逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - อย่าให้คนต่างชาติผู้อุทิศตนแด่องค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงแยกข้าพเจ้าจากประชากรของพระองค์เป็นแน่” และอย่าให้ขันทีบ่นว่า “ข้าพเจ้าเป็นเพียงต้นไม้แห้ง”
- 新标点和合本 - 与耶和华联合的外邦人不要说: “耶和华必定将我从他民中分别出来。” 太监也不要说:“我是枯树。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 与耶和华联合的外邦人不要说: “耶和华将我和他的子民分别出来。” 太监也不要说:“看哪,我是枯树。”
- 和合本2010(神版-简体) - 与耶和华联合的外邦人不要说: “耶和华将我和他的子民分别出来。” 太监也不要说:“看哪,我是枯树。”
- 当代译本 - 归信耶和华的外族人啊, 不要以为耶和华会把你和祂的子民分开。 太监也不要说自己只是一棵枯树。
- 圣经新译本 - 与耶和华联合的外族人不要说: “耶和华必把我从他的子民中分别出来。” 被阉割了的人也不要说:“看哪!我是一棵枯树。”
- 中文标准译本 - 不要让归附于耶和华的外邦人说: “耶和华必定会把我从他的子民中分离出去。” 也不要让被阉割的人说: “看哪,我是一棵枯树!”
- 现代标点和合本 - 与耶和华联合的外邦人不要说: “耶和华必定将我从他民中分别出来。” 太监也不要说:“我是枯树。”
- 和合本(拼音版) - 与耶和华联合的外邦人不要说: “耶和华必定将我从他民中分别出来。” 太监也不要说:“我是枯树。”
- New International Version - Let no foreigner who is bound to the Lord say, “The Lord will surely exclude me from his people.” And let no eunuch complain, “I am only a dry tree.”
- New International Reader's Version - Suppose an outsider wants to follow the Lord. Then that person shouldn’t say, “The Lord won’t accept me as one of his people.” And a eunuch shouldn’t say, “I’m like a dry tree that doesn’t bear any fruit.”
- English Standard Version - Let not the foreigner who has joined himself to the Lord say, “The Lord will surely separate me from his people”; and let not the eunuch say, “Behold, I am a dry tree.”
- New Living Translation - “Don’t let foreigners who commit themselves to the Lord say, ‘The Lord will never let me be part of his people.’ And don’t let the eunuchs say, ‘I’m a dried-up tree with no children and no future.’
- Christian Standard Bible - No foreigner who has joined himself to the Lord should say, “The Lord will exclude me from his people,” and the eunuch should not say, “Look, I am a dried-up tree.”
- New American Standard Bible - Let not the foreigner who has joined himself to the Lord say, “The Lord will certainly separate me from His people.” Nor let the eunuch say, “Behold, I am a dry tree.”
- New King James Version - Do not let the son of the foreigner Who has joined himself to the Lord Speak, saying, “The Lord has utterly separated me from His people”; Nor let the eunuch say, “Here I am, a dry tree.”
- Amplified Bible - Do not let the foreigner who has joined himself to the Lord say, “The Lord will most certainly separate me from His people.” And do not let the eunuch say, “Look, I am a dry tree.”
- American Standard Version - Neither let the foreigner, that hath joined himself to Jehovah, speak, saying, Jehovah will surely separate me from his people; neither let the eunuch say, Behold, I am a dry tree.
- King James Version - Neither let the son of the stranger, that hath joined himself to the Lord, speak, saying, The Lord hath utterly separated me from his people: neither let the eunuch say, Behold, I am a dry tree.
- New English Translation - No foreigner who becomes a follower of the Lord should say, ‘The Lord will certainly exclude me from his people.’ The eunuch should not say, ‘Look, I am like a dried-up tree.’”
- World English Bible - Let no foreigner who has joined himself to Yahweh speak, saying, “Yahweh will surely separate me from his people.” Do not let the eunuch say, “Behold, I am a dry tree.”
- 新標點和合本 - 與耶和華聯合的外邦人不要說: 耶和華必定將我從他民中分別出來。 太監也不要說:我是枯樹。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 與耶和華聯合的外邦人不要說: 「耶和華將我和他的子民分別出來。」 太監也不要說:「看哪,我是枯樹。」
- 和合本2010(神版-繁體) - 與耶和華聯合的外邦人不要說: 「耶和華將我和他的子民分別出來。」 太監也不要說:「看哪,我是枯樹。」
- 當代譯本 - 歸信耶和華的外族人啊, 不要以為耶和華會把你和祂的子民分開。 太監也不要說自己只是一棵枯樹。
- 聖經新譯本 - 與耶和華聯合的外族人不要說: “耶和華必把我從他的子民中分別出來。” 被閹割了的人也不要說:“看哪!我是一棵枯樹。”
- 呂振中譯本 - 皈依永恆主的外族人不要說: 『永恆主必定將我 從他人民中分別出來』; 被閹割的人也不要說: 『唉,我是棵枯乾了的樹了。』
- 中文標準譯本 - 不要讓歸附於耶和華的外邦人說: 「耶和華必定會把我從他的子民中分離出去。」 也不要讓被閹割的人說: 「看哪,我是一棵枯樹!」
- 現代標點和合本 - 與耶和華聯合的外邦人不要說: 「耶和華必定將我從他民中分別出來。」 太監也不要說:「我是枯樹。」
- 文理和合譯本 - 附耶和華之異邦人、勿曰耶和華必別我於其民、閹者勿曰我乃枯木、
- 文理委辦譯本 - 異邦之人歸誠於我者、勿曰、耶和華不以我為赤子、閹者亦勿曰、我若枯木、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 異邦之人歸主者勿曰、主必別我於其民之中、閹者亦勿曰、我若枯木、
- Nueva Versión Internacional - El extranjero que por su propia voluntad se ha unido al Señor no debe decir: «El Señor me excluirá de su pueblo». Tampoco debe decir el eunuco: «No soy más que un árbol seco».
- 현대인의 성경 - 여호와를 섬기는 이방인들은 “틀림없이 여호와께서 나를 자기 백성과 구별하실 것이다” 하지 말며 고자도 “나는 마른 나무에 불과할 뿐이야” 하고 불평하지 말아라.
- Новый Русский Перевод - Пусть никто из чужеземцев, присоединившихся к Господу, не говорит: «Господь непременно отделит меня от Своего народа». Пусть ни один евнух не сетует: «Я – только засохшее дерево».
- Восточный перевод - Пусть никто из чужеземцев, присоединившихся к Вечному, не говорит: «Боюсь, Вечный отделит меня от Своего народа». Пусть ни один евнух не сетует: «Я – только засохшее дерево».
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Пусть никто из чужеземцев, присоединившихся к Вечному, не говорит: «Боюсь, Вечный отделит меня от Своего народа». Пусть ни один евнух не сетует: «Я – только засохшее дерево».
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Пусть никто из чужеземцев, присоединившихся к Вечному, не говорит: «Боюсь, Вечный отделит меня от Своего народа». Пусть ни один евнух не сетует: «Я – только засохшее дерево».
- La Bible du Semeur 2015 - L’étranger qui s’attache ╵à l’Eternel ╵ne devra pas se dire : « L’Eternel m’exclura ╵sûrement de son peuple », et l’eunuque non plus ╵n’aura pas à penser : « Je suis un arbre sec ! »
- リビングバイブル - わたしの祝福は、主を信じる外国人にも及ぶ。 彼らに、『主は私たちを劣った者とする』 と考えさせてはならない。 宦官(宮廷につかえる去勢男子)の場合も同じだ。 ほかの人同様、彼らも完全にわたしのものとなれる。
- Nova Versão Internacional - Que nenhum estrangeiro que se disponha a unir-se ao Senhor venha a dizer: “É certo que o Senhor me excluirá do seu povo”. E que nenhum eunuco se queixe: “Não passo de uma árvore seca”.
- Hoffnung für alle - Ein Ausländer, der sich dem Herrn zugewandt hat, soll nicht sagen: »Bestimmt wird der Herr mich wieder ausschließen aus der Gemeinschaft seines Volkes.« Und wer entmannt wurde, soll nicht klagen: »Ach, ich bin nicht mehr wert als ein dürrer Baum.«
- Kinh Thánh Hiện Đại - “Người nước ngoài đã theo Chúa đừng nói: ‘Chúa Hằng Hữu sẽ không bao giờ kể tôi là dân của Ngài.’ Và người hoạn chớ nói: ‘Tôi là một cây khô không con và không có tương lai.’
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - อย่าให้ชนต่างชาติที่หันเข้าหาพระผู้เป็นเจ้าพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้าจะแยกเราออกจากชนชาติของพระองค์อย่างแน่นอน” และอย่าให้ขันทีพูดว่า “ดูเถิด เราเป็นต้นไม้แห้ง”
交叉引用
- มัทธิว 8:10 - เมื่อพระเยซูทรงได้ยินเช่นนั้นก็ทรงประหลาดพระทัยและตรัสกับบรรดาผู้ติดตามพระองค์ว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าเราไม่เคยพบใครสักคนในอิสราเอลที่มีความเชื่อยิ่งใหญ่เพียงนี้
- มัทธิว 8:11 - เราบอกท่านว่าคนเป็นอันมากจากตะวันออกและตะวันตกจะมาเข้าประจำที่ของตนในงานเลี้ยงร่วมกับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบในอาณาจักรสวรรค์
- กิจการของอัครทูต 10:1 - ที่เมืองซีซารียามีนายร้อยคนหนึ่งชื่อโครเนลิอัส อยู่ในกองทหารที่เรียกว่ากองอิตาลี
- กิจการของอัครทูต 10:2 - เขากับทั้งครอบครัวของเขาเคร่งศาสนาและยำเกรงพระเจ้า เขาช่วยเหลือเจือจานผู้ขัดสนด้วยใจกว้างขวางและอธิษฐานต่อพระเจ้าอยู่เสมอ
- กันดารวิถี 18:4 - ให้พวกเขาสมทบกับเจ้าและรับผิดชอบดูแลงานทั้งปวงในเต็นท์นัดพบ และอย่าให้ใครอื่นมาใกล้บริเวณที่เจ้าอยู่
- อิสยาห์ 14:1 - องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเอ็นดูสงสารยาโคบ พระองค์จะทรงเลือกสรรอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง และจะนำพวกเขากลับมาตั้งถิ่นฐานในแผ่นดินของพวกเขา ชนต่างชาติจะมาสมทบ และเข้าร่วมกับวงศ์วานของยาโคบ
- เอเฟซัส 2:22 - และในพระองค์ ท่านก็เช่นกันกำลังรับการทรงสร้างขึ้นด้วยกันให้เป็นที่ประทับซึ่งพระเจ้าสถิตอยู่โดยพระวิญญาณของพระองค์
- มัทธิว 15:26 - พระองค์ตรัสตอบว่า “ที่จะเอาอาหารของลูกโยนให้สุนัขก็ไม่ถูกต้อง”
- มัทธิว 15:27 - หญิงนั้นทูลว่า “จริงเจ้าข้า แต่สุนัขยังได้กินเศษอาหารที่หล่นจากโต๊ะของนาย”
- เยเรมีย์ 38:7 - เมื่อเอเบดเมเลคชาวคูช เจ้าหน้าที่ คนหนึ่งของราชวังได้ยินว่าเยเรมีย์ถูกหย่อนลงในบ่อ ในขณะที่กษัตริย์ประทับอยู่ที่ประตูเบนยามิน
- เยเรมีย์ 38:8 - เอเบดเมเลคได้ออกจากวังมากราบทูลพระองค์ว่า
- เยเรมีย์ 38:9 - “ข้าแต่กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า คนเหล่านี้ทำสิ่งเลวร้ายต่อผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ พวกเขาทิ้งเยเรมีย์ไว้ในบ่อ เขาจะต้องอดตายเมื่อไม่มีขนมปังเหลืออยู่ในกรุงนี้อีก”
- เยเรมีย์ 38:10 - กษัตริย์จึงตรัสสั่งเอเบดเมเลคชาวคูชว่า “ให้นำคนสามสิบคนไปช่วยกันดึงเยเรมีย์ขึ้นมาจากบ่อก่อนที่จะตาย”
- เยเรมีย์ 38:11 - ดังนั้นเอเบดเมเลคก็นำคนไปยังห้องหนึ่งใต้คลังของพระราชวัง เอาผ้าขี้ริ้วและเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาจากที่นั่น และผูกเชือกหย่อนลงไปให้เยเรมีย์ในบ่อ
- เยเรมีย์ 38:12 - เอเบดเมเลคบอกเยเรมีย์ว่า “เอาผ้าขี้ริ้วกับเสื้อผ้าเก่านี้รองใต้รักแร้กันเชือกบาด” เยเรมีย์ก็ทำตาม
- เยเรมีย์ 38:13 - แล้วพวกเขาก็ดึงเยเรมีย์ขึ้นมา และพากลับไปที่ลานทหารรักษาพระองค์ เขาก็ถูกคุมตัวไว้ที่นั่น
- เศฟันยาห์ 2:11 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้พวกเขากลัว เมื่อพระองค์ทรงทำลายพระทั้งปวงของดินแดนนั้น ประชาชาติต่างๆ ที่อยู่ชายฝั่งทะเลทุกแห่ง จะนมัสการพระองค์ในดินแดนของตน
- อิสยาห์ 56:5 - เราจะมอบอนุสรณ์และชื่อ ที่อยู่ภายในวิหารและภายในกำแพงวิหารของเราแก่พวกเขา ซึ่งดีกว่าบุตรชายบุตรสาวเสียอีก เราจะให้นามนิรันดร์แก่พวกเขา เป็นนามที่จะไม่ถูกตัดออก
- เยเรมีย์ 50:5 - พวกเขาจะถามทาง และมุ่งหน้ามายังศิโยน พวกเขาจะเข้ามาผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า โดยพันธสัญญานิรันดร์ ซึ่งจะไม่ถูกลืมเลือน
- 1เปโตร 1:1 - จดหมายฉบับนี้จากข้าพเจ้าเปโตรผู้เป็นอัครทูตของพระเยซูคริสต์ ถึงบรรดาผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้ ท่านทั้งหลายคือคนแปลกหน้าที่อาศัยในโลกเพียงชั่วคราว ผู้ได้กระจัดกระจายไปทั่วแคว้นปอนทัส กาลาเทีย คัปปาโดเซีย เอเชียและบิธีเนีย
- กิจการของอัครทูต 18:7 - แล้วเปาโลก็ออกจากธรรมศาลาไปยังบ้านของทิทีอัสยุสทัสซึ่งอยู่ถัดไป เขาเป็นคนหนึ่งที่นมัสการพระเจ้า
- 1โครินธ์ 6:17 - แต่คนที่รวมตนเองเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระผู้เป็นเจ้าก็เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ในจิตวิญญาณ
- ลูกา 7:6 - ดังนั้นพระเยซูจึงเสด็จไปกับพวกเขา เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้จะถึงบ้านนั้น นายร้อยก็ให้เพื่อนๆ มาทูลพระเยซูว่า “พระองค์เจ้าข้า อย่าลำบากพระองค์เลยเพราะข้าพระองค์ไม่คู่ควรที่จะให้พระองค์เสด็จมาใต้ชายคาบ้านของข้าพระองค์
- ลูกา 7:7 - เพราะเหตุนี้ข้าพระองค์จึงคิดว่าตนเองไม่คู่ควรแม้แต่จะมาเข้าเฝ้าพระองค์ เพียงแต่พระองค์ตรัสสั่งเท่านั้นคนรับใช้ของข้าพระองค์ก็จะหายป่วย
- ลูกา 7:8 - เพราะข้าพระองค์เองมีทั้งผู้บังคับบัญชาและมีทหารใต้บังคับบัญชา ข้าพระองค์สั่งคนนี้ว่า ‘ไป’ เขาก็ไป สั่งคนนั้นว่า ‘มา’ เขาก็มา ข้าพระองค์สั่งคนรับใช้ว่า ‘จงทำสิ่งนี้’ เขาก็ทำ”
- โรม 2:10 - แต่ศักดิ์ศรี เกียรติ และสันติสุขจะมีแก่ทุกคนที่ทำดี พวกยิวก่อน แล้วคนต่างชาติด้วย
- โรม 2:11 - เพราะพระเจ้าไม่ได้ทรงเลือกที่รักมักที่ชัง
- ดาเนียล 1:3 - แล้วเนบูคัดเนสซาร์ตรัสบัญชาอัชเปนัสหัวหน้ากรมวังให้คัดเลือกชายหนุ่มอิสราเอลบางคนซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์และอยู่ในตระกูลขุนนาง
- ดาเนียล 1:4 - คนหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาดี ไม่พิกลพิการ เฉลียวฉลาดพร้อมที่จะเรียนรู้ ได้รับการศึกษาอบรมมาอย่างดี มีไหวพริบปฏิภาณ และคุณสมบัติเหมาะสมที่จะปฏิบัติหน้าที่ในพระราชวัง ให้อัชเปนัสสอนภาษาและวรรณคดีของชาวบาบิโลน แก่ชายหนุ่มเหล่านี้
- ดาเนียล 1:5 - กษัตริย์ทรงประทานอาหารและเหล้าองุ่นจากโต๊ะเสวยแก่คนเหล่านี้ทุกวันและให้พวกเขารับการฝึกฝนตลอดสามปี หลังจากนั้นจึงเข้ารับราชการ
- ดาเนียล 1:6 - ในกลุ่มชายหนุ่มเหล่านี้ มีบางคนจากยูดาห์ได้แก่ดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์
- ดาเนียล 1:7 - หัวหน้ากรมวังตั้งชื่อใหม่ให้พวกเขาดังนี้ ดาเนียลชื่อเบลเทชัสซาร์ ฮานันยาห์ชื่อชัดรัค มิชาเอลชื่อเมชาค และอาซาริยาห์ชื่ออาเบดเนโก
- ดาเนียล 1:8 - แต่ดาเนียลตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่ยอมให้ตนเองเป็นมลทินเพราะเครื่องเสวย ทั้งอาหารและเหล้าองุ่น จึงขออนุญาตจากหัวหน้ากรมวังที่จะไม่ทำให้ตนเองเป็นมลทินอย่างนั้น
- ดาเนียล 1:9 - พระเจ้าทรงบันดาลให้หัวหน้ากรมวังชอบพอและเห็นใจดาเนียล
- ดาเนียล 1:10 - แต่เขาบอกดาเนียลว่า “เรากลัวเจ้าเหนือหัวซึ่งทรงเป็นผู้ประทานอาหารและเครื่องดื่มให้พวกเจ้า หากเราปล่อยให้พระองค์เห็นพวกเจ้าซูบซีดกว่าชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน พระองค์คงตัดหัวเราเพราะพวกเจ้า”
- ดาเนียล 1:11 - ดาเนียลจึงบอกผู้ดูแลซึ่งหัวหน้ากรมวังแต่งตั้งให้รับผิดชอบดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ว่า
- ดาเนียล 1:12 - “โปรดลองให้ผู้รับใช้ของท่านกินแต่ผักและดื่มแต่น้ำสักสิบวัน
- ดาเนียล 1:13 - แล้วเปรียบเทียบหน้าตาของพวกเรากับชายหนุ่มซึ่งรับประทานเครื่องเสวย จากนั้นเชิญท่านปฏิบัติต่อผู้รับใช้ตามที่ท่านเห็นควรเถิด”
- ดาเนียล 1:14 - ผู้ดูแลก็ตกลงตามนี้และให้พวกเขาทดลองดูสิบวัน
- ดาเนียล 1:15 - เมื่อครบสิบวันแล้ว ปรากฏว่าพวกเขาดูแข็งแรงและมีพลานามัยดีกว่าชายหนุ่มอื่นๆ ที่รับประทานเครื่องเสวย
- ดาเนียล 1:16 - ฉะนั้นผู้ดูแลจึงงดให้เครื่องเสวยและเหล้าองุ่น แต่ให้เขาทั้งสี่รับประทานผัก
- ดาเนียล 1:17 - พระเจ้าโปรดให้ชายหนุ่มทั้งสี่มีความรู้ความเข้าใจในวรรณกรรมและวิทยาการทุกอย่าง ตัวดาเนียลนั้นสามารถเข้าใจนิมิตและความฝันทุกประเภท
- ดาเนียล 1:18 - เมื่อครบกำหนดที่กษัตริย์ทรงบัญชา หัวหน้ากรมวังนำชายหนุ่มทั้งปวงที่คัดเลือกไว้เข้าเฝ้ากษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์
- ดาเนียล 1:19 - กษัตริย์ทรงสนทนากับพวกเขาและทรงพบว่าไม่มีชายหนุ่มคนใดเทียบเคียงดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ได้ ทั้งสี่คนนี้จึงเข้ารับราชการอยู่ในราชสำนัก
- ดาเนียล 1:20 - กษัตริย์ทรงซักถามพวกเขาทุกเรื่องในด้านสติปัญญาและความเข้าใจ และทรงพบว่าพวกเขาดีเด่นกว่าพวกนักเล่นอาคมและนักเวทมนตร์ทั่วราชอาณาจักรถึงสิบเท่า
- ดาเนียล 1:21 - ดาเนียลรับราชการเรื่อยมาจวบจนปีที่หนึ่งแห่งรัชกาลกษัตริย์ไซรัส
- เอเฟซัส 2:12 - จงระลึกว่าครั้งนั้นท่านแยกจากพระคริสต์ ไม่ได้เป็นพลเมืองอิสราเอลและเป็นคนต่างด้าวอยู่นอกพันธสัญญาที่ทรงสัญญาไว้ ไม่มีความหวังและอยู่ในโลกโดยปราศจากพระเจ้า
- อิสยาห์ 39:7 - และวงศ์วานของเจ้าบางคน เลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้าเองจะถูกกวาดต้อนไป ต้องกลายเป็นขันทีอยู่ในวังของกษัตริย์บาบิโลน”
- กันดารวิถี 18:7 - แต่เจ้ากับลูกๆ เท่านั้นจะทำหน้าที่ปุโรหิต รวมทั้งงานเกี่ยวกับแท่นบูชาและทุกสิ่งที่อยู่หลังม่าน เรายกงานด้านปุโรหิตให้เจ้าเป็นของประทาน คนอื่นที่มาใกล้สถานนมัสการจะต้องมีโทษถึงตาย”
- เยเรมีย์ 39:16 - “จงไปบอกเอเบดเมเลคชาวคูชว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เรากำลังจะทำตามที่ลั่นวาจาไว้กับกรุงนี้ ซึ่งเป็นความหายนะ ไม่ใช่ความเจริญรุ่งเรือง เมื่อถึงเวลานั้นทุกอย่างจะเป็นไปอย่างครบถ้วนต่อหน้าต่อตาเจ้า
- เยเรมีย์ 39:17 - แต่เราจะช่วยเจ้าในวันนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า เจ้าจะไม่ตกอยู่ในเงื้อมมือของบรรดาผู้ที่เจ้ากลัว
- กิจการของอัครทูต 17:4 - ชาวยิวบางคนเห็นด้วยและเข้าร่วมกับเปาโลและสิลาสเช่นเดียวกับชาวกรีกผู้ยำเกรงพระเจ้าจำนวนมากและสตรีคนสำคัญๆ อีกไม่น้อย
- โรม 15:16 - ให้เป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์มายังคนต่างชาติ ทำหน้าที่ปุโรหิตประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้า เพื่อว่าคนต่างชาติจะได้กลายเป็นเครื่องบูชาที่พระเจ้าทรงยอมรับ ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงชำระให้บริสุทธิ์แล้ว
- กิจการของอัครทูต 8:26 - ทูตองค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งฟีลิปว่า “จงลงใต้ ไปยังถนนที่เรียกว่าทางกันดารซึ่งเชื่อมระหว่างกรุงเยรูซาเล็มกับเมืองกาซา”
- กิจการของอัครทูต 8:27 - ดังนั้นฟีลิปก็ออกเดินทางไป ในระหว่างทางเขาพบขันทีชาวเอธิโอเปีย เป็นขุนนางคนสำคัญดูแลคลังทรัพย์ของพระนางคานดาสีราชินีแห่งเอธิโอเปีย ขันทีผู้นี้ได้มานมัสการที่เยรูซาเล็ม
- กิจการของอัครทูต 8:28 - ระหว่างเดินทางกลับบ้านเขานั่งอ่านหนังสือผู้เผยพระวจนะอิสยาห์อยู่ในรถม้า
- กิจการของอัครทูต 8:29 - พระวิญญาณตรัสบอกฟีลิปว่า “จงเข้าไปใกล้ๆ รถม้านั้นเถิด”
- กิจการของอัครทูต 8:30 - แล้วฟีลิปจึงวิ่งเข้าไปใกล้รถนั้น เขาได้ยินเสียงคนอ่านหนังสือผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ก็ถามว่า “ท่านเข้าใจสิ่งที่ท่านอ่านหรือ?”
- กิจการของอัครทูต 8:31 - ขันทีนั้นตอบว่า “ถ้าไม่มีใครอธิบาย ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร?” ดังนั้นเขาจึงเชิญฟีลิปขึ้นมานั่งด้วยกัน
- กิจการของอัครทูต 8:32 - พระคัมภีร์ที่ขันทีกำลังอ่านอยู่นั้นคือ “เขาถูกนำตัวไปเหมือนแกะที่ถูกนำไปฆ่า และเหมือนลูกแกะที่เงียบอยู่ต่อหน้าผู้ตัดขน เขาก็ไม่ได้ปริปากเช่นกัน
- กิจการของอัครทูต 8:33 - เมื่อเขาถูกย่ำยีนั้นเขาไม่ได้รับความยุติธรรมเลย ใครเล่าจะพูดถึงเชื้อสายของเขาได้? เพราะชีวิตของเขาถูกพรากไปจากโลก”
- กิจการของอัครทูต 8:34 - ขันทีถามฟีลิปว่า “โปรดบอกเราเถิด ผู้เผยพระวจนะกำลังพูดถึงใคร ตัวผู้เผยพระวจนะเองหรือใครอื่น?”
- กิจการของอัครทูต 8:35 - แล้วฟีลิปจึงเริ่มจากข้อพระคัมภีร์ตอนนั้นและเล่าถึงข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูให้เขาฟัง
- กิจการของอัครทูต 8:36 - ขณะเดินทางไปตามถนน พวกเขามาพบแอ่งน้ำ ขันทีจึงเอ่ยว่า “ดูเถิด ที่นี่มีน้ำ มีอะไรขัดข้องไม่ให้ข้าพเจ้ารับบัพติศมาเล่า?”
- กิจการของอัครทูต 8:38 - และเขาสั่งให้หยุดรถ จากนั้นฟีลิปกับขันทีก็ลงไปในน้ำและฟีลิปให้ขันทีรับบัพติศมา
- กิจการของอัครทูต 8:39 - เมื่อขึ้นจากน้ำพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรับฟีลิปไปทันที ขันทีไม่เห็นเขาอีกเลยแต่เดินทางต่อไปด้วยความชื่นชมยินดี
- กิจการของอัครทูต 8:40 - อย่างไรก็ดีฟีลิปได้มาปรากฏตัวที่เมืองอาโซทัสและเดินทางไปทั่วเพื่อประกาศข่าวประเสริฐในทุกเมืองจนมาถึงเมืองซีซารียา
- กิจการของอัครทูต 13:47 - เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญชาเราไว้ว่า “ ‘เราได้ทำให้เจ้าเป็นแสงสว่างสำหรับชนต่างชาติ เพื่อเจ้าจะนำความรอดไปจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก’ ”
- กิจการของอัครทูต 13:48 - ฝ่ายคนต่างชาติเมื่อได้ยินเช่นนี้ก็ดีใจและยกย่องพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า และบรรดาผู้ที่ถูกกำหนดไว้ให้มีชีวิตนิรันดร์ก็เชื่อ
- มัทธิว 19:12 - เพราะบางคนก็เกิดมาเป็นขันที บางคนก็ถูกมนุษย์ทำให้เป็นเช่นนั้น และที่ครองตัวเป็นโสด เพื่ออาณาจักรสวรรค์ก็มี ใครยอมรับเช่นนี้ได้ก็จงรับเถิด” ( มก.10:13-16 ; ลก.18:15-17 )
- มัทธิว 19:13 - แล้วมีผู้พาเด็กเล็กๆ มาหาพระเยซูเพื่อให้วางพระหัตถ์และอธิษฐานเผื่อ แต่เหล่าสาวกตำหนิผู้ที่พาเด็กๆ มา
- มัทธิว 19:14 - พระเยซูตรัสว่า “จงให้เด็กเล็กๆ มาหาเรา อย่าขัดขวางเขาเลย เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของคนที่เป็นเหมือนเด็กเหล่านี้”
- มัทธิว 19:15 - เมื่อพระองค์ทรงวางพระหัตถ์บนพวกเขาแล้วก็เสด็จไปจากที่นั่น ( มก.10:17-30 ; ลก.18:18-30 )
- มัทธิว 19:16 - ชายคนหนึ่งมาทูลถามพระเยซูว่า “ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำดีอะไรบ้างจึงจะได้ชีวิตนิรันดร์?”
- มัทธิว 19:17 - พระเยซูทรงตอบว่า “เหตุใดท่านจึงมาถามเราว่าอะไรดี? มีอยู่เพียงผู้เดียวที่ดี หากท่านปรารถนาจะเข้าสู่ชีวิต จงเชื่อฟังบทบัญญัติ”
- มัทธิว 19:18 - เขาทูลว่า “ข้อไหนบ้าง?” พระเยซูตรัสว่า “ ‘อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณีอย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ
- มัทธิว 19:19 - จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า’ และ ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’ ”
- มัทธิว 19:20 - ชายหนุ่มคนนั้นทูลว่า “ทุกข้อเหล่านี้ข้าพเจ้าถือรักษามาตลอด ยังขาดอะไรอีกบ้าง?”
- มัทธิว 19:21 - พระเยซูตรัสตอบว่า “หากท่านปรารถนาจะเป็นคนดีพร้อม จงไปขายทุกสิ่งที่มีและแจกจ่ายให้คนยากจนแล้วท่านจะมีทรัพย์สมบัติในสวรรค์ จากนั้นจงตามเรามา”
- มัทธิว 19:22 - เมื่อชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้นก็จากไปด้วยความเศร้าเพราะเขาร่ำรวยมาก
- มัทธิว 19:23 - แล้วพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าเป็นการยากที่คนรวยจะเข้าอาณาจักรสวรรค์
- มัทธิว 19:24 - เราบอกอีกว่าให้อูฐลอดรูเข็มก็ยังง่ายกว่าที่คนรวยจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้า”
- มัทธิว 19:25 - เมื่อเหล่าสาวกได้ยินเช่นนั้นก็ประหลาดใจนักจึงทูลถามว่า “ถ้าเช่นนั้นใครจะรอดได้?”
- มัทธิว 19:26 - พระเยซูทรงมองดูพวกเขาและตรัสว่า “สำหรับมนุษย์ก็เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าทุกสิ่งเป็นไปได้”
- มัทธิว 19:27 - เปโตรทูลตอบพระองค์ว่า “ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ละทิ้งทุกสิ่งมาติดตามพระองค์! แล้วข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้อะไรบ้าง?”
- มัทธิว 19:28 - พระเยซูตรัสแก่พวกเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าขณะที่ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นใหม่เมื่อบุตรมนุษย์ประทับบนบัลลังก์อันรุ่งเรืองของพระองค์ พวกท่านที่ตามเรามาก็จะนั่งบนบัลลังก์ทั้งสิบสองพิพากษาชนอิสราเอลสิบสองเผ่าด้วย
- มัทธิว 19:29 - และทุกคนที่ละทิ้งบ้าน พี่น้องชายหญิง หรือบิดามารดา หรือลูก หรือไร่นาเพราะเห็นแก่เราจะได้รับการตอบแทนร้อยเท่าและจะได้ชีวิตนิรันดร์
- มัทธิว 19:30 - แต่หลายคนที่เป็นคนต้นจะเป็นคนสุดท้ายและหลายคนที่เป็นคนสุดท้ายจะเป็นคนต้น
- เฉลยธรรมบัญญัติ 23:1 - ชายใดถูกตอนโดยการทุบหรือตัด ห้ามเข้าร่วมชุมนุมประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้า
- เฉลยธรรมบัญญัติ 23:2 - ห้ามลูกที่เกิดจากการสมรสต้องห้าม หรือวงศ์วานของเขาเข้าร่วมชุมนุมประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าจนถึงสิบชั่วอายุ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 23:3 - ห้ามชาวอัมโมนหรือชาวโมอับหรือวงศ์วานของเขาเข้าร่วมชุมนุมประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าจนถึงสิบชั่วอายุ
- กิจการของอัครทูต 10:34 - แล้วเปโตรจึงกล่าวว่า “บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่าพระเจ้ามิได้ทรงเลือกที่รักมักที่ชัง
- โรม 15:9 - เพื่อว่าคนต่างชาติจะถวายพระเกียรติสิริแด่พระเจ้า เนื่องด้วยพระเมตตาของพระองค์ ตามที่มีเขียนไว้ว่า “ด้วยเหตุนี้ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางคนต่างชาติ จะร้องบทเพลงสรรเสริญแด่พระนามของพระองค์”
- โรม 15:10 - และกล่าวอีกว่า “คนต่างชาติทั้งหลายเอ๋ย จงชื่นชมยินดีร่วมกับประชากรของพระองค์เถิด”
- โรม 15:11 - และอีกตอนหนึ่งที่ว่า “คนต่างชาติทั้งสิ้นเอ๋ย จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด ชนชาติทั้งสิ้นเอ๋ย จงร้องเพลงสรรเสริญพระองค์”
- โรม 15:12 - และอิสยาห์กล่าวด้วยว่า “รากแห่งเจสซีจะผุดขึ้น ผู้ซึ่งจะขึ้นมาเพื่อครอบครองนานาประชาชาติ คนต่างชาติทั้งหลายจะหวังในพระองค์”
- เศคาริยาห์ 8:20 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ชนชาติต่างๆ และคนที่อาศัยอยู่ในนครต่างๆ หลายแห่งยังจะมา
- เศคาริยาห์ 8:21 - ชาวเมืองหนึ่งจะไปชวนอีกเมืองหนึ่งว่า ‘ให้เราไปทูลอ้อนวอนองค์พระผู้เป็นเจ้าเดี๋ยวนี้ ไปแสวงหาพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์กันเถิด เราเองก็จะไปด้วย’
- เศคาริยาห์ 8:22 - ชนชาติทั้งหลายและชาติมหาอำนาจต่างๆ จะมายังเยรูซาเล็มเพื่อแสวงหาพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์และอ้อนวอนพระองค์”
- เศคาริยาห์ 8:23 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “เมื่อถึงเวลานั้นชายสิบคนจากทุกชาติทุกภาษาจะยึดชายเสื้อคลุมของชาวยิวคนหนึ่งไว้และกล่าวว่า ‘ขอเราไปกับท่านเถิด เพราะเราได้ยินมาว่าพระเจ้าสถิตกับท่าน’ ”