逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เจ้าได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ไม่ใส่ใจ หูเจ้าเปิดกว้าง แต่ไม่ได้ยินอะไร”
- 新标点和合本 - 你看见许多事却不领会, 耳朵开通却不听见。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 看见许多事却不领会, 耳朵开通却听不见。
- 和合本2010(神版-简体) - 看见许多事却不领会, 耳朵开通却听不见。
- 当代译本 - 你们看见许多事却不领会, 耳朵开着却听不见。”
- 圣经新译本 - 你们看见了许多的事,却没有留心, 耳朵开着,却没有听见。
- 中文标准译本 - 你们看见许多事,却没有留意; 耳朵开着,却没有听见。”
- 现代标点和合本 - 你看见许多事却不领会, 耳朵开通却不听见。”
- 和合本(拼音版) - 你看见许多事却不领会, 耳朵开通却不听见。”
- New International Version - You have seen many things, but you pay no attention; your ears are open, but you do not listen.”
- New International Reader's Version - Israel, you have seen many things. But you do not pay any attention to me. Your ears are open. But you do not listen to anything I say.”
- English Standard Version - He sees many things, but does not observe them; his ears are open, but he does not hear.
- New Living Translation - You see and recognize what is right but refuse to act on it. You hear with your ears, but you don’t really listen.”
- Christian Standard Bible - Though seeing many things, you pay no attention. Though his ears are open, he does not listen.”
- New American Standard Bible - You have seen many things, but you do not retain them; Your ears are open, but no one hears.
- New King James Version - Seeing many things, but you do not observe; Opening the ears, but he does not hear.”
- Amplified Bible - You have seen many things, but you do not observe them; Your ears are open, but no one hears.
- American Standard Version - Thou seest many things, but thou observest not; his ears are open, but he heareth not.
- King James Version - Seeing many things, but thou observest not; opening the ears, but he heareth not.
- New English Translation - You see many things, but don’t comprehend; their ears are open, but do not hear.”
- World English Bible - You see many things, but don’t observe. His ears are open, but he doesn’t listen.
- 新標點和合本 - 你看見許多事卻不領會, 耳朵開通卻不聽見。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 看見許多事卻不領會, 耳朵開通卻聽不見。
- 和合本2010(神版-繁體) - 看見許多事卻不領會, 耳朵開通卻聽不見。
- 當代譯本 - 你們看見許多事卻不領會, 耳朵開著卻聽不見。」
- 聖經新譯本 - 你們看見了許多的事,卻沒有留心, 耳朵開著,卻沒有聽見。
- 呂振中譯本 - 你們 看見許多事卻不領會; 耳朵開着,卻不聽見。
- 中文標準譯本 - 你們看見許多事,卻沒有留意; 耳朵開著,卻沒有聽見。」
- 現代標點和合本 - 你看見許多事卻不領會, 耳朵開通卻不聽見。」
- 文理和合譯本 - 爾多見而不悟、啟耳而不聞、
- 文理委辦譯本 - 雖熟視若無睹、雖諦聽而不聞、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 事雖多見而不領會、耳雖開通而不欲聽、
- Nueva Versión Internacional - Tú has visto muchas cosas, pero no las has captado; tienes abiertos los oídos, pero no oyes nada».
- 현대인의 성경 - 이스라엘아, 너는 많은 것을 보면서도 그것에 관심을 가지지 않으며 들을 귀가 있으면서도 아무것도 듣지 않는구나.”
- Новый Русский Перевод - Ты видел многое, но не вникал; твои уши были открыты, но ты не слышал.
- Восточный перевод - Ты видел многое, но не вникал; твои уши были открыты, но ты не слышал.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Ты видел многое, но не вникал; твои уши были открыты, но ты не слышал.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Ты видел многое, но не вникал; твои уши были открыты, но ты не слышал.
- La Bible du Semeur 2015 - Tu as vu bien des choses, tu n’as rien retenu. Tu as l’oreille ouverte, tu n’as rien entendu.
- リビングバイブル - あなたがたは真理を見て、頭ではわかっていても、 それを心に留めようとも行おうともしない。」
- Nova Versão Internacional - Você viu muitas coisas, mas não deu nenhuma atenção; seus ouvidos estão abertos, mas você não ouve nada.”
- Hoffnung für alle - Was habt ihr nicht alles an Gutem gesehen, aber es lässt euch kalt! Was habt ihr nicht alles gehört, aber es war vergeblich!«
- Kinh Thánh Hiện Đại - Ngươi thấy và nhận ra điều đúng nhưng không chịu làm theo. Ngươi nghe bằng đôi tai của mình nhưng ngươi không thật sự lắng nghe.”
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เจ้าเห็นหลายสิ่ง แต่ไม่ใส่ใจ หูของเจ้าเปิด แต่เจ้าไม่ได้ยิน”
交叉引用
- ยอห์น 9:37 - พระเยซูตรัสว่า “บัดนี้ท่านก็ได้เห็นพระองค์แล้ว อันที่จริงพระองค์คือผู้ที่กำลังพูดกับท่าน”
- ยอห์น 9:38 - คนนั้นจึงทูลว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์เชื่อ” และเขาก็กราบนมัสการพระองค์
- ยอห์น 9:39 - พระเยซูตรัสว่า “เราเข้ามาในโลกนี้เพื่อการพิพากษา เพื่อให้คนตาบอดมองเห็นได้และให้คนที่มองเห็นได้กลับตาบอด”
- ยอห์น 9:40 - ฟาริสีบางคนที่อยู่กับพระองค์ได้ยินเช่นนั้นก็ทูลถามว่า “อะไรกัน? เราตาบอดด้วยหรือ?”
- โรม 2:21 - แล้วท่านผู้สอนคนอื่น ท่านไม่สอนตัวเองบ้างหรือ? ท่านผู้เทศนาว่าไม่ควรลักขโมย ท่านลักขโมยหรือไม่?
- สดุดี 107:43 - ผู้ใดฉลาดจงฟังสิ่งเหล่านี้ และใคร่ครวญถึงความรักยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
- เอเสเคียล 33:31 - ประชากรของเรามาหาเจ้าอย่างที่พวกเขามักจะทำ มานั่งอยู่ตรงหน้าเพื่อฟังคำพูดของเจ้า แต่ไม่เคยนำไปปฏิบัติ เขาแสดงความจงรักภักดีด้วยริมฝีปาก แต่จิตใจโลภหวังผลกำไรอธรรม
- อิสยาห์ 1:3 - วัวยังรู้จักนาย ลารู้จักเจ้าของรางหญ้า แต่อิสราเอลไม่รู้จัก ประชากรของเราไม่เข้าใจ”
- อิสยาห์ 58:2 - พวกเขาแสวงหาเราวันแล้ววันเล่า ทำทีกระตือรือร้นอยากรู้จักทางของเรา ราวกับว่าพวกเขาเป็นชนชาติที่ทำสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ได้ละทิ้งคำบัญชาของพระเจ้า พวกเขาทูลขอการตัดสินอย่างเที่ยงธรรมจากเรา และทำเหมือนว่าอยากให้พระเจ้าเข้ามาใกล้
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:2 - โมเสสได้เรียกชาวอิสราเอลทั้งปวงมาประชุมและกล่าวแก่พวกเขาว่า ท่านได้เห็นทุกสิ่งกับตาแล้วว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำอะไรบ้างในอียิปต์ ทั้งต่อฟาโรห์ ต่อข้าราชการทั้งปวง และต่อดินแดนทั้งสิ้นของเขา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:3 - ท่านได้เห็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ หมายสำคัญและปาฏิหาริย์อันยิ่งใหญ่เหล่านั้นด้วยตาของท่านเอง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 29:4 - แต่จนทุกวันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ยังไม่ได้ประทานจิตใจที่จะเข้าใจ หรือตาที่มองเห็น หรือหูที่ได้ยินแก่ท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 4:9 - แต่จงรักษาตัวรักษาใจของท่านให้ดีเพื่อท่านจะไม่หลงลืมสิ่งที่ท่านเห็นกับตา ไม่ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เลือนรางจากใจตราบชั่วชีวิต จงสอนลูกหลานสืบต่อกันไป
- กิจการของอัครทูต 28:22 - แต่เราอยากฟังความคิดเห็นของท่านเพราะเรารู้อยู่ว่าผู้คนทุกแห่งหนพูดติเตียนนิกายนี้”
- กิจการของอัครทูต 28:23 - พวกเขานัดหมายวันที่จะพบกับเปาโลและคนเป็นอันมากพากันมายังที่พักของเขา ตั้งแต่เช้าจดเย็นเปาโลอธิบายและประกาศเรื่องอาณาจักรของพระเจ้าแก่พวกเขาและพยายามยกเหตุผลจากหนังสือบทบัญญัติของโมเสสและหนังสือผู้เผยพระวจนะมาทำให้พวกเขาเชื่อพระเยซู
- กิจการของอัครทูต 28:24 - สิ่งที่เขากล่าวทำให้บางคนเชื่อแต่บางคนก็ไม่เชื่อ
- กิจการของอัครทูต 28:25 - พวกเขาไม่เห็นพ้องกันและเริ่มจากไปหลังจากที่เปาโลกล่าวทิ้งท้ายว่า “เป็นจริงตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสกับบรรพบุรุษของพวกท่านผ่านทางผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ว่า
- กิจการของอัครทูต 28:26 - “ ‘จงไปหาชนชาตินี้และบอกพวกเขาว่า “เจ้าจะฟังแล้วฟังเล่าแต่จะไม่มีวันเข้าใจ เจ้าจะดูแล้วดูเล่าแต่จะไม่มีวันประจักษ์”
- กิจการของอัครทูต 28:27 - เพราะจิตใจของชนชาตินี้ดื้อด้านไป พวกเขาแทบจะไม่เอียงหูฟัง และพวกเขาได้ปิดตาตนเองเสีย มิฉะนั้นแล้วพวกเขาจะได้เห็นกับตา ได้ยินกับหู เข้าใจด้วยจิตใจ และหันกลับมา แล้วเราจะรักษาพวกเขา ให้หาย’
- ยอห์น 11:37 - แต่บางคนพูดว่า “พระองค์ผู้ทำให้คนตาบอดเห็นได้ จะทำให้คนนี้ไม่ตายไม่ได้หรือ?”
- ยอห์น 11:38 - อีกครั้งหนึ่งที่พระเยซูทรงสะเทือนพระทัยยิ่งนัก พระองค์เสด็จมาที่อุโมงค์ฝังศพซึ่งเป็นถ้ำที่มีหินก้อนหนึ่งปิดทางเข้า
- ยอห์น 11:39 - พระองค์ตรัสว่า “เอาหินออก” มารธาพี่สาวของผู้ตายทูลว่า “แต่พระองค์เจ้าข้า ป่านนี้คงมีกลิ่นเหม็นแล้วเพราะเขาอยู่ในอุโมงค์มาสี่วันแล้ว”
- ยอห์น 11:40 - จากนั้นพระเยซูจึงตรัสว่า “เราบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าถ้าเจ้าเชื่อ เจ้าจะเห็นพระเกียรติสิริของพระเจ้า?”
- ยอห์น 11:41 - ดังนั้นพวกเขาจึงเอาหินออก แล้วพระเยซูทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นและตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงสดับฟังข้าพระองค์
- ยอห์น 11:42 - ข้าพระองค์รู้ว่าพระองค์ทรงฟังข้าพระองค์เสมอ แต่ที่ทูลเช่นนี้ก็เพื่อประโยชน์ของผู้คนซึ่งยืนอยู่ที่นี่ เพื่อพวกเขาจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงส่งข้าพระองค์มา”
- ยอห์น 11:43 - เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระเยซูทรงเรียกด้วยเสียงอันดังว่า “ลาซารัส ออกมาเถิด!”
- ยอห์น 11:44 - ผู้ตายก็ออกมามีแถบผ้าลินินพันมือและเท้าของเขาและมีผ้าผืนหนึ่งคลุมศีรษะเว้นแต่ใบหน้าของเขาไว้ พระเยซูตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “เอาผ้าพันศพออกและปล่อยเขาเถิด”
- ยอห์น 11:45 - ดังนั้นชาวยิวหลายคนที่มาเยี่ยมมารีย์และได้เห็นสิ่งที่พระเยซูทรงกระทำก็เชื่อพระองค์
- ยอห์น 11:46 - แต่พวกเขาบางคนไปพบพวกฟาริสีและเล่าสิ่งที่พระเยซูได้ทรงกระทำให้พวกนั้นฟัง
- ยอห์น 11:47 - แล้วบรรดาหัวหน้าปุโรหิตกับพวกฟาริสีจึงเรียกประชุมสภาแซนเฮดริน พวกเขาถามกันว่า “เราทำอะไรได้บ้าง? ชายคนนี้กำลังทำหมายสำคัญหลายอย่าง
- ยอห์น 11:48 - ถ้าเราขืนปล่อยให้เขาทำแบบนี้ต่อไปทุกคนก็จะพากันเชื่อเขา แล้วพวกโรมันก็จะมาเอาทั้งพระวิหารและชาติของเราไป”
- ยอห์น 11:49 - จากนั้นคนหนึ่งในพวกเขาชื่อคายาฟาสผู้เป็นมหาปุโรหิตประจำการในปีนั้นจึงพูดขึ้นว่า “พวกท่านไม่รู้อะไรเลย!
- ยอห์น 11:50 - พวกท่านไม่ได้ตระหนักว่า สำหรับพวกท่านแล้ว การให้คนหนึ่งตายเพื่อประชาชนยังดียิ่งกว่าให้ทั้งชาติต้องพินาศ”
- สดุดี 106:7 - เมื่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายอยู่ในอียิปต์ พวกเขาไม่ได้ระลึกถึงการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ พวกเขาไม่ได้จดจำพระกรุณานานัปการของพระองค์ และพวกเขากบฏต่อพระองค์ที่ทะเลแดง
- สดุดี 106:8 - ถึงกระนั้นพระองค์ก็ทรงช่วยกู้พวกเขา เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์ เพื่อให้ฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์เป็นที่ประจักษ์
- สดุดี 106:9 - พระองค์ทรงกำราบทะเลแดง มันก็เหือดแห้ง ทรงนำพวกเขาเหล่านั้นผ่านที่ลึกราวกับผ่านทะเลทราย
- สดุดี 106:10 - พระองค์ทรงช่วยพวกเขาจากเงื้อมมือของปฏิปักษ์ ทรงกอบกู้พวกเขาจากอุ้งมือของเหล่าศัตรู
- สดุดี 106:11 - น้ำไหลท่วมมิดเหล่าศัตรู ไม่เหลือรอดสักคนเดียว
- สดุดี 106:12 - แล้วพวกเขาจึงเชื่อในพระสัญญาของพระองค์ และร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
- สดุดี 106:13 - แต่ไม่ช้าพวกเขาก็ลืมสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ และไม่รอคอยคำแนะนำจากพระองค์
- กันดารวิถี 14:22 - ทุกคนที่ได้เห็นเกียรติสิริของเราและเห็นหมายสำคัญที่เราได้ทำทั้งในอียิปต์และในถิ่นกันดารแล้วยังไม่ยอมเชื่อฟังเรา แต่ลองดีกับเรานับสิบครั้ง
- อิสยาห์ 48:6 - เจ้าได้ยินถึงสิ่งเหล่านี้มาแล้ว จงพิเคราะห์ดูให้ถี่ถ้วน เจ้าจะไม่ยอมรับหรือ? “นับแต่นี้ไปเราจะแจ้งสิ่งใหม่ๆ แจ้งสิ่งเร้นลับที่เจ้าไม่รู้นั้นแก่เจ้า
- อิสยาห์ 48:7 - เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นใหม่ ไม่ใช่นานมาแล้ว ก่อนหน้านี้เจ้าไม่เคยได้ยินมาก่อน เจ้าจึงไม่อาจพูดได้ว่า ‘เรารู้แล้ว’
- อิสยาห์ 48:8 - เจ้าไม่เคยได้ยินหรือเข้าใจมาก่อน แต่เดิมมาหูของเจ้าไม่ได้เปิดออก เรารู้ดีว่าเจ้าคิดคดทรยศเพียงไร เจ้าได้ชื่อว่ากบฏมาตั้งแต่เกิด
- เนหะมีย์ 9:10 - พระองค์ทรงแสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ต่างๆ เพื่อต่อสู้กับฟาโรห์ เหล่าข้าราชบริพาร และชาวอียิปต์ทั้งปวง เพราะทรงทราบว่าชาวอียิปต์ปฏิบัติต่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายอย่างเย่อหยิ่ง พระองค์ทรงทำให้พระนามของพระองค์เลื่องลือมาจนถึงทุกวันนี้
- เนหะมีย์ 9:11 - พระองค์ทรงแยกทะเลออกเพื่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้เดินข้ามบนดินแห้ง แต่พระองค์ทรงกวาดศัตรูที่รุกไล่มาลงในห้วงน้ำลึก เหมือนก้อนหินตกสู่กระแสน้ำเชี่ยว
- เนหะมีย์ 9:12 - พระองค์ทรงนำพวกเขาด้วยเสาเมฆในเวลากลางวันและเสาเพลิงในเวลากลางคืนเพื่อให้ความสว่างตามทางที่จะไป
- เนหะมีย์ 9:13 - “พระองค์เสด็จลงมาเหนือภูเขาซีนายและตรัสกับเขาเหล่านั้นจากฟ้าสวรรค์ และประทานกฎระเบียบกับบทบัญญัติที่เที่ยงตรงและถูกต้องและประทานกฎหมายกับพระบัญชาอันดีงาม
- เนหะมีย์ 9:14 - พระองค์ทรงสอนพวกเขาให้รู้จักสะบาโตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และประทานพระบัญชา กฎหมาย และบทบัญญัติผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:15 - ยามพวกเขาหิว พระองค์ประทานอาหารจากฟ้าสวรรค์ ยามพวกเขากระหายก็ประทานน้ำจากศิลา พระองค์ทรงบัญชาให้พวกเขาเข้าไปยึดครองดินแดนซึ่งพระองค์ได้ทรงยกพระหัตถ์ปฏิญาณมอบให้แก่พวกเขาแล้ว
- เนหะมีย์ 9:16 - “แต่บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายเย่อหยิ่งและดื้อดึง ไม่ยอมเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:17 - ไม่ยอมรับฟัง และไม่ได้จดจำการอัศจรรย์ต่างๆ ที่ทรงทำในหมู่พวกเขา แต่กลับใจแข็งและคิดคดทรยศ และตั้งผู้นำคนหนึ่งเพื่อพากันกลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ให้อภัย ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความเอ็นดูสงสาร ทรงพระพิโรธช้าและเปี่ยมด้วยความรัก ฉะนั้นพระองค์จึงไม่ได้ทรงทอดทิ้งพวกเขา
- เยเรมีย์ 6:10 - จะให้ข้าพเจ้าพูดและเตือนใครได้? ใครจะฟังข้าพเจ้า? หูของพวกเขาถูกอุด พวกเขาจึงไม่ได้ยิน พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าระคายหูของพวกเขา พวกเขาจึงไม่อยากฟัง
- เยเรมีย์ 42:2 - และกล่าวกับเขาว่า “โปรดฟังคำอ้อนวอนของเราและอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเพื่อชนที่เหลืออยู่ทั้งหมดนี้ เพราะท่านก็เห็นแล้วว่า แม้แต่ก่อนเรามีกันมากมาย บัดนี้ก็เหลือเพียงหยิบมือเดียว
- เยเรมีย์ 42:3 - โปรดอธิษฐานขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านบอกเราด้วยว่าควรไปที่ไหนและควรทำอะไร”
- เยเรมีย์ 42:4 - ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ยินแล้ว ข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตามที่ท่านขอร้องอย่างแน่นอน ข้าพเจ้าจะบอกท่านทุกอย่างตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส จะไม่ปิดบังสิ่งใดจากพวกท่านเลย”
- เยเรมีย์ 42:5 - แล้วพวกเขากล่าวกับเยเรมีย์ว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพยานที่ซื่อตรงเที่ยงแท้ลงโทษเราเถิด หากเราไม่ยอมประพฤติตามทุกสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงใช้ท่านมาบอกเรา
- มาระโก 6:19 - ดังนั้นนางเฮโรเดียสจึงอาฆาตยอห์นและอยากจะฆ่าเขาแต่ก็ทำไม่ได้
- มาระโก 6:20 - เพราะเฮโรดยำเกรงยอห์นและคอยปกป้องเขาเพราะรู้ว่าเขาเป็นผู้ชอบธรรมและบริสุทธิ์ เมื่อเฮโรดได้ฟังยอห์นพูดก็งุนงงสงสัยยิ่งนัก แต่ก็ยังอยากฟัง