่สูญเสียไป ยกเว้นผู้เดียวนั้นที่จะต้องพินาศเพื่อจะเป็นจริงตามพระคัมภีร์
  • ยอห์น 17:13 - “บัดนี้ข้าพระองค์กำลังไปหาพระองค์ แต่ที่ข้าพระองค์กล่าวสิ่งเหล่านี้ขณะยังอยู่ในโลก เพื่อว่าพวกเขาจะได้รับความชื่นชมยินดีของข้าพระองค์อย่างเต็มเปี่ยมอยู่ภายในพวกเขา
  • 1โครินธ์ 15:3 - เพราะเรื่องที่ข้าพเจ้าได้รับมานั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และข้าพเจ้าได้ถ่ายทอดให้ท่านคือ พระคริสต์ทรงวายพระชนม์เพราะบาปของเราตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์
  • 1โครินธ์ 15:4 - ทรงถูกฝังไว้และในวันที่สามพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตายตามที่พระคัมภีร์ระบุไว้
  • กิจการของอัครทูต 13:29 - เมื่อเขาทั้งหลายได้ทำตามสิ่งทั้งปวงที่มีเขียนไว้เกี่ยวกับพระองค์แล้วก็นำพระศพลงจากต้นไม้ไปวางไว้ในอุโมงค์
  • กิจการของอัครทูต 13:30 - แต่พระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย
  • กิจการของอัครทูต 13:31 - และบรรดาผู้ที่ได้ตามเสด็จพระองค์จากแคว้นกาลิลีมายังกรุงเยรูซาเล็มได้เห็นพระองค์เป็นเวลาหลายวัน บัดนี้พวกเขาเป็นพยานเรื่องพระองค์แก่ประชาชนของเรา
  • ลูกา 21:22 - เพราะนี่เป็นวาระแห่งการลงโทษ เพื่อให้สิ่งทั้งปวงสำเร็จตามที่มีเขียนไว้
  • มัทธิว 26:54 - แต่ถ้าเช่นนั้นจะเป็นจริงตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้หรือว่าต้องเป็นไปตามนี้?”
  • เยเรมีย์ 33:14 - “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘วันนั้นจะมาถึง เมื่อเราจะทำตามพันธสัญญาที่เต็มไปด้วยพระคุณซึ่งเราได้ให้ไว้แก่พงศ์พันธุ์อิสราเอลและพงศ์พันธุ์ยูดาห์
  • ลูกา 18:31 - พระเยซูทรงพาสาวกทั้งสิบสองคนเลี่ยงออกมาและตรัสบอกพวกเขาว่า “พวกเรากำลังขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และทุกอย่างที่บรรดาผู้เผยพระวจนะเขียนไว้เกี่ยวกับบุตรมนุษย์จะสำเร็จ
  • ลูกา 18:32 - พระองค์จะถูกมอบให้คนต่างชาติ พวกเขาจะเยาะเย้ย ดูหมิ่น ถ่มน้ำลายรด โบยตี และฆ่าพระองค์
  • ลูกา 18:33 - ในวันที่สามพระองค์จะเป็นขึ้นมาใหม่”
  • ลูกา 18:34 - เหล่าสาวกไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้เลย ความหมายของสิ่งเหล่านี้ถูกปิดบังจากพวกเขาและพวกเขาไม่รู้ว่าพระองค์กำลังตรัสถึงเรื่องอะไร ( มธ.20:29-34 ; มก.10:46-52 )
  • เศคาริยาห์ 14:4 - ในวันนั้นพระองค์จะทรงวางพระบาทบนภูเขามะกอกเทศ ทางตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็ม และภูเขามะกอกเทศจะแยกออกเป็นสองส่วน จากตะวันออกถึงตะวันตก ทำให้เกิดหุบเขาที่กว้างใหญ่ โดยครึ่งหนึ่งของภูเขาจะเคลื่อนไปทางเหนือ อีกครึ่งหนึ่งเคลื่อนไปทางใต้
  • มัทธิว 20:18 - “พวกเรากำลังขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และบุตรมนุษย์จะถูกทรยศและมอบให้พวกหัวหน้าปุโรหิตกับธรรมาจารย์ พวกเขาจะตัดสินประหารพระองค์
  • มัทธิว 20:19 - และจะมอบพระองค์ให้คนต่างชาติเยาะเย้ยโบยตีและตรึงตายบนไม้กางเขน แล้วในวันที่สามพระเจ้าจะทรงให้พระองค์คืนพระชนม์!” ( มก.10:35-45 )
  • ลูกา 22:37 - มีคำเขียนไว้ว่า ‘และเขาถูกนับเป็นพวกเดียวกับคนล่วงละเมิด’ เราบอกท่านว่าข้อความนี้จะต้องเป็นจริงกับตัวเรา ถูกแล้ว สิ่งที่เขียนไว้เกี่ยวกับเรากำลังจะสำเร็จ”
  • ยอห์น 16:16 - “อีกไม่นาน ท่านจะไม่เห็นเรา และจากนั้นไม่นานท่านจะเห็นเรา”
  • ยอห์น 16:17 - สาวกของพระองค์บางคนพูดกันว่า “พระองค์ทรงหมายความว่าอย่างไรที่ตรัสว่า ‘อีกไม่นานพวกท่านจะไม่เห็นเรา และจากนั้นไม่นานพวกท่านจะเห็นเรา’? และที่ว่า ‘เพราะเรากำลังจะไปหาพระบิดา’?”
  • เลวีนิติ 16:2 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงเตือนอาโรนพี่ชายของเจ้าไม่ให้เข้าไปในอภิสุทธิสถานหลังม่านซึ่งอยู่เบื้องหน้าพระที่นั่งกรุณาที่อยู่บนหีบพันธสัญญาตามอำเภอใจ มิฉะนั้นเขาจะต้องตาย เพราะเราจะปรากฏในกลุ่มเมฆเหนือพระที่นั่งกรุณา
  • เลวีนิติ 16:3 - “ต่อไปนี้เป็นข้อปฏิบัติในการที่อาโรนจะเข้าไปยังบริเวณสถานนมัสการ เขาจะต้องนำวัวหนุ่มสำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปและแกะผู้สำหรับเป็นเครื่องเผาบูชาไป
  • เลวีนิติ 16:4 - เขาต้องสวมเสื้อตัวในอันบริสุทธิ์ที่ทำด้วยผ้าลินินกับเครื่องแต่งกายชั้นในผ้าลินินที่ติดกับร่างกายของเขา คาดสายคาดเอวลินิน และโพกศีรษะด้วยผ้าลินิน นี่เป็นเครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์ ดังนั้นเขาต้องอาบน้ำก่อนที่จะสวมใส่
  • เลวีนิติ 16:5 - ให้เขารับแพะผู้สองตัวสำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และแกะผู้หนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชาจากชุมชนอิสราเอล
  • เลวีนิติ 16:6 - “ให้อาโรนถวายวัวหนุ่มหนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป เพื่อลบบาปให้ตนเองและครอบครัว
  • เลวีนิติ 16:7 - จากนั้นจะนำแพะสองตัวมาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ
  • เลวีนิติ 16:8 - เขาจะต้องจับฉลากสำหรับแพะทั้งสองนั้น ฉลากอันหนึ่งสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า และอีกอันหนึ่งสำหรับแพะรับบาป
  • เลวีนิติ 16:9 - อาโรนจะถวายแพะตัวที่ใช้ถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • เลวีนิติ 16:10 - แต่แพะที่ได้รับเลือกโดยฉลากให้เป็นแพะรับบาปจะถูกนำมาถวายทั้งที่ยังมีชีวิตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเป็นการลบบาป โดยส่งมันเข้าไปในถิ่นกันดารเป็นแพะรับบาป
  • เลวีนิติ 16:11 - “อาโรนจะนำวัวหนุ่มมาฆ่าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเพื่อลบบาปให้ตนเองและครอบครัว
  • เลวีนิติ 16:12 - เขาจะเอากระถางไฟบรรจุถ่านคุโชนจากแท่นบูชาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและกอบผงเครื่องหอมซึ่งบดละเอียดสองกำมือนำเข้าไปหลังม่าน
  • เลวีนิติ 16:13 - เขาจะโรยเครื่องหอมบนไฟต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ควันเครื่องหอมปกคลุมทั่วพระที่นั่งกรุณาเหนือหีบพันธสัญญา เพื่อว่าเขาจะไม่ตาย
  • เลวีนิติ 16:14 - เขาจะนำเลือดบางส่วนของวัวหนุ่มเข้าไปและใช้นิ้วพรมบนด้านหน้าของพระที่นั่งกรุณาเจ็ดครั้ง
  • เลวีนิติ 16:15 - “แล้วอาโรนจะฆ่าแพะเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับประชากร และนำเลือดของมันเข้าไปหลังม่าน แล้วทำเช่นเดียวกับที่ทำกับเลือดวัวผู้คือ เขาจะพรมเลือดนั้นที่ข้างบนและข้างหน้าของพระที่นั่งกรุณา
  • เลวีนิติ 16:16 - เขาจะลบบาปสำหรับอภิสุทธิสถานด้วยวิธีนี้เพราะมลทินและการกบฏของชาวอิสราเอล ไม่ว่าบาปของเขาจะเป็นอะไร เขาจะต้องทำอย่างเดียวกันนี้สำหรับเต็นท์นัดพบซึ่งอยู่ท่ามกลางพวกเขา ซึ่งแวดล้อมด้วยมลทินของพวกเขา
  • เลวีนิติ 16:17 - ห้ามผู้ใดอยู่ในเต็นท์นัดพบขณะที่อาโรนเข้าไปทำการลบบาปในอภิสุทธิสถาน จนกว่าเขาจะออกมาอีกครั้งหลังจากลบบาปให้ตนเอง ให้ครอบครัวและชุมชนอิสราเอลทั้งหมดแล้ว
  • เลวีนิติ 16:18 - “จากนั้นอาโรนจะไปยังแท่นบูชา คือต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและทำการลบบาปสำหรับแท่นนั้น เขาจะเอาเลือดวัวผู้และเลือดแพะบางส่วนทาที่เชิงงอนของแท่น
  • เลวีนิติ 16:19 - แล้วเอานิ้วจุ่มเลือดพรมบนแท่นบูชาเจ็ดครั้ง เป็นการชำระแท่นนั้นให้บริสุทธิ์พ้นจากมลทินของชนอิสราเอล
  • มาระโก 8:31 - นับแต่นั้นมาพระองค์ทรงเริ่มสั่งสอนเหล่าสาวกว่าบุตรมนุษย์ต้องทนทุกข์หลายประการ บรรดาผู้อาวุโส พวกหัวหน้าปุโรหิต กับเหล่าธรรมาจารย์จะไม่ยอมรับพระองค์ และพระองค์จะต้องถูกประหารและในวันที่สามจะทรงเป็นขึ้นมาอีก
  • มาระโก 8:32 - พระองค์ตรัสเรื่องนี้อย่างชัดแจ้ง ฝ่ายเปโตรดึงพระองค์เลี่ยงไปอีกทางหนึ่งและทูลติติงพระองค์
  • มาลาคี 4:2 - แต่พวกเจ้าที่ยำเกรงนามของเรา ดวงตะวันแห่งความชอบธรรมจะขึ้นมาพร้อมด้วยปีกแห่งการบำบัดรักษา และเจ้าจะโลดแล่นออกไปเหมือนลูกวัวที่ถูกปล่อยออกจากคอก
  • มาลาคี 4:3 - แล้วเจ้าจะเหยียบย่ำคนชั่ว พวกเขาจะเป็นเหมือนขี้เถ้าใต้ฝ่าเท้าของเจ้าในวันที่เราลงมือทำสิ่งเหล่านี้” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น
  • มาลาคี 4:4 - “จงระลึกถึงบทบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของเรา คือกฎหมายและบทบัญญัติต่างๆ ซึ่งเรามอบให้โมเสสบนภูเขาโฮเรบสำหรับชนชาติอิสราเอลทั้งปวง
  • มาลาคี 4:5 - “ดูเถิด เราจะส่งผู้เผยพระวจนะเอลียาห์มาหาพวกเจ้าก่อนวันอันยิ่งใหญ่น่ากลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึง
  • มาลาคี 4:6 - เขาจะหันจิตใจของพ่อมาหาลูกและหันจิตใจของลูกมาหาพ่อ มิฉะนั้นเราจะมาห้ำหั่นดินแดนนี้ด้วยคำสาปแช่ง”
  • โยเอล 2:28 - “และต่อมาภายหลัง เราจะเทวิญญาณของเราลงเหนือประชากรทั้งปวง บุตรชายบุตรสาวของเจ้าจะเผยพระวจนะ คนชราของเจ้าจะฝันเห็น คนหนุ่มของเจ้าจะเห็นนิมิต
  • โยเอล 2:29 - เมื่อถึงเวลานั้นเราจะเทวิญญาณของเรา ลงมาเหนือผู้รับใช้ของเราทั้งชายและหญิง
  • โยเอล 2:30 - เราจะสำแดงการอัศจรรย์ในฟ้าสวรรค์ และที่แผ่นดินโลก มีเลือด ไฟ และกลุ่มควัน
  • โยเอล 2:31 - ดวงอาทิตย์จะถูกเปลี่ยนเป็นความมืด และดวงจันทร์จะกลายเป็นเลือด ก่อนวันอันยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึง
  • โยเอล 2:32 - และทุกคนที่ร้องออกพระนามของพระยาห์เวห์ จะได้รับการช่วยให้รอด เพราะบนภูเขาศิโยน และในเยรูซาเล็มจะมีการช่วยกู้ ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้ ท่ามกลางผู้รอดชีวิตอยู่ ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกไว้
  • ยอห์น 3:14 - โมเสสยกงูขึ้นในถิ่นกันดารอย่างไร บุตรมนุษย์ก็ต้องถูกยกขึ้น อย่างนั้น
  • ปฐมกาล 49:10 - คทาจะไม่พ้นจากมือของยูดาห์ อำนาจปกครองจะไม่ขาดไปจากเชื้อสายของเขา จนกว่าบุคคลผู้เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงจะมาถึง บรรดาชนชาติจะเชื่อฟังผู้นั้น
  • มาลาคี 3:1 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ดูเถิด เราจะส่งทูตของเรามาเตรียมทางให้เราล่วงหน้า แล้วทันใดนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าที่เจ้าแสวงหาจะมายังพระวิหารของพระองค์ ทูตแห่งพันธสัญญาที่เจ้าปรารถนานั้นจะมา”
  • มาลาคี 3:2 - แต่ใครเล่าจะทนอยู่ได้ในวันที่พระองค์เสด็จมา? ใครเล่าจะยืนอยู่ได้เมื่อพระองค์ทรงปรากฏ? เพราะพระองค์จะทรงเป็นเหมือนไฟถลุง เหมือนสบู่ของช่างฟอก
  • มาลาคี 3:3 - พระองค์จะทรงนั่งลงอย่างช่างถลุงเงินและชำระให้บริสุทธิ์ จะทรงชำระชนเลวีเหมือนถลุงเงินและทองคำ แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้คนที่นำเครื่องบูชามาถวายด้วยความชอบธรรม
  • มาระโก 9:31 - เพราะทรงสั่งสอนพวกสาวกอยู่ พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “บุตรมนุษย์จะถูกทรยศให้ตกอยู่ในมือมนุษย์ พวกเขาจะฆ่าพระองค์ และหลังจากนั้นสามวันพระองค์จะเป็นขึ้นจากตาย”
  • ยอห์น 16:4 - เราบอกสิ่งนี้แก่พวกท่าน เพื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้น พวกท่านจะได้ระลึกว่าเราเตือนพวกท่านไว้แล้ว เราไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่พวกท่านไว้แต่แรก เพราะขณะนั้นเรายังอยู่กับพวกท่าน
  • ยอห์น 16:5 - “บัดนี้เรากำลังจะไปหาพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา กระนั้นก็ไม่มีใครสักคนในพวกท่านที่ถามเราว่า ‘พระองค์กำลังจะเสด็จไปไหน?’
  • ยอห์น 5:39 - ท่านขยันศึกษา พระคัมภีร์เพราะท่านคิดว่าโดยพระคัมภีร์ท่านจะได้ชีวิตนิรันดร์ พระธรรมเหล่านั้นคือพระคัมภีร์ที่เป็นพยานเกี่ยวกับเรา
  • กิจการของอัครทูต 17:2 - เปาโลเข้าไปในธรรมศาลาตามที่เขาเคยปฏิบัติมา และในวันสะบาโตทั้งสามสัปดาห์เปาโลได้ยกข้อพระคัมภีร์มาอภิปรายกับพวกเขา
  • กิจการของอัครทูต 17:3 - ชี้แจงและพิสูจน์ว่า พระคริสต์ ต้องทนทุกข์และเป็นขึ้นจากตาย เปาโลกล่าวว่า “พระเยซูผู้นี้ที่ข้าพเจ้าประกาศแก่พวกท่านคือพระคริสต์ ”
  • ยอห์น 19:24 - เขาพูดกันว่า “อย่าฉีกแบ่งเลย ให้เราจับฉลากกันว่าใครจะได้เสื้อตัวนี้” ทั้งนี้เพื่อจะเป็นจริงตาม พระคัมภีร์ที่ว่า “เขาทั้งหลายเอาเครื่องนุ่งห่มของข้าพระองค์มาแบ่งกัน และเอาเสื้อผ้าของข้าพระองค์มาจับฉลาก” พวกทหารทำเช่นนี้แหละ
  • ยอห์น 19:25 - ผู้ที่ยืนอยู่ข้างไม้กางเขนของพระเยซูได้แก่มารดาของพระองค์ น้าสาวของพระองค์ มารีย์ภรรยาของโคลปัส และมารีย์ชาวมักดาลา
  • ยอห์น 19:26 - เมื่อพระเยซูทรงเห็นมารดาของพระองค์และสาวกที่ทรงรักยืนอยู่ใกล้ๆ พระองค์จึงตรัสกับมารดาของพระองค์ว่า “หญิงที่รักเอ๋ย นี่คือบุตรชายของท่าน”
  • ยอห์น 19:27 - และตรัสกับสาวกคนนั้นว่า “นี่คือมารดาของท่าน” ตั้งแต่นั้นมาสาวกคนนี้ก็รับมารดาของพระองค์มาอยู่ที่บ้านของตน ( มธ.27:48 , 50 ; มก.15:36 , 37 ; ลก.23:36 )
  • ยอห์น 19:28 - หลังจากนั้นเมื่อพระองค์ทรงทราบว่าทุกสิ่งสำเร็จครบถ้วนแล้วและเพื่อจะเป็นจริงตามพระคัมภีร์ พระเยซูจึงตรัสว่า “เรากระหายน้ำ”
  • ยอห์น 19:29 - ที่นั่นมีภาชนะใส่น้ำองุ่นเปรี้ยวตั้งอยู่ พวกเขาจึงเอาฟองน้ำชุบน้ำองุ่นเปรี้ยวเสียบปลายไม้หุสบชูขึ้นถึงพระโอษฐ์ของพระเยซู
  • ยอห์น 19:30 - เมื่อทรงรับน้ำนั้นแล้วพระเยซูก็ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” จากนั้นพระองค์ก้มพระเศียรลงและสิ้นพระชนม์
  • ยอห์น 19:31 - วันนั้นเป็นวันเตรียมและรุ่งขึ้นจะเป็นวันสะบาโตพิเศษ เนื่องจากพวกยิวไม่ต้องการให้ศพค้างบนไม้กางเขนในช่วงวันสะบาโต จึงขอปีลาตให้ทุบขาผู้ที่ถูกตรึงให้หักและเอาศพลงมา
  • ยอห์น 19:32 - ดังนั้นพวกทหารจึงมาทุบขาของชายคนแรกที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนด้วยกันกับพระเยซูให้หัก แล้วทุบขาของอีกคนหนึ่งให้หักด้วย
  • ยอห์น 19:33 - แต่เมื่อมาถึงพระเยซูพวกเขาพบว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้วจึงไม่ได้ทุบขาของพระองค์
  • ยอห์น 19:34 - แต่ทหารคนหนึ่งเอาทวนแทงที่สีข้างของพระเยซูโลหิตกับน้ำก็ไหลออกมาทันที
  • ยอห์น 19:35 - ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้เป็นพยานและคำพยานของเขาเป็นความจริง เขารู้ว่าเขาพูดความจริงและเขาเป็นพยานเพื่อว่าท่านทั้งหลายจะเชื่อด้วย
  • ยอห์น 19:36 - สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อจะเป็นจริงตามพระคัมภีร์ที่ว่า “กระดูกของเขาจะไม่ถูกหักสักชิ้นเดียว”
  • ยอห์น 19:37 - และพระคัมภีร์อีกตอนหนึ่งที่กล่าวว่า “เขาทั้งหลายจะมองดูผู้ที่พวกเขาได้แทง” ( มธ.27:57-61 ; มก.15:42-47 ; ลก.23:50-56 )
  • มาระโก 10:33 - “พวกเรากำลังขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มและบุตรมนุษย์จะถูกทรยศและถูกมอบให้พวกหัวหน้าปุโรหิตกับธรรมาจารย์ พวกเขาจะตัดสินประหารพระองค์และจะมอบพระองค์ให้คนต่างชาติ
  • มาระโก 10:34 - คนเหล่านั้นจะเยาะเย้ยพระองค์และถ่มน้ำลายรดพระองค์ โบยตีพระองค์และฆ่าพระองค์ หลังจากนั้นสามวันพระองค์จะเป็นขึ้นจากตาย” ( มธ.20:20-28 )
  • ฮักกัย 2:7 - เราจะเขย่ามวลประชาชาติและสิ่งที่ประชาชาติทั้งหลายพึงปรารถนาจะหลั่งไหลมา และเราจะทำให้นิเวศนี้เปี่ยมด้วยสง่าราศี’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น
  • ฮักกัย 2:8 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า ‘เงินและทองเป็นของเรา
  • ฮักกัย 2:9 - สง่าราศีของนิเวศปัจจุบันจะรุ่งโรจน์กว่าสง่าราศีของนิเวศเดิม’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น ‘และเราจะให้สันติสุขแก่สถานที่นี้’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น”
  • กิจการของอัครทูต 3:18 - แต่พระเจ้าทรงให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเพื่อจะเป็นจริงตามที่ได้ตรัสไว้ล่วงหน้าผ่านทางผู้เผยพระวจนะทั้งปวงว่า พระคริสต์ ของพระองค์ต้องทนทุกข์ทรมาน
  • มัทธิว 17:22 - เมื่อพวกเขาพากันมาถึงกาลิลี พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกว่า “บุตรมนุษย์จะถูกทรยศให้ตกอยู่ในมือมนุษย์
  • มัทธิว 17:23 - พวกเขาจะฆ่าพระองค์และในวันที่สามพระองค์จะเป็นขึ้นจากตาย” และเหล่าสาวกพากันทุกข์โศกยิ่งนัก
  • ลูกา 24:46 - พระองค์ตรัสบอกพวกเขาว่า “นี่คือสิ่งที่เขียนไว้ คือพระคริสต์ต้องทนทุกข์และเป็นขึ้นจากตายในวันที่สาม
  • อิสยาห์ 50:2 - เมื่อเรามาถึง ทำไมจึงไม่มีใครสักคน? เมื่อเราเรียก ทำไมไม่มีใครตอบ? แขนของเราสั้นเกินกว่าที่จะไถ่เจ้าหรือ? เราขาดกำลังที่จะช่วยเจ้าให้รอดหรือ? เราสั่งเพียงคำเดียว ทะเลก็แห้งเหือด เราทำให้แม่น้ำกลับกลายเป็นทะเลทราย ปลาของพวกเขาเน่าเหม็นเพราะขาดน้ำ และตายเพราะความกระหาย
  • อิสยาห์ 50:3 - เราเอาความมืดห่อหุ้มท้องฟ้า เอาผ้ากระสอบคลุมมันเสีย”
  • อิสยาห์ 50:4 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประทานลิ้นที่ฝึกปรือแล้วแก่ข้าพเจ้า เพื่อจะรู้จักถ้อยคำซึ่งช่วยค้ำชูผู้อ่อนระโหย ทุกๆ เช้าพระองค์ทรงปลุกข้าพเจ้า ทรงปลุกหูของข้าพเจ้าให้รับฟังอย่างผู้ที่พระองค์ทรงสอน
  • อิสยาห์ 50:5 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงเปิดหูของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าไม่ได้ขัดขืน หรือถอยหนี
  • อิสยาห์ 50:6 - ข้าพเจ้ายอมหันหลังให้แก่ผู้ที่โบยตีข้าพเจ้า และเอียงแก้มให้แก่ผู้ที่ทึ้งเคราของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้หันหน้าหนี จากผู้ที่เย้ยหยันและถ่มน้ำลายรด
  • สดุดี 2:1 - เหตุใดประชาชาติทั้งหลายจึงคบคิด กัน? ชนชาติต่างๆ จะวางแผนให้ป่วยการไปทำไม?
  • สดุดี 2:2 - เหล่ากษัตริย์ของโลกตั้งตนขัดขืน บรรดาผู้ปกครองรวมตัวกัน เพื่อวางแผนต่อต้านองค์พระผู้เป็นเจ้า และต่อต้านผู้หนึ่งซึ่งพระองค์ทรงเจิมตั้งไว้
  • สดุดี 2:3 - แล้วกล่าวว่า “ให้พวกเราหักโซ่ตรวน และปลดเครื่องพันธนาการของพวกเขาทิ้งไป”
  • สดุดี 2:4 - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทับในฟ้าสวรรค์ทรงหัวเราะ พระองค์ทรงเย้ยหยันพวกเขา
  • สดุดี 2:5 - แล้วพระองค์ทรงกำราบพวกเขาด้วยพระพิโรธ และทรงทำให้พวกเขาหวาดกลัวด้วยพระพิโรธ โดยตรัสว่า
  • สดุดี 2:6 - “เราได้ตั้งกษัตริย์ผู้หนึ่งของเราไว้แล้ว บนศิโยนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา”
  • สดุดี 2:7 - กษัตริย์ผู้นั้นจะประกาศพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า พระองค์ได้ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า “เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราได้เป็นบิดาของเจ้า
  • สดุดี 2:8 - จงขอจากเรา แล้วเราจะมอบประชาชาติทั้งหลายให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า และให้เจ้าครอบครองไปจนสุดปลายแผ่นดินโลก
  • สดุดี 2:9 - เจ้าจะตีพวกเขาให้แตกด้วยกระบองเหล็ก เจ้าจะฟาดพวกเขาให้แหลกเป็นชิ้นๆ เหมือนหม้อดิน”
  • สดุดี 2:10 - เหตุฉะนั้น กษัตริย์ทั้งหลายเอ๋ย จงมีปัญญา บรรดาผู้นำของโลกเอ๋ย จงฟังคำตักเตือน
  • สดุดี 2:11 - จงปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยำเกรง และจงชื่นชมยินดีจนเนื้อเต้น
  • สดุดี 2:12 - จงก้มกราบพระบุตรนั้น มิฉะนั้นพระองค์จะทรงพระพิโรธ และท่านกับหนทางต่างๆ ของท่านจะถูกทำลาย เพราะว่าพระพิโรธของพระองค์จะพลุ่งขึ้นในพริบตา ความสุขมีแก่ทุกคนที่เข้ามาลี้ภัยในพระองค์
  • ฮีบรู 7:1 - เมลคีเซเดคผู้นี้ทรงเป็นกษัตริย์เมืองซาเลมและเป็นปุโรหิตของพระเจ้าผู้สูงสุด พระองค์ได้ทรงพบอับราฮัมและให้พรเขาหลังจากเขากลับจากการรบชนะเหล่ากษัตริย์
  • กันดารวิถี 35:25 - ชุมนุมประชากรต้องปกป้องผู้ถูกกล่าวหาจากผู้แก้แค้น และส่งเขากลับไปยังเมืองที่เขาไปลี้ภัยนั้น และเขาต้องอยู่ที่นั่นจวบจนมหาปุโรหิตผู้ได้รับการเจิมด้วยน้ำมันบริสุทธิ์สิ้นชีวิตลง
  • อิสยาห์ 49:1 - จงฟังข้าพเจ้าเถิด บรรดาเกาะแก่งทั้งหลายเอ๋ย ชนชาติไกลโพ้นทั้งหลาย ฟังทางนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเรียกข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้ายังไม่เกิด ทรงเอ่ยชื่อข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าถือกำเนิด
  • อิสยาห์ 49:2 - พระองค์ทรงทำให้ปากของข้าพเจ้าเหมือนดาบคมกริบ ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มเงาแห่งพระหัตถ์ ทรงทำให้ข้าพเจ้าเป็นลูกธนูคมปลาบ และทรงเก็บข้าพเจ้าไว้ในแล่งธนูของพระองค์
  • อิสยาห์ 49:3 - พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอล เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เราจะสำแดงเกียรติบารมีของเราในตัวเจ้า”
  • อิสยาห์ 49:4 - แต่ข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าตรากตรำไปอย่างไร้จุดหมาย ลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์และไร้ค่า ถึงกระนั้นสิ่งที่ข้าพเจ้าควรได้ก็อยู่ในพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า บำเหน็จของข้าพเจ้าอยู่ที่พระเจ้าของข้าพเจ้า”
  • อิสยาห์ 49:5 - และบัดนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า พระองค์ผู้ทรงสร้างข้าพเจ้าในครรภ์มารดา เพื่อให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อนำยาโคบกลับมายังพระองค์ และรวบรวมอิสราเอลมายังพระองค์เอง เพราะข้าพเจ้ามีเกียรติในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า และพระเจ้าทรงเป็นพละกำลังของข้าพเจ้า
  • อิสยาห์ 49:6 - พระองค์ตรัสว่า “เป็นการเล็กน้อยเกินไปที่จะให้เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เพื่อฟื้นฟูชนเผ่าต่างๆ ของยาโคบให้กลับสู่สภาพเดิม และนำชนอิสราเอลเหล่านั้นซึ่งเราสงวนไว้กลับมาหาเรา เราจะให้เจ้าเป็นแสงสว่างสำหรับชนต่างชาติด้วย เพื่อเจ้าจะนำความรอดของเราไปจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก”
  • อิสยาห์ 49:7 - พระยาห์เวห์ พระผู้ไถ่ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ตรัสแก่ผู้นั้นซึ่งเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของชาติ ผู้เป็นคนรับใช้ของบรรดาผู้ครอบครองนั้นว่า “กษัตริย์ทั้งหลายจะเห็นเจ้าแล้วยืนขึ้น เจ้านายทั้งปวงจะเห็นเจ้าแล้วหมอบกราบ เนื่องด้วยองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงซื่อสัตย์ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ทรงเลือกสรรเจ้า”
  • อิสยาห์ 49:8 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ในเวลาแห่งความโปรดปราน เราจะตอบเจ้า และในวันแห่งความรอด เราจะช่วยเจ้า เราจะปกป้องเจ้า และทำให้เจ้าเป็นพันธสัญญาแก่เหล่าประชากร เพื่อให้ดินแดนนั้นกลับคืนสู่ปกติสุข และรื้อฟื้นกรรมสิทธิ์ซึ่งถูกทิ้งร้างขึ้นมาใหม่
  • โฮเชยา 1:7 - แต่เราจะแสดงความรักต่อพงศ์พันธุ์ยูดาห์และจะช่วยพวกเขา ไม่ใช่ด้วยธนู ดาบ สงคราม หรือด้วยม้าและพลม้า แต่โดยพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา”
  • โฮเชยา 1:8 - หลังจากที่ให้โลรุหะมาห์หย่านมแล้ว โกเมอร์ก็มีบุตรชายอีกคนหนึ่ง
  • โฮเชยา 1:9 - แล้วพระองค์ตรัสว่า “จงเรียกเขาว่าโลอัมมี เพราะพวกเจ้าไม่ใช่ประชากรของเราและเราไม่ใช่พระเจ้าของเจ้า
  • โฮเชยา 1:10 - “ถึงกระนั้นชนชาติอิสราเอลจะเป็นเหมือนเม็ดทรายที่ชายทะเลซึ่งตวงนับไม่ได้ ในที่ซึ่งพระเจ้าตรัสแก่เขาว่า ‘เจ้าไม่ใช่ประชากรของเรา’ พวกเขาจะได้ชื่อว่า ‘บุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่’
  • โฮเชยา 1:11 - ประชากรยูดาห์และอิสราเอลจะถูกรวมเข้าด้วยกันอีก และพวกเขาจะแต่งตั้งผู้นำคนหนึ่งและจะพากันออกมาจากแผ่นดินนั้น เพราะวันแห่งยิสเรเอลจะยิ่งใหญ่
  • กิจการของอัครทูต 7:37 - “โมเสสคนนี้เองที่บอกชนอิสราเอลว่า ‘พระเจ้าจะทรงส่งผู้เผยพระวจนะเช่นข้าพเจ้ามาคนหนึ่งสำหรับท่านจากหมู่ประชากรของพวกท่านเอง’
  • สดุดี 16:9 - ฉะนั้นจิตใจของข้าพเจ้าจึงยินดีและลิ้นของข้าพเจ้าก็ปรีดา กายของข้าพเจ้าก็จะพักอยู่อย่างปลอดภัยเช่นกัน
  • สดุดี 16:10 - เพราะพระองค์จะไม่ทรงทิ้งข้าพระองค์ไว้กับหลุมฝังศพ ทั้งจะไม่ทรงปล่อยให้ผู้ซื่อสัตย์ของพระองค์ เน่าเปื่อย
  • สดุดี 16:11 - พระองค์ได้ทรงสำแดง หนทางแห่งชีวิตแก่ข้าพระองค์ พระองค์จะทรงให้ข้าพระองค์เปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์ มีความชื่นบานอยู่ที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์เป็นนิตย์
  • เยเรมีย์ 23:5 - องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “วันนั้นจะมาถึง เมื่อเราจะสถาปนากิ่งอันชอบธรรมให้แก่ดาวิด ผู้นั้นเป็นกษัตริย์ซึ่งจะปกครองอย่างชาญฉลาด และทำสิ่งที่ถูกต้องเที่ยงธรรมในแผ่นดิน
  • โฮเชยา 3:5 - หลังจากนั้นชนชาติอิสราเอลจะกลับมาแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาและดาวิดกษัตริย์ของเขา พวกเขาจะตัวสั่นเข้ามาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าและกลับมาหาพระพรของพระองค์ในบั้นปลาย
  • กันดารวิถี 21:8 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงทำงูตัวหนึ่งติดไว้ที่ยอดเสา ผู้ใดถูกงูกัด จงมองดูงูนั้นแล้วจะรอดชีวิต”
  • ปฐมกาล 14:18 - และกษัตริย์เมลคีเซเดคแห่งซาเลม ผู้เป็นปุโรหิตของพระเจ้าสูงสุด ได้นำอาหารและเหล้าองุ่นออกมาให้
  • ดาเนียล 2:44 - “ในยุคของกษัตริย์เหล่านั้น พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์จะทรงตั้งอาณาจักรหนึ่งซึ่งไม่มีใครทำลายล้างได้ ทั้งจะไม่ตกเป็นของชนชาติอื่น อาณาจักรนี้จะบดขยี้อาณาจักรอื่นๆ ทั้งปวงจนราบคาบ อาณาจักรนี้จะยั่งยืนมั่นคงตลอดกาล
  • อิสยาห์ 42:1 - “นี่คือผู้รับใช้ของเรา ซึ่งเราเชิดชู ผู้ที่เราเลือกสรรไว้ ซึ่งเราชื่นชม เราจะส่งวิญญาณของเราลงมาเหนือเขา และเขาจะนำความยุติธรรมไปถึงบรรดาประชาชาติ
  • อิสยาห์ 42:2 - เขาจะไม่ตะโกนหรือส่งเสียงร้อง ไม่ส่งเสียงดังกลางถนน
  • อิสยาห์ 42:3 - ไม้อ้อช้ำแล้ว เขาจะไม่หัก ไส้ตะเกียงที่ริบหรี่ เขาจะไม่ดับ เขาจะนำความยุติธรรมมาอย่างซื่อสัตย์
  • อิสยาห์ 42:4 - เขาจะไม่สะดุดหรือท้อถอย จนกว่าจะได้สถาปนาความยุติธรรมขึ้นในโลก หมู่เกาะจะฝากความหวังไว้ที่บทบัญญัติของเขา”
  • มีคาห์ 5:1 - นครแห่งกองทหารเอ๋ย จัดทัพเถิด เพราะศัตรูมาล้อมเมืองของเราแล้ว เขาจะเอาไม้เท้าฟาดแก้มผู้ปกครองของอิสราเอล
  • มีคาห์ 5:2 - “ส่วนเจ้า เบธเลเฮม เอฟราธาห์เอ๋ย ถึงแม้เจ้าเป็นคนเล็กน้อยในหมู่ตระกูลต่างๆ ของยูดาห์ แต่จะมีผู้หนึ่งออกมาจากเจ้าเพื่อเรา เป็นผู้ที่จะครอบครองอิสราเอล ผู้นั้นมีที่มา จากอดีตกาล จากโบราณกาล ”
  • มีคาห์ 5:3 - ฉะนั้น อิสราเอลจะถูกทอดทิ้ง จวบจนเมื่อถึงเวลาที่ผู้หญิงซึ่งกำลังเจ็บครรภ์นั้นคลอดบุตร และพี่น้องอื่นๆ ของบุคคลนั้น กลับมาสมทบกับชนอิสราเอล
  • มีคาห์ 5:4 - เขาจะยืนหยัดเลี้ยงดูฝูงแกะของเขา โดยกำลังขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยบารมีแห่งพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และพวกเขาจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่นคงปลอดภัย เพราะความยิ่งใหญ่ของเขาผู้นั้นจะแผ่ถึงสุดปลายแผ่นดินโลก
  • ฮีบรู 3:5 - โมเสสสัตย์ซื่อในฐานะผู้รับใช้ในทุกเรื่องเกี่ยวกับบ้านของพระเจ้า เป็นพยานถึงสิ่งที่จะตรัสในภายหน้า
  • อิสยาห์ 28:16 - ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ดูเถิด เราวางศิลาก้อนหนึ่งไว้ในศิโยน เป็นศิลามุมเอกล้ำค่า เหมาะเป็นรากฐานอันมั่นคง ผู้ที่วางใจจะไม่มีวันท้อแท้
  • สดุดี 88:1 - ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอด ข้าพระองค์เฝ้าร้องทูลต่อหน้าพระองค์ทั้งวันทั้งคืน
  • สดุดี 88:2 - ขอให้คำอธิษฐานของข้าพระองค์ขึ้นมาถึงต่อหน้าพระองค์ โปรดเอียงพระกรรณสดับคำร้องทูลของข้าพระองค์
  • สดุดี 88:3 - เพราะจิตวิญญาณของข้าพระองค์ทุกข์ร้อนยิ่งนัก และชีวิตของข้าพระองค์เฉียดใกล้หลุมฝังศพ
  • สดุดี 88:4 - ข้าพระองค์ถูกนับรวมอยู่ในกลุ่มคนที่ลงสู่หลุม ข้าพระองค์เหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง
  • สดุดี 88:5 - ข้าพระองค์ถูกแยกไว้ในหมู่คนตาย เหมือนผู้ที่ถูกฆ่าซึ่งนอนอยู่ในหลุมฝังศพ ผู้ที่พระองค์จะไม่ทรงนึกถึงอีกต่อไป ผู้ที่พระองค์จะไม่ทรงเหลียวแลอีกต่อไป
  • สดุดี 88:6 - พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์จมลงในหลุมที่ลึกที่สุด ในห้วงลึกที่มืดมิดที่สุด
  • สดุดี 88:7 - พระพิโรธของพระองค์ตกหนักอยู่เหนือข้าพระองค์ พระองค์ทรงให้กระแสคลื่นของพระองค์ซัดท่วมข้าพระองค์ เสลาห์
  • สดุดี 88:8 - พระองค์ทรงทำให้เพื่อนสนิทตีตัวออกห่างจากข้าพระองค์ ทรงทำให้ข้าพระองค์น่ารังเกียจชิงชัง ข้าพระองค์ถูกกักกันและหมดทางหนี
  • สดุดี 88:9 - ดวงตาของข้าพระองค์หม่นหมองเพราะความทุกข์โศก ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ทูลวิงวอนต่อพระองค์ทุกวัน ข้าพระองค์ยกมือต่อพระองค์
  • สดุดี 88:10 - พระองค์ทรงสำแดงการอัศจรรย์แก่คนตายหรือ? ผู้ที่ตายแล้วลุกขึ้นสรรเสริญพระองค์หรือ? เสลาห์
  • สดุดี 88:11 - ความรักมั่นคงของพระองค์ถูกประกาศในหลุมฝังศพหรือ? ความซื่อสัตย์ของพระองค์ถูกประกาศในแดนพินาศหรือ?
  • สดุดี 88:12 - การอัศจรรย์ของพระองค์เป็นที่รู้จักในแดนแห่งความมืดมิดหรือ? พระราชกิจอันชอบธรรมของพระองค์เป็นที่รู้จักในแดนที่ถูกลืมหรือ?
  • สดุดี 88:13 - แต่ข้าพระองค์ร้องทูลให้ทรงช่วย ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ยามเช้าคำอธิษฐานของข้าพระองค์ขึ้นถึงพระองค์
  • สดุดี 88:14 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เหตุใดทรงทอดทิ้งข้าพระองค์? เหตุใดทรงซ่อนพระพักตร์หนีจากข้าพระองค์?
  • สดุดี 88:15 - ตั้งแต่เยาว์วัย ข้าพระองค์ทุกข์ทรมานและเฉียดใกล้ความตาย ข้าพระองค์เผชิญความน่าสะพรึงกลัวของพระองค์และหมดหวัง
  • สดุดี 88:16 - พระพิโรธของพระองค์ท่วมท้นข้าพระองค์ ความน่าสะพรึงกลัวของพระองค์ทำลายข้าพระองค์
  • สดุดี 88:17 - สิ่งเหล่านั้นโหมกระหน่ำข้าพระองค์ตลอดทั้งวันเหมือนน้ำหลาก ท่วมข้าพระองค์จนมิด
  • สดุดี 88:18 - พระองค์ทรงพรากคนรัก และญาติมิตรไปหมด เหลือแต่ความมืดที่เป็นเพื่อนสนิทของข้าพระองค์
  • ปฐมกาล 22:18 - และทุกประชาชาติทั่วโลกจะได้รับพรผ่านทางเชื้อสาย ของเจ้า เพราะเจ้าได้เชื่อฟังเรา”
  • 1เปโตร 1:11 - พวกเขาพยายามพิเคราะห์ดูว่าสิ่งที่พระวิญญาณของพระคริสต์ในพวกเขาได้บ่งชี้ไว้นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใดและจะเกิดขึ้นอย่างไร เมื่อพระองค์ได้ทำนายถึงการทนทุกข์ของพระคริสต์และบรรดาพระเกียรติสิริที่จะตามมา
  • อิสยาห์ 61:1 - พระวิญญาณของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้ ให้ประกาศข่าวดีแก่ผู้ยากไร้ พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้ามาปลอบโยนผู้ชอกช้ำระกำใจ ให้ประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย และปลดปล่อยนักโทษ จากความมืด
  • อิสยาห์ 61:2 - ให้ประกาศปีแห่งความโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า และวันแห่งการแก้แค้นของพระเจ้าของเรา ให้ปลอบโยนทุกคนที่คร่ำครวญหวนไห้
  • อิสยาห์ 61:3 - และมอบมงกุฎแห่งความงามแทนขี้เถ้า แก่ผู้ที่ทุกข์โศกในศิโยน มอบน้ำมันแห่งความยินดี แทนการคร่ำครวญ และเครื่องนุ่งห่มแห่งคำสรรเสริญ แทนดวงใจที่ท้อแท้สิ้นหวัง พวกเขาจะได้ชื่อว่าต้นโอ๊กแห่งความชอบธรรม เป็นต้นไม้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปลูกไว้ เพื่อสำแดงความรุ่งโรจน์ของพระองค์
  • ดาเนียล 7:13 - “ในนิมิตคืนนั้น ข้าพเจ้าเห็นผู้หนึ่งเหมือนบุตรมนุษย์ เสด็จมาพร้อมด้วยหมู่เมฆแห่งฟ้าสวรรค์ พระองค์เสด็จเข้าไปใกล้และเข้าเฝ้าองค์ผู้ดำรงอยู่ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์
  • ดาเนียล 9:24 - “เจ็ดสิบของ ‘เจ็ด’ ทรงกำหนดไว้แล้วสำหรับพี่น้องร่วมชาติและนครศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ให้เลิกการล่วงละเมิด เลิกทำบาป ลบล้างความชั่ว และนำความชอบธรรมอันมั่นคงนิรันดร์มาให้ เพื่อประทับตรานิมิตและคำพยากรณ์และเพื่อเจิมสถานที่บริสุทธิ์ที่สุด
  • ดาเนียล 9:25 - “จงรับรู้และเข้าใจข้อนี้เถิด คือตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกา ให้กอบกู้และสร้างเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ จวบจนผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งให้เป็นผู้ครอบครองนั้นจะมาถึง จะมีเจ็ดของ ‘เจ็ด’ และหกสิบสองของ ‘เจ็ด’ จะมีการสร้างถนนหนทางและคูเมือง แต่ทำในช่วงทุกข์ยากลำบาก
  • ดาเนียล 9:26 - หลังจากหกสิบสองของ ‘เจ็ด’ ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งไว้จะถูกประหารและจะไม่เหลืออะไร ประชาชนของผู้ครอบครองจะมาทำลายกรุงนั้นและสถานนมัสการ วาระสุดท้ายจะมาเหมือนน้ำท่วม สงครามจะขับเคี่ยวกันไปจนถึงจุดจบ และมีวิบัติตามที่กำหนดไว้
  • ดาเนียล 9:27 - ผู้นั้นจะยืนยันคำมั่นสัญญากับคนเป็นอันมากเป็นเวลาหนึ่งของ ‘เจ็ด’ แต่กลางของ ‘เจ็ด’ นั้นเอง เขาจะสั่งยุติการถวายเครื่องบูชาและของถวายต่างๆ แล้วผู้ที่ก่อให้เกิดวิบัติจะตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนอันเป็นต้นเหตุของวิบัติไว้ที่ด้านหนึ่งของพระวิหารซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเริศร้าง จวบจนวาระสุดท้ายมาถึงเขา ตามที่กำหนดไว้”
  • เอเสเคียล 17:22 - “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราเองนี่แหละจะเอาหน่อจากยอดของสนซีดาร์ไปปลูกไว้ เราจะหักหน่ออ่อนจากยอดไปปลูกไว้บนภูเขาสูง
  • สดุดี 69:1 - ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ด้วยเถิด เพราะน้ำท่วมถึงคอข้าพระองค์แล้ว
  • สดุดี 69:2 - ข้าพระองค์จมดิ่งลงในตมลึก ซึ่งไม่มีที่ให้หยั่งเท้า ข้าพระองค์จมอยู่ในห้วงน้ำลึก กระแสน้ำท่วมมิดข้าพระองค์
  • สดุดี 69:3 - ข้าพระองค์วิงวอนร่ำร้องขอความช่วยเหลือจนอ่อนล้า คอของข้าพระองค์แห้งผาก ตาของข้าพระองค์หม่นหมอง เฝ้าแต่มองหาพระเจ้าของข้าพระองค์
  • สดุดี 69:4 - คนที่เกลียดชังข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุ มีมากกว่าผมบนศีรษะของข้าพระองค์เสียอีก ศัตรูผู้มุ่งทำลายล้างข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุมีมากมายยิ่งนัก ข้าพระองค์ถูกบีบบังคับให้คืนสิ่งที่ข้าพระองค์ไม่ได้ขโมยมา
  • สดุดี 69:5 - ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงทราบดีว่าข้าพระองค์โง่เขลา ความผิดของข้าพระองค์ไม่อาจซ่อนไว้จากพระองค์
  • สดุดี 69:6 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ขออย่าให้ผู้ที่หวังในพระองค์ต้องอับอายเพราะข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าแห่งอิสราเอล ขออย่าให้บรรดาผู้แสวงหาพระองค์ ต้องอดสูเพราะข้าพระองค์
  • สดุดี 69:7 - เพราะข้าพระองค์ต้องทนต่อคำเยาะเย้ยถากถางเพราะเห็นแก่พระองค์ และต้องอับอายขายหน้า
  • สดุดี 69:8 - ข้าพระองค์กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับพี่น้องของข้าพระองค์ กลายเป็นคนต่างด้าวสำหรับพี่น้องท้องเดียวกัน
  • สดุดี 69:9 - เพราะความร้อนใจเพื่อพระนิเวศของพระองค์ท่วมท้นข้าพระองค์ การหมิ่นประมาทของผู้ที่สบประมาทพระองค์ตกอยู่บนข้าพระองค์
  • สดุดี 69:10 - เมื่อร่ำไห้และถืออดอาหาร ข้าพระองค์ต้องทนการเย้ยหยัน
  • สดุดี 69:11 - เมื่อข้าพระองค์สวมเสื้อผ้ากระสอบ ผู้คนพูดกระทบกระเทียบข้าพระองค์
  • สดุดี 69:12 - บรรดาผู้นั่งอยู่ที่ประตูเมืองเยาะเย้ยข้าพระองค์ และข้าพระองค์ตกเป็นเพลงเปรียบเปรยของคนขี้เมา
  • สดุดี 69:13 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ข้าพระองค์อธิษฐานทูลต่อพระองค์ ในยามที่พระองค์ทรงโปรด ข้าแต่พระเจ้า โดยความรักยิ่งใหญ่ของพระองค์ ขอทรงตอบข้าพระองค์ด้วยความรอดอันแน่นอนซึ่งมาจากพระองค์
  • สดุดี 69:14 - ขอทรงดึงข้าพระองค์พ้นจากตมลึกนี้ อย่าให้ข้าพระองค์จมลงไป ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากบรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพระองค์ ขอทรงช่วยให้พ้นจากห้วงน้ำลึก
  • สดุดี 69:15 - ขออย่าทรงให้น้ำหลากท่วมมิดข้าพระองค์ หรือให้เหวลึกกลืนข้าพระองค์ หรือให้แดนคนตายงับข้าพระองค์ไว้
  • สดุดี 69:16 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงตอบข้าพระองค์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ล้ำเลิศ ขอทรงหันมาหาข้าพระองค์ด้วยพระเมตตาคุณอันล้นเหลือ
  • สดุดี 69:17 - ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์จากผู้รับใช้ของพระองค์ ขอทรงตอบข้าพระองค์โดยเร็วเพราะข้าพระองค์กำลังเดือดร้อน
  • สดุดี 69:18 - ขอทรงเสด็จมาใกล้ และช่วยกู้ข้าพระองค์ด้วยเถิด ขอทรงปลดปล่อยข้าพระองค์จากเหล่าศัตรู
  • สดุดี 69:19 - พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์ถูกดูหมิ่น เย้ยหยัน และอับอายเพียงใด ศัตรูทั้งปวงของข้าพระองค์ก็อยู่ต่อหน้าพระองค์
  • สดุดี 69:20 - การเย้ยหยันทำให้ดวงใจของข้าพระองค์ชอกช้ำร้าวราน กลายเป็นคนสิ้นท่าอนาถา ข้าพระองค์เหลียวหาความเห็นอกเห็นใจแต่ไม่พบเลย มองหาคนปลอบใจ แต่ไม่มีแม้สักคน
  • สดุดี 69:21 - พวกเขาเอาน้ำดีรสขมใส่ในอาหารของ ข้าพระองค์ และให้น้ำส้มสายชูเมื่อข้าพระองค์กระหาย
  • สดุดี 69:22 - ขอให้สำรับที่ตั้งไว้ตรงหน้าพวกเขากลายเป็นบ่วงแร้ว ขอให้กลายเป็นสิ่งคืนสนองและเป็น กับดัก
  • สดุดี 69:23 - ขอให้ดวงตาของพวกเขามืดมัวไป พวกเขาจะได้มองไม่เห็น และขอให้หลังของพวกเขาค้อมลงตลอดไป
  • สดุดี 69:24 - ขอทรงระบายพระพิโรธใส่พวกเขา ให้พระพิโรธอันเกรี้ยวกราดตะครุบพวกเขา
  • สดุดี 69:25 - ขอให้ที่อยู่ของพวกเขาเริศร้าง อย่าให้มีผู้ใดอาศัยอยู่ในที่พำนักของพวกเขา
  • สดุดี 69:26 - เพราะพวกเขาข่มเหงผู้ที่พระองค์ทรงโบยตี และพูดถึงความเจ็บปวดของผู้ที่พระองค์ทรงทำให้บาดเจ็บ
  • สดุดี 69:27 - ขอทรงกล่าวโทษพวกเขา คดีแล้วคดีเล่า อย่าให้พวกเขามีส่วนในความรอดของพระองค์
  • สดุดี 69:28 - ขอให้คนเหล่านี้ถูกลบชื่อออกจากหนังสือแห่งชีวิต และอย่าให้มีรายชื่อร่วมกับผู้ชอบธรรม
  • สดุดี 69:29 - ข้าพระองค์เจ็บปวดและทนทุกข์ ข้าแต่พระเจ้า ขอให้ความรอดซึ่งมาจากพระองค์ปกป้องข้าพระองค์ไว้
  • สดุดี 69:30 - ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระนามของพระเจ้าด้วยบทเพลง และถวายเกียรติแด่พระองค์ ด้วยการขอบพระคุณ
  • สดุดี 69:31 - สิ่งนี้จะเป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งกว่าการถวายวัว ยิ่งกว่าการถวายวัวผู้ทั้งเขาและกีบ
  • สดุดี 69:32 - ผู้ตกทุกข์ได้ยากจะเห็นแล้วยินดี บรรดาท่านผู้แสวงหาพระเจ้าจงเบิกบานใจ
  • สดุดี 69:33 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสดับฟังผู้ยากไร้ และไม่ทรงดูหมิ่นคนของพระองค์ที่ตกเป็นเชลย
  • สดุดี 69:34 - ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ทั้งทะเลและสรรพสิ่งในทะเล จงสรรเสริญพระองค์
  • สดุดี 69:35 - เพราะพระเจ้าจะทรงช่วยกู้ศิโยน และจะทรงสร้างเมืองต่างๆ ของยูดาห์ขึ้นใหม่ แล้วเหล่าประชากรจะตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นั่นและครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์
  • สดุดี 69:36 - ลูกหลานของผู้รับใช้ของพระองค์จะได้รับดินแดนเป็นมรดก บรรดาผู้ที่รักพระนามของพระองค์จะอาศัยอยู่ที่นั่น
  • เศคาริยาห์ 13:7 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “ดาบเอ๋ย จงตื่นขึ้น ห้ำหั่นคนเลี้ยงแกะของเรา และคนใกล้ชิดของเรา จงฟาดฟันคนเลี้ยงแกะ และแกะจะกระจัดกระจายไป และเราจะตวัดมือฟาดผู้เล็กน้อย”
  • สดุดี 118:22 - ศิลาซึ่งช่างก่อได้ทิ้งแล้ว บัดนี้กลับกลายเป็นศิลามุมเอก
  • มัทธิว 16:21 - นับแต่นั้นมาพระเยซูทรงเริ่มชี้แจงแก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่าพระองค์จะต้องไปยังเยรูซาเล็ม ต้องทนทุกข์หลายประการด้วยน้ำมือของบรรดาผู้อาวุโสและพวกหัวหน้าปุโรหิตกับเหล่าธรรมาจารย์ พระองค์จะต้องถูกประหาร และในวันที่สามจะทรงมีชีวิตกลับเป็นขึ้นมาใหม่
  • อิสยาห์ 9:6 - ด้วยว่ามีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งที่ประทานแก่เรา และการปกครองจะอยู่บนบ่าของเขา และเขาจะได้รับการขนานนามว่า “ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช”
  • สดุดี 40:6 - พระองค์ไม่ได้ทรงประสงค์เครื่องบูชาและของถวาย ไม่ได้ทรงเรียกร้องเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาไถ่บาป แต่ทรงเปิดหูของข้าพระองค์
  • สดุดี 40:7 - แล้วข้าพระองค์ทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ ข้าพระองค์มาแล้ว ในหนังสือม้วนได้เขียนถึงข้าพระองค์ไว้
  • สดุดี 40:8 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ปรารถนาจะทำตามพระประสงค์ของพระองค์ บทบัญญัติของพระองค์อยู่ในดวงใจของข้าพระองค์”
  • เศคาริยาห์ 11:8 - ภายในเดือนเดียวข้าพเจ้าได้กำจัดคนเลี้ยงแกะทั้งสามคนนั้นออกไป แต่ข้าพเจ้ากลับเอือมระอาฝูงแกะคือชนชาตินี้ และพวกเขาก็เกลียดชังข้าพเจ้า
  • เศคาริยาห์ 11:9 - ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า “เราจะไม่เป็นคนเลี้ยงของเจ้าอีกแล้ว ใครจะตายก็ให้ตายไป ใครจะพินาศก็ให้พินาศไป ที่เหลือก็ให้กินเลือดกินเนื้อกันเอง”
  • เศคาริยาห์ 11:10 - แล้วข้าพเจ้าเอาไม้เท้าที่ชื่อว่า “พระคุณ” มาหักเสีย เป็นการล้มเลิกพันธสัญญาที่ข้าพเจ้าทำไว้กับประชาชาติทั้งปวง
  • เศคาริยาห์ 11:11 - เป็นอันยกเลิกสัญญาในวันนั้น แล้วผู้ตกทุกข์ได้ยากในฝูงแกะซึ่งมองดูข้าพเจ้าอยู่ ก็รู้ว่าเป็นพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า
  • เศคาริยาห์ 11:12 - ข้าพเจ้ากล่าวกับพวกเขาว่า “หากท่านเห็นชอบ ก็จงจ่ายค่าจ้างให้เรา ถ้าไม่เห็นดี ก็เก็บค่าจ้างนั้นไว้เถิด” ฉะนั้นเขาจึงจ่ายเงินให้ข้าพเจ้าเป็นเงินสามสิบแผ่น
  • เศคาริยาห์ 11:13 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงโยนเงินนี้ให้แก่ช่างปั้นหม้อ คือเงินค่าจ้างอย่างงามที่พวกเขาจ่ายให้” ข้าพเจ้าก็นำเงินสามสิบแผ่นนั้นโยนเข้าไปในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับช่างปั้นหม้อ
  • ลูกา 9:44 - “จงตั้งใจฟังสิ่งที่เราจะบอกท่านให้ดี คือบุตรมนุษย์จะถูกทรยศให้ตกอยู่ในมือมนุษย์”
  • สดุดี 109:4 - ข้าพระองค์เป็นมิตรกับเขา แต่เขากลับกล่าวหาข้าพระองค์ แม้ข้าพระองค์กำลังอธิษฐานเพื่อพวกเขา
  • สดุดี 109:5 - พวกเขาตอบแทนความดีของข้าพระองค์ด้วยความชั่ว ตอบแทนมิตรภาพด้วยความเกลียดชัง
  • สดุดี 109:6 - ขอทรงตั้ง คนชั่ว ให้ต่อต้านเขา ขอให้ผู้กล่าวโทษ ยืนอยู่ข้างขวาเขา
  • สดุดี 109:7 - เมื่อถูกไต่สวน ขอให้เขาถูกตัดสินว่าผิดจริง ขอให้คำอธิษฐานของเขามัดตัวเขา
  • สดุดี 109:8 - ขอให้เขาอายุสั้น ให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำแทนตำแหน่ง ของเขา
  • สดุดี 109:9 - ขอให้ลูกๆ ของเขากำพร้าพ่อ และภรรยาของเขาเป็นม่าย
  • สดุดี 109:10 - ขอให้ลูกหลานของเขาเร่ร่อนขอทาน ขอให้พวกเขาถูกขับไล่ออกจาก ที่อาศัยอันปรักหักพัง
  • สดุดี 109:11 - ขอให้เจ้าหนี้ยึดของทุกอย่างที่เขามี ขอให้คนต่างถิ่นมาปล้นชิงสิ่งที่เขาลงแรงหามา
  • สดุดี 109:12 - ขออย่าให้ใครเมตตากรุณาเขา หรือสงสารลูกกำพร้าพ่อของเขา
  • สดุดี 109:13 - ขอให้วงศ์วานของเขาถูกตัดขาด ให้เขาสิ้นชื่อภายในชั่วอายุถัดไป
  • สดุดี 109:14 - ขอให้ความชั่วช้าของบรรพบุรุษของเขาเป็นที่ระลึกอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้บาปของมารดาเขาไม่มีวันลบเลือนไป
  • สดุดี 109:15 - ขอให้บาปเหล่านั้นอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ เพื่อพระองค์จะทรงกระทำให้เขาถูกลืมไปจากโลก
  • สดุดี 109:16 - เพราะเขาไม่เคยคิดที่จะเมตตากรุณาใคร แต่เข่นฆ่าคนยากไร้ คนขัดสนและคนชอกช้ำ
  • สดุดี 109:17 - เขารักที่จะแช่งด่า ขอให้คำแช่งด่า ตกอยู่กับเขา เขาไม่นิยมชมชอบการให้พร ขอให้พร ห่างไกลจากเขา
  • สดุดี 109:18 - เขาแช่งด่าจนติดนิสัยเหมือนเสื้อผ้าติดกาย มันซึมเข้าไปในตัวเขาเหมือนน้ำ ซึมเข้าไปในกระดูกเหมือนน้ำมัน
  • สดุดี 109:19 - ขอให้การแช่งด่าเป็นดั่งเสื้อคลุมห่อตัวเขา เป็นดั่งเข็มขัดรัดรอบเขาไว้ตลอดไป
  • สดุดี 109:20 - ขอให้ทั้งหมดนี้เป็นการตอบแทนจากองค์พระผู้เป็นเจ้าที่มีต่อบรรดาผู้กล่าวหาข้าพระองค์ ที่มีต่อบรรดาผู้ที่ใส่ร้ายข้าพระองค์
  • ฮีบรู 9:8 - พระวิญญาณทรงสำแดงโดยสิ่งเหล่านี้ว่า ตราบใดที่พลับพลาแรกยังตั้งอยู่ ทางเข้าสู่อภิสุทธิสถานก็ยังไม่เปิด
  • อิสยาห์ 11:1 - หน่อหนึ่งจะงอกขึ้นมาจากตอของเจสซี กิ่งหนึ่งจะเกิดผล จากรากของเขา
  • อิสยาห์ 11:2 - พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทับอยู่เหนือผู้นั้น คือองค์พระวิญญาณแห่งสติปัญญาและความเข้าใจ พระวิญญาณแห่งคำปรึกษาและอานุภาพ พระวิญญาณแห่งความรู้และความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • อิสยาห์ 11:3 - และเขาผู้นั้นจะปีติยินดีในความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะไม่พิพากษาตามที่ได้เห็นภายนอก หรือตัดสินตามที่ได้ฟัง
  • อิสยาห์ 11:4 - แต่เขาจะพิพากษาคนขัดสนด้วยความชอบธรรม และตัดสินอย่างยุติธรรมเพื่อคนยากจนในแผ่นดินโลก เขาจะฟาดโลกด้วยคำพิพากษาจากริมฝีปากของเขา เขาจะประหารคนชั่วด้วยลมจากปากของเขา
  • อิสยาห์ 11:5 - ความชอบธรรมจะเป็นเข็มขัดของเขา และความซื่อสัตย์จะเป็นสายคาดเอวของเขา
  • อิสยาห์ 11:6 - สุนัขป่ากับลูกแกะจะอาศัยอยู่ด้วยกัน เสือดาวจะนอนเคียงข้างแพะ ลูกวัวกับสิงโตและลูกอ่อนของสัตว์อื่นๆ จะอยู่ด้วยกัน และเด็กเล็กๆ คนหนึ่งจะนำพวกมัน
  • อิสยาห์ 11:7 - แม่วัวจะกินหญ้าอยู่กับหมี ลูกของมันทั้งสองจะนอนด้วยกัน และสิงโตจะกินฟางเหมือนวัว
  • อิสยาห์ 11:8 - ทารกจะเล่นอยู่ใกล้รูงูเห่า และเด็กเล็กๆ จะยื่นมือเข้าไปในรังของงูพิษ
  • อิสยาห์ 11:9 - พวกมันจะไม่ทำร้ายหรือทำลายกัน ตลอดทั่วภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เพราะแผ่นดินโลกจะเต็มไปด้วยความรู้เรื่ององค์พระผู้เป็นเจ้า ดุจน้ำปกคลุมทะเล
  • อิสยาห์ 11:10 - ในวันนั้นรากของเจสซีจะตั้งเด่นดุจธงสำหรับมวลประชาชาติ ชาติต่างๆ จะรวมพลกันมาหาเขา และที่พำนักของเขาจะสง่างาม
  • เอเสเคียล 34:23 - เราจะตั้งคนเลี้ยงแกะคนหนึ่งเหนือพวกเขาคือดาวิดผู้รับใช้ของเรา เขาจะเลี้ยงดูและทำหน้าที่เป็นคนเลี้ยงแกะของพวกเขา
  • อิสยาห์ 7:14 - ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าเองจะประทานหมายสำคัญแก่ท่าน คือหญิงพรหมจารีคนหนึ่งจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย และ จะเรียกบุตรนั้นว่าอิมมานูเอล
  • สดุดี 22:1 - พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ทำไมทรงทอดทิ้งข้าพระองค์? เหตุใดพระองค์จึงทรงห่างไกล ไม่มาช่วยกู้ข้าพระองค์? ทรงห่างไกล ไม่ฟังคำคร่ำครวญของข้าพระองค์?
  • สดุดี 22:2 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลตลอดวัน แต่พระองค์ไม่ทรงตอบ ยามค่ำคืนข้าพระองค์ก็ไม่หยุดวิงวอน
  • สดุดี 22:3 - ถึงกระนั้นพระองค์ทรงประทับบนบัลลังก์ เป็นองค์บริสุทธิ์ พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญของอิสราเอล
  • สดุดี 22:4 - บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายวางใจในพระองค์ เขาเหล่านั้นวางใจในพระองค์ และพระองค์ทรงช่วยกู้พวกเขา
  • สดุดี 22:5 - พวกเขาร้องทูลพระองค์และได้รับการช่วยกู้ พวกเขาวางใจในพระองค์และไม่ผิดหวัง
  • สดุดี 22:6 - แต่ข้าพระองค์เป็นตัวหนอน ไม่ใช่คน ผู้คนก็ประณาม ประชาชนก็ดูแคลน
  • สดุดี 22:7 - คนทั้งปวงที่เห็นข้าพระองค์ก็เย้ยหยัน พวกเขาส่ายหน้าและพูดเหยียดหยามใส่ข้าพระองค์ว่า
  • สดุดี 22:8 - “เขาวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าช่วยเขาสิ ในเมื่อพระองค์ปีติยินดีในตัวเขา ก็ให้พระองค์ช่วยกู้เขาสิ”
  • สดุดี 22:9 - ถึงกระนั้นพระองค์ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์ พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์วางใจใน พระองค์ตั้งแต่อยู่ในอ้อมอกแม่
  • สดุดี 22:10 - ตั้งแต่เกิด ข้าพระองค์ก็ถูกทิ้งให้พึ่งพิงพระองค์ ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังอยู่ในครรภ์มารดา พระองค์ก็ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์
  • สดุดี 22:11 - ขออย่าทรงไกลห่างจากข้าพระองค์ เพราะความทุกข์ร้อนอยู่ใกล้ และไม่มีใครช่วยได้เลย
  • สดุดี 22:12 - เหล่ากระทิงห้อมล้อมข้าพระองค์ ฝูงโคถึกแห่งบาชานรุมล้อมข้าพระองค์
  • สดุดี 22:13 - พวกเขาอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพระองค์ ดั่งสิงโตคำรามและกัดฉีกเหยื่อ
  • สดุดี 22:14 - พละกำลังของข้าพระองค์เหือดแห้งไปดั่งสายน้ำ กระดูกทุกซี่ของข้าพระองค์หลุดจากข้อต่อ ใจของข้าพระองค์อ่อนล้าดั่งขี้ผึ้ง หลอมละลายภายในข้าพระองค์
  • สดุดี 22:15 - กำลังของข้าพระองค์แห้งผากไปดั่งดินเผา ลิ้นของข้าพระองค์เกาะติดเพดานปาก พระองค์ทรงปล่อยให้ข้าพระองค์นอน เกลือกธุลีแห่งความตาย
  • สดุดี 22:16 - เหล่าสุนัขรายล้อมข้าพระองค์ กลุ่มคนชั่วรุมล้อมข้าพระองค์ พวกเขาทิ่มแทงมือและเท้าของข้าพระองค์
  • สดุดี 22:17 - ข้าพระองค์สามารถนับกระดูกทั้งหมดของข้าพระองค์ ผู้คนจ้องมองข้าพระองค์อย่างสะใจ
  • สดุดี 22:18 - พวกเขาเอาเครื่องนุ่งห่มของข้าพระองค์มาแบ่งกัน และเอาเสื้อผ้าของข้าพระองค์มาจับสลาก
  • สดุดี 22:19 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ส่วนพระองค์ ขออย่าทรงห่างไกล ข้าแต่องค์ผู้ทรงเป็นพละกำลังของข้าพระองค์ โปรดรีบรุดเสด็จมาช่วยข้าพระองค์
  • สดุดี 22:20 - ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากคมดาบ ขอทรงช่วยชีวิตอันมีค่าของข้าพระองค์ให้พ้นจากอำนาจของเหล่าสุนัข
  • สดุดี 22:21 - ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากปากสิงห์ ขอทรงช่วยให้รอดพ้นจากเขาของวัวป่า
  • สดุดี 22:22 - ข้าพระองค์จะประกาศพระนามของพระองค์แก่พี่น้องทั้งหลายของข้าพระองค์ จะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุม
  • สดุดี 22:23 - ท่านทั้งหลายที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า จงสรรเสริญพระองค์! ท่านทั้งปวงผู้เป็นวงศ์วานของยาโคบ จงถวายพระเกียรติแด่พระองค์! จงยำเกรงพระองค์เถิด ท่านทั้งปวงผู้เป็นวงศ์วานของอิสราเอล!
  • สดุดี 22:24 - เพราะพระองค์ไม่ได้ทรงดูแคลนหรือรังเกียจเดียดฉันท์ ความทุกข์ทรมานของผู้ตกทุกข์ได้ยาก พระองค์ไม่ได้ทรงซ่อนพระพักตร์จากเขา แต่ทรงสดับฟังเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขา
  • สดุดี 22:25 - เนื่องด้วยพระองค์ ข้าพระองค์ร้องสรรเสริญในที่ชุมนุมใหญ่ ข้าพระองค์จะทำตามคำปฏิญาณของข้าพระองค์ ให้สำเร็จต่อหน้าบรรดาผู้ยำเกรงพระองค์
  • สดุดี 22:26 - คนยากไร้จะรับประทานและอิ่มหนำ บรรดาผู้เสาะหาองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ ขอให้จิตใจของท่านทั้งหลายมีชีวิตอยู่ตลอดกาล!
  • สดุดี 22:27 - ทั่วทุกมุมโลกจะระลึกได้ และหันมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกครอบครัวของชาติต่างๆ จะหมอบกราบต่อหน้าพระองค์
  • สดุดี 22:28 - เพราะอำนาจการปกครองเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ทรงปกครองเหนือมวลประชาชาติ
  • สดุดี 22:29 - คนมั่งคั่งทุกคนในแผ่นดินโลกจะเลี้ยงฉลองและนมัสการพระองค์ ทุกคนที่ต้องกลับสู่ผงคลีดินจะคุกเข่าลงต่อหน้าพระองค์ คือผู้ที่ไม่สามารถรักษาชีวิตของตนไว้ได้
  • สดุดี 22:30 - บรรดาลูกหลานจะปรนนิบัติพระองค์ มนุษย์จะกล่าวถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าให้คนรุ่นต่อไปฟัง
  • สดุดี 22:31 - พวกเขาจะประกาศความชอบธรรมของพระองค์ แก่ชนรุ่นหลังที่ยังไม่เกิดมา เพราะพระองค์ได้ทรงกระทำเช่นนั้น
  • ลูกา 24:6 - พระองค์ไม่ได้ทรงอยู่ที่นี่ พระองค์ทรงเป็นขึ้นแล้ว! จงระลึกถึงสิ่งที่พระองค์ทรงบอกพวกท่านไว้ขณะที่ยังอยู่ในแคว้นกาลิลีที่ว่า
  • ลูกา 24:7 - ‘บุตรมนุษย์จะต้องถูกมอบไว้ในมือของคนบาป ถูกตรึงตายที่ไม้กางเขน และในวันที่สามจะทรงให้เป็นขึ้นมาใหม่’ ”
  • กิจการของอัครทูต 3:22 - เพราะโมเสสกล่าวไว้ว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านจะทรงตั้งผู้เผยพระวจนะเช่นข้าพเจ้าขึ้นมาคนหนึ่งสำหรับท่านจากหมู่ประชากรของพวกท่านเอง ท่านต้องรับฟังทุกสิ่งที่เขาบอก
  • กิจการของอัครทูต 3:23 - ผู้ใดไม่ฟังจะถูกตัดขาดจากชนชาติของเขา’
  • กิจการของอัครทูต 3:24 - “อันที่จริง ผู้เผยพระวจนะทั้งปวงตั้งแต่ซามูเอลมาล้วนพยากรณ์ถึงวันเวลาเหล่านี้
  • ยอห์น 5:46 - หากท่านเชื่อโมเสส ท่านควรจะเชื่อเราเพราะโมเสสได้เขียนเกี่ยวกับเรา
  • วิวรณ์ 19:10 - ถึงตรงนี้ข้าพเจ้าหมอบลงแทบเท้าทูตสวรรค์เพื่อนมัสการ แต่ทูตนั้นกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “อย่าทำเช่นนั้น! เราเป็นเพื่อนผู้รับใช้ร่วมกับท่านและร่วมกับพี่น้องของท่านที่ยึดมั่นในคำพยานเรื่องพระเยซู จงนมัสการพระเจ้า! เพราะคำพยานเรื่องพระเยซูนั้นคือหัวใจของการเผยพระวจนะ”
  • เศคาริยาห์ 9:9 - ธิดาแห่งศิโยน เอ๋ย! จงชื่นชมยินดีเหลือล้น ธิดาแห่งเยรูซาเล็ม เอ๋ย! จงโห่ร้อง ดูเถิด กษัตริย์ของเจ้าเสด็จมาหาเจ้า ทรงชอบธรรมและนำความรอดมา ทรงอ่อนโยนและประทับมาบนหลังลา ทรงลูกลาเสด็จมา
  • สดุดี 110:1 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเจ้านาย ของข้าพเจ้าว่า “จงนั่งที่ขวามือของเรา จนกว่าเราจะทำให้ศัตรูของเจ้า เป็นแท่นวางเท้าของเจ้า”
  • สดุดี 110:2 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้คทาทรงฤทธิ์ของท่าน แผ่อำนาจออกไปจากศิโยน ท่านจะปกครองในหมู่อริราชศัตรู
  • สดุดี 110:3 - ในวันที่ท่านออกศึก กองทหารของท่านจะเต็มใจอาสาสู้รบ ตั้งแนวรบด้วยพระบารมีศักดิ์สิทธิ์ ท่านจะได้รับหยาดน้ำค้างแห่งวัยฉกรรจ์ จากครรภ์แห่งรุ่งอรุณ
  • สดุดี 110:4 - องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงปฏิญาณแล้ว และจะไม่ทรงเปลี่ยนพระทัยคือ “เจ้าเป็นปุโรหิตชั่วนิรันดร์ ตามแบบของเมลคีเซเดค”
  • สดุดี 110:5 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประทับเบื้องขวาของท่าน พระองค์จะทรงบดขยี้กษัตริย์ทั้งหลายในวันแห่งพระพิโรธของพระองค์
  • สดุดี 110:6 - พระองค์จะทรงพิพากษานานาประชาชาติ ทำให้ผู้คนล้มตายเกลื่อนกลาด จะทรงบดขยี้ผู้นำทั่วโลก
  • สดุดี 110:7 - ท่านจะดื่มน้ำจากลำธารริมทาง ฉะนั้นท่านจะผงาดเกรียงไกร
  • อิสยาห์ 40:1 - พระเจ้าของท่านตรัสว่า จงปลอบโยน จงปลอบโยนประชากรของเรา
  • อิสยาห์ 40:2 - จงกล่าวแก่เยรูซาเล็มอย่างอ่อนโยน และแจ้งให้เธอทราบว่า เธอได้ผ่านความทุกข์ลำเค็ญแล้ว บาปของเธอได้รับการชดใช้แล้ว ซึ่งเธอได้รับโทษจากพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าครบถ้วน แล้ว ตามบาปทั้งสิ้นที่เธอทำไป
  • อิสยาห์ 40:3 - เสียงของผู้หนึ่งร้องว่า “จงเตรียมทางในถิ่นกันดาร สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางหลวงของพระเจ้า ในถิ่นกันดารให้ตรงไป
  • อิสยาห์ 40:4 - หุบเขาทุกแห่งจะถูกยกขึ้น ภูเขาและเนินเขาทุกแห่งจะถูกทำให้ต่ำลง พื้นดินขรุขระจะถูกทำให้เรียบ ที่ลุ่มๆ ดอนๆ จะถูกทำให้เป็นที่ราบ
  • อิสยาห์ 40:5 - แล้วพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการเปิดเผย และมวลมนุษยชาติจะได้เห็นร่วมกัน เพราะพระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้แล้ว”
  • อิสยาห์ 40:6 - เสียงหนึ่งกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “จงร้องเถิด” และข้าพเจ้าถามว่า “ข้าพเจ้าควรจะร้องว่าอะไร?” เสียงนั้นกล่าวว่า “มวลมนุษยชาตินั้นเหมือนหญ้า และเกียรติทั้งปวงของพวกเขาก็เหมือนดอกไม้ในท้องทุ่ง
  • อิสยาห์ 40:7 - ต้นหญ้าเหี่ยวเฉาและดอกไม้ร่วงโรยไป เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหายใจรดใส่มัน แน่ทีเดียว มนุษย์เราก็เหมือนหญ้า
  • อิสยาห์ 40:8 - ต้นหญ้าเหี่ยวเฉาและดอกไม้ร่วงโรยไป แต่พระวจนะของพระเจ้าของเรายืนยงนิรันดร์”
  • อิสยาห์ 40:9 - ท่านผู้นำข่าวดีมายังศิโยน จงขึ้นไปบนภูเขาสูง ท่านผู้นำข่าวดีมายังเยรูซาเล็ม จงป่าวร้องสุดเสียง จงป่าวร้องให้สุดเสียง อย่ากลัวเลย จงร้องบอกเมืองต่างๆ ของยูดาห์ว่า “นี่คือพระเจ้าของท่าน!”
  • อิสยาห์ 40:10 - ดูเถิด พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตเสด็จมาด้วยฤทธิ์อำนาจ พระกรของพระองค์ครอบครองเพื่อพระองค์ ดูเถิด บำเหน็จรางวัลของพระองค์ก็อยู่ที่พระองค์ และพระองค์ทรงนำค่าตอบแทนของพระองค์มาด้วย
  • อิสยาห์ 40:11 - พระองค์ทรงเลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์ดั่งคนเลี้ยงแกะ พระองค์ทรงรวบรวมบรรดาลูกแกะไว้ในอ้อมพระกร โอบอุ้มไว้แนบพระทรวง พระองค์ทรงนำแม่แกะที่มีลูกอย่างอ่อนสุภาพ
  • สดุดี 72:1 - ข้าแต่พระเจ้า ขอประทานความยุติธรรมของพระองค์แก่กษัตริย์องค์นั้น และความชอบธรรมของพระองค์แก่ราชโอรส
  • สดุดี 72:2 - กษัตริย์จะ พิพากษาประชากรของพระองค์ด้วยความชอบธรรม ให้ความยุติธรรมแก่ผู้ทุกข์ลำเค็ญ
  • สดุดี 72:3 - ขอให้ภูเขานำความมั่งคั่งมาสู่ประชาชน เนินเขาให้ผลผลิตแห่งความชอบธรรม
  • สดุดี 72:4 - ขอให้ท่านปกป้องผู้ทุกข์ลำเค็ญในหมู่ประชาชน และช่วยกู้ลูกหลานของผู้ยากไร้ ขอให้ท่านบดขยี้คนที่ข่มเหงรังแกเขา
  • สดุดี 72:5 - ขอให้ท่านยืนยง ดั่งดวงอาทิตย์ ดั่งดวงจันทร์อยู่คู่ฟ้า คือตลอดทุกชั่วอายุคน
  • สดุดี 72:6 - ขอให้ท่านเป็นเหมือนฝนที่ตกลงมารดทุ่งหญ้าโล่งเตียน เหมือนสายฝนที่รดผืนแผ่นดิน
  • สดุดี 72:7 - ผู้ชอบธรรมจะเจริญรุ่งเรืองในรัชกาลของท่าน มีความผาสุกรุ่งเรืองไปจนกว่าดวงจันทร์จะดับสูญ
  • สดุดี 72:8 - ขอให้ท่านครอบครองจากทะเลฟากหนึ่งจดทะเลอีกฟากหนึ่ง จากแม่น้ำนั้น จนสุดโลก
  • สดุดี 72:9 - ขอให้ชนเผ่าต่างๆ ในถิ่นกันดารหมอบกราบท่าน ศัตรูของท่านจะสยบลงคลุกฝุ่น
  • สดุดี 72:10 - ขอให้บรรดากษัตริย์แห่งทารชิชและแห่งหมู่เกาะทั้งหลาย นำเครื่องบรรณาการมาถวายท่าน เหล่ากษัตริย์จากเชบาและเสบา จะนำของกำนัลมาถวาย
  • สดุดี 72:11 - ขอให้เหล่ากษัตริย์มาน้อมคำนับท่าน ประชาชาติทั้งปวงจะมาปรนนิบัติท่าน
  • สดุดี 72:12 - เพราะท่านจะช่วยกู้คนยากไร้ผู้ร้องทุกข์ ช่วยเหลือผู้ทุกข์ลำเค็ญซึ่งไม่มีใครช่วย
  • สดุดี 72:13 - ท่านมีใจสงสารผู้ที่อ่อนแอและขัดสน และช่วยชีวิตผู้ยากไร้ลำเค็ญ
  • สดุดี 72:14 - ท่านจะช่วยเขาให้พ้นจากการกดขี่ข่มเหง และจากความทารุณโหดร้าย เพราะโลหิตของเขามีค่าในสายตาของท่าน
  • สดุดี 72:15 - ขอให้ท่านอายุยืนนาน! ขอให้มีผู้นำทองคำจากเชบามาถวายท่าน ขอให้มีผู้อธิษฐานเผื่อท่านตลอดไป และอวยพรแก่ท่านตลอดวันเวลา
  • สดุดี 72:16 - ขอให้ข้าวอุดมทั่วแผ่นดิน แม้บนยอดเขาก็ยังชูรวงแกว่งไกวไปมา ขอให้พืชผลงอกงามดั่งเลบานอน ขอให้เจริญงอกงามดั่งหญ้าแห่งท้องทุ่ง
  • สดุดี 72:17 - ขอให้นามของท่านเลื่องลือตลอดกาล และยั่งยืนดั่งดวงอาทิตย์ มวลประชาชาติจะได้รับพรเพราะท่าน และพวกเขาจะเรียกท่านว่าผู้ได้รับพระพร
  • สดุดี 72:18 - ขอถวายสรรเสริญแด่พระเจ้าพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล พระองค์ผู้เดียวทรงกระทำพระราชกิจอันมหัศจรรย์
  • สดุดี 72:19 - ขอถวายสรรเสริญแด่พระนามอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ตลอดนิรันดร์ ขอให้ทั่วโลกเต็มไปด้วยพระเกียรติสิริของพระองค์ อาเมน และอาเมน
  • สดุดี 72:20 - จบคำอธิษฐานของดาวิดบุตรเจสซีเพียงเท่านี้
  • เศคาริยาห์ 6:12 - บอกเขาว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘นี่คือผู้ที่ได้ชื่อว่า “กิ่ง” เขาจะแตกกิ่งก้านสาขาจากที่ของเขาและสร้างวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 18:15 - พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงตั้งผู้เผยพระวจนะเหมือนข้าพเจ้าขึ้นมาคนหนึ่งสำหรับท่าน จากท่ามกลางพี่น้องของท่านเอง ท่านต้องรับฟังเขา
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 18:16 - เพราะท่านเองได้ทูลขอจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่ภูเขาโฮเรบในวันชุมนุมนั้น เมื่อท่านกล่าวว่า “ขออย่าให้เราได้ยินพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา หรืออย่าให้เราเห็นเปลวไฟใหญ่นั้นอีกเลย มิฉะนั้นเราจะต้องตาย”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 18:17 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ที่พวกเขากล่าวมาก็ดี
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 18:18 - เราจะตั้งผู้เผยพระวจนะขึ้นมาคนหนึ่งเหมือนเจ้าในหมู่พี่น้องของเขา เราจะใส่ถ้อยคำของเราไว้ในปากของเขา เขาจะแจ้งทุกสิ่งที่เราสั่งเขาแก่เหล่าประชากร
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 18:19 - ถ้าผู้ใดไม่ยอมฟังคำพูดของเราซึ่งผู้เผยพระวจนะนั้นกล่าวในนามของเรา เราเองจะจัดการกับผู้นั้น
  • ฮีบรู 10:1 - บทบัญญัติเป็นแต่เพียงเงาของสิ่งประเสริฐซึ่งจะมาถึง ไม่ใช่ของจริง เพราะเหตุนี้จึงไม่สามารถทำให้ผู้เข้าเฝ้านมัสการสมบูรณ์พร้อมด้วยเครื่องบูชาเดิมๆ ซึ่งถวายซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกๆ ปีไม่มีสิ้นสุด
  • ลูกา 9:22 - และตรัสว่า “บุตรมนุษย์ต้องทนทุกข์หลายประการ ถูกบรรดาผู้อาวุโสและพวกหัวหน้าปุโรหิตกับธรรมาจารย์ปฏิเสธ พระองค์จะต้องถูกประหาร และในวันที่สามจะทรงมีชีวิตกลับเป็นขึ้นมาใหม่”
  • กิจการของอัครทูต 13:33 - พระองค์ได้ทรงกระทำให้สำเร็จแล้วเพื่อพวกเราผู้เป็นลูกหลานของคนเหล่านั้นโดยทรงให้พระเยซูเป็นขึ้นตามที่เขียนไว้ในสดุดีบทที่สองว่า “ ‘เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราได้เป็นบิดาของเจ้า ’
  • เศคาริยาห์ 12:10 - “และเราจะให้พงศ์พันธุ์ดาวิดกับชาวเยรูซาเล็มมีวิญญาณ แห่งพระคุณและการอธิษฐาน พวกเขาจะมองดู เราผู้ที่พวกเขาได้แทง และจะไว้ทุกข์ให้เหมือนคนที่ไว้ทุกข์ให้ลูกคนเดียวของตน และร่ำไห้อย่างขมขื่นอาลัยผู้นั้นเหมือนอาลัยเมื่อลูกชายหัวปีของตนตาย
  • ลูกา 24:26 - พระคริสต์ ต้องทนทุกข์ทรมานด้วยสิ่งเหล่านั้น แล้วเข้าสู่พระเกียรติสิริของพระองค์ไม่ใช่หรือ?”
  • ลูกา 24:27 - จากนั้นพระองค์ทรงอธิบายทุกอย่างที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์เกี่ยวกับพระองค์เองให้เขาทั้งสองฟังตั้งแต่โมเสสตลอดจนผู้เผยพระวจนะทั้งปวง
圣经
资源
计划
奉献