Brand Logo
  • 圣经
  • 资源
  • 计划
  • 联系我们
  • APP下载
  • 圣经
  • 搜索
  • 原文研究
  • 逐节对照
我的
跟随系统浅色深色简体中文香港繁體台灣繁體English
奉献
49:27 TNCV
逐节对照
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - “เบนยามินเป็นสุนัขป่าที่หิวโซ ในตอนเช้าเขาขย้ำเหยื่อ ในตอนเย็นเขาแบ่งของที่ยึดมาได้”
  • 新标点和合本 - “便雅悯是个撕掠的狼, 早晨要吃他所抓的, 晚上要分他所夺的。”
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 便雅悯是只抓撕掠物的狼, 早晨要吃他的猎物, 晚上要分他的掳物。”
  • 和合本2010(神版-简体) - 便雅悯是只抓撕掠物的狼, 早晨要吃他的猎物, 晚上要分他的掳物。”
  • 当代译本 - “便雅悯是匹贪婪的狼, 早晨吞吃猎物, 晚上瓜分战利品。”
  • 圣经新译本 - 便雅悯是只撕掠的豺狼, 早晨吞吃他的猎物, 晚上瓜分他的掳物。”
  • 中文标准译本 - 便雅悯是撕掠的狼, 早晨吞噬他的猎物, 晚上瓜分他的掠物。”
  • 现代标点和合本 - 便雅悯是个撕掠的狼, 早晨要吃他所抓的, 晚上要分他所夺的。”
  • 和合本(拼音版) - “便雅悯是个撕掠的狼, 早晨要吃他所抓的, 晚上要分他所夺的。”
  • New International Version - “Benjamin is a ravenous wolf; in the morning he devours the prey, in the evening he divides the plunder.”
  • New International Reader's Version - “Benjamin is a hungry wolf. In the morning he eats what he has killed. In the evening he shares what he has stolen.”
  • English Standard Version - “Benjamin is a ravenous wolf, in the morning devouring the prey and at evening dividing the spoil.”
  • New Living Translation - “Benjamin is a ravenous wolf, devouring his enemies in the morning and dividing his plunder in the evening.”
  • The Message - Benjamin is a ravenous wolf; all morning he gorges on his kill, at evening divides up what’s left over.
  • Christian Standard Bible - Benjamin is a wolf; he tears his prey. In the morning he devours the prey, and in the evening he divides the plunder.”
  • New American Standard Bible - “Benjamin is a ravenous wolf; In the morning he devours the prey, And in the evening he divides the spoils.”
  • New King James Version - “Benjamin is a ravenous wolf; In the morning he shall devour the prey, And at night he shall divide the spoil.”
  • Amplified Bible - “Benjamin is a ravenous wolf; In the morning he devours the prey, And at night he divides the spoil.”
  • American Standard Version - Benjamin is a wolf that raveneth: In the morning he shall devour the prey, And at even he shall divide the spoil.
  • King James Version - Benjamin shall ravin as a wolf: in the morning he shall devour the prey, and at night he shall divide the spoil.
  • New English Translation - Benjamin is a ravenous wolf; in the morning devouring the prey, and in the evening dividing the plunder.”
  • World English Bible - “Benjamin is a ravenous wolf. In the morning he will devour the prey. At evening he will divide the plunder.”
  • 新標點和合本 - 便雅憫是個撕掠的狼, 早晨要吃他所抓的, 晚上要分他所奪的。」
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 便雅憫是隻抓撕掠物的狼, 早晨要吃他的獵物, 晚上要分他的擄物。」
  • 和合本2010(神版-繁體) - 便雅憫是隻抓撕掠物的狼, 早晨要吃他的獵物, 晚上要分他的擄物。」
  • 當代譯本 - 「便雅憫是匹貪婪的狼, 早晨吞吃獵物, 晚上瓜分戰利品。」
  • 聖經新譯本 - 便雅憫是隻撕掠的豺狼, 早晨吞吃他的獵物, 晚上瓜分他的擄物。”
  • 呂振中譯本 - 便雅憫 是肆行抓掠的豺狼, 早晨喫所掠奪的, 晚上分所擄獲的。』
  • 中文標準譯本 - 便雅憫是撕掠的狼, 早晨吞噬他的獵物, 晚上瓜分他的掠物。」
  • 現代標點和合本 - 便雅憫是個撕掠的狼, 早晨要吃他所抓的, 晚上要分他所奪的。」
  • 文理和合譯本 - 便雅憫如攫物之狼、朝吞所獲、夕分所奪、○
  • 文理委辦譯本 - 便雅憫如狼、斷傷牲畜、朝吞所獲、夕分所得。○
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 便雅憫 如狼攫物、朝吞所獲、夕分所奪、○
  • Nueva Versión Internacional - »Benjamín es un lobo rapaz que en la mañana devora la presa y en la tarde reparte los despojos».
  • 현대인의 성경 - “베냐민은 사나운 이리와 같아서 아침에는 원수를 삼키고 저녁에는 그 약탈물을 나누리라.”
  • Новый Русский Перевод - Вениамин – прожорливый волк; утром он пожирает добычу, вечером делит награбленное добро.
  • Восточный перевод - Вениамин – прожорливый волк; утром он пожирает добычу, вечером делит награбленное добро.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Вениамин – прожорливый волк; утром он пожирает добычу, вечером делит награбленное добро.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Вениамин – прожорливый волк; утром он пожирает добычу, вечером делит награбленное добро.
  • La Bible du Semeur 2015 - Benjamin est semblable ╵à un loup qui déchire. Dès le matin, ╵il dévore sa proie, et sur le soir encore, ╵répartit le butin.
  • リビングバイブル - ベニヤミンはほえたける狼だ。明け方には敵を食い荒らし、夕べには戦利品を分け合う。」
  • Nova Versão Internacional - “Benjamim é um lobo predador; pela manhã devora a presa e à tarde divide o despojo”.
  • Hoffnung für alle - Benjamin gleicht einem reißenden Wolf, der morgens seine Feinde verschlingt und abends seine Beute teilt.«
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Bên-gia-min là chó sói săn mồi, buổi sáng con tiêu diệt kẻ thù, đến chiều phân chia chiến lợi phẩm.”
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เบนยามิน​ฉีก​เนื้อ​กิน​อย่าง​สุนัข​ป่า เขา​เขมือบ​เหยื่อ​ใน​ยาม​เช้า และ​แบ่ง​ปัน​สิ่ง​ที่​ชิง​มา​ได้​ใน​ยาม​เย็น”
交叉引用
  • เอเสเคียล 22:25 - บรรดาเจ้านาย ในดินแดนนั้น คบคิดการร้ายเหมือนสิงโตคำรามและฉีกเหยื่อ พวกเขาเขมือบชีวิตผู้คน ยึดทรัพย์สมบัติและของมีค่า และทำให้แม่ม่ายทวีจำนวนขึ้นในเขตแดน
  • 1ซามูเอล 11:4 - เมื่อผู้สื่อสารมาถึงเมืองกิเบอาห์ถิ่นของซาอูล แล้วแจ้งเงื่อนไขนี้แก่ประชากร ทุกคนพากันร้องไห้เสียงดัง
  • 1ซามูเอล 11:5 - ขณะนั้นเองซาอูลต้อนฝูงวัวกลับมาจากทุ่งนา จึงถามว่า “มีเรื่องอะไรหรือ? เหตุใดพวกเขาจึงร้องไห้?” พวกเขาก็แจ้งให้ซาอูลทราบข่าวจากยาเบช
  • 1ซามูเอล 11:6 - เมื่อซาอูลได้ยินเช่นนั้น พระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาสวมทับเขาด้วยฤทธานุภาพ และเขาโกรธมาก
  • 1ซามูเอล 11:7 - เขาจับวัวผู้สองตัวมาฟันเป็นท่อนๆ และให้ผู้สื่อสารแบกไปทั่วอิสราเอล พร้อมทั้งประกาศว่า “ใครไม่ยอมติดตามซาอูลกับซามูเอล วัวของเขาจะมีสภาพอย่างนี้” เหล่าประชากรเกิดความเกรงกลัวองค์พระผู้เป็นเจ้าเขาทั้งปวงจึงพร้อมใจกันมา
  • 1ซามูเอล 11:8 - เมื่อซาอูลตรวจพลที่เบเซกพบว่ามีชาวอิสราเอลสามแสนคนและมีคนยูดาห์อีกสามหมื่นคน
  • 1ซามูเอล 11:9 - พวกเขาบอกผู้สื่อสารทั้งหลายว่า “ให้กลับไปแจ้งชาวยาเบชกิเลอาดว่า ‘เราจะมาช่วยท่านก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้’ ” เมื่อชาวเมืองยาเบชได้ทราบข่าวแล้ว ก็ดีใจกันทั่วหน้า
  • 1ซามูเอล 11:10 - พวกเขาจึงบอกชาวอัมโมนว่า “พรุ่งนี้เราจะยอมแพ้ท่าน ท่านจะทำอะไรกับเราก็ได้ตามที่เห็นดี”
  • 1ซามูเอล 11:11 - วันรุ่งขึ้นซาอูลแบ่งกองทัพออกเป็นสามกอง บุกเข้าจู่โจมค่ายอัมโมนตั้งแต่เช้ามืด และฆ่าฟันพวกเขาตลอดช่วงเช้า ชาวอัมโมนที่เหลือก็กระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:12 - เขากล่าวถึงเผ่าเบนยามินว่า “ขอให้ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักพักพิงในพระองค์อย่างมั่นคงปลอดภัย เพราะพระองค์ทรงปกป้องเขาวันยังค่ำ และให้ผู้ที่พระองค์ทรงรักพักอยู่แนบพระทรวงของพระองค์”
  • เศฟันยาห์ 3:3 - ข้าราชการของกรุงนี้เป็นเหมือนสิงโตที่ร้องคำราม ผู้ครอบครองของกรุงนี้ก็เป็นดั่งสุนัขป่ายามเย็น ซึ่งไม่เหลืออะไรไว้ถึงเช้า
  • โฮเชยา 13:7 - ดังนั้นเราจึงจู่โจมเข้าใส่พวกเขาเหมือนสิงโต เราจะซุ่มอยู่ริมทางเหมือนเสือดาว
  • โฮเชยา 13:8 - เหมือนแม่หมีที่ถูกขโมยลูกไป เราจะเข้าโจมตีและฉีกพวกเขาออก เราจะเป็นดั่งราชสีห์ที่กลืนกินพวกเขา สัตว์ป่าจะฉีกพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ
  • ผู้วินิจฉัย 3:15 - อิสราเอลร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าอีกครั้งหนึ่ง และพระองค์ประทานผู้กอบกู้คือเอฮูดซึ่งเป็นคนถนัดซ้าย เอฮูดเป็นบุตรเกราชาวเบนยามิน ชนอิสราเอลให้เขานำส่วยไปมอบแก่กษัตริย์เอกโลนแห่งโมอับ
  • ผู้วินิจฉัย 3:16 - เอฮูดได้เตรียมดาบสองคมยาว 1 ศอก เล่มหนึ่งเหน็บไว้ที่ต้นขาขวาใต้เสื้อผ้า
  • ผู้วินิจฉัย 3:17 - เขานำส่วยไปมอบให้กษัตริย์เอกโลนแห่งโมอับซึ่งเป็นคนที่อ้วนมาก
  • ผู้วินิจฉัย 3:18 - หลังจากเอฮูดมอบส่วยเสร็จแล้ว เขาก็ให้ผู้คนที่แบกหามส่วยมานั้นกลับไป
  • ผู้วินิจฉัย 3:19 - เมื่อมาถึงที่ตั้งรูปเคารพต่างๆ ใกล้กิลกาล เอฮูดก็กลับมาหาเอกโลนและทูลว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ข้าพระบาทมีความลับจะกราบทูล” เอกโลนกล่าวว่า “จงเงียบ!” คนของเอกโลนก็ออกไปหมด
  • ผู้วินิจฉัย 3:20 - เอฮูดเดินเข้าไปหากษัตริย์เอกโลนซึ่งประทับนั่งอยู่เพียงลำพังในห้องชั้นบนของพระราชวังฤดูร้อน แล้วทูลว่า “ข้าพระบาทมีพระดำรัสจากพระเจ้าสำหรับฝ่าพระบาท” เอกโลนจึงลุกขึ้น
  • ผู้วินิจฉัย 3:21 - เอฮูดยื่นมือซ้ายชักดาบจากต้นขาขวาออกมาและแทงหน้าท้องของกษัตริย์เอกโลน
  • ผู้วินิจฉัย 3:22 - ดาบจมมิดด้ามทะลุหลัง เอฮูดไม่ได้ชักดาบกลับ ไขมันอาบดาบ
  • ผู้วินิจฉัย 3:23 - แล้วเอฮูดออกไปทางเฉลียง เขาปิดประตูห้องชั้นบนและลั่นกุญแจไว้
  • ผู้วินิจฉัย 3:24 - หลังจากเขาไปแล้ว เหล่าบริวารมาเห็นประตูห้องชั้นบนลั่นกุญแจไว้ พวกเขาจึงกล่าวว่า “พระราชาคงจะปลดทุกข์อยู่ที่ห้องชั้นใน”
  • ผู้วินิจฉัย 3:25 - พวกเขาคอยอยู่นานจนรู้สึกวุ่นวายใจ แต่กษัตริย์เอกโลนก็ไม่ได้เปิดประตูออกมา พวกเขาจึงหากุญแจมาเปิด ก็พบเจ้านายของตนนอนสิ้นชีวิตอยู่ที่พื้น
  • ผู้วินิจฉัย 3:26 - ขณะที่พวกเขารออยู่นั้น เอฮูดได้หลบหนีผ่านที่ตั้งรูปเคารพมาถึงเสอีราห์
  • ผู้วินิจฉัย 3:27 - เมื่อมาถึงที่นั่น เอฮูดก็เป่าแตรเขาสัตว์ในแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม ชนอิสราเอลก็ลงมาจากภูเขาต่างๆ โดยมีเอฮูดนำหน้า
  • ผู้วินิจฉัย 3:28 - เขาบัญชาว่า “จงตามข้าพเจ้ามา เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบชาวโมอับศัตรูของท่านไว้ในมือของท่านแล้ว” พวกเขาจึงตามเอฮูดลงไปยึดท่าข้ามแม่น้ำจอร์แดนซึ่งนำไปสู่โมอับ สกัดไม่ให้ผู้ใดข้ามไปมา
  • ผู้วินิจฉัย 3:29 - ครั้งนั้นพวกเขาสังหารชาวโมอับนับหมื่นคนซึ่งล้วนแต่แข็งแรงและมีกำลัง ไม่ปล่อยให้เล็ดลอดไปแม้สักคนเดียว
  • กันดารวิถี 23:24 - ประชากรเหล่านี้ผงาดขึ้นมาเยี่ยงนางสิงห์ พวกเขาตื่นขึ้นเยี่ยงราชสีห์ พวกเขาจะไม่หยุดพักจนกว่าจะได้เขมือบเหยื่อ และได้ดื่มเลือดของเหยื่อเสียก่อน”
  • เยเรมีย์ 5:6 - ฉะนั้นสิงโตจากป่าจะมาเล่นงานพวกเขา สุนัขป่าจากทะเลทรายจะเข้าขย้ำ เสือดาวจะซุ่มอยู่ใกล้เมืองต่างๆ ของพวกเขา คอยฉีกเนื้อคนที่ออกมานั้นเป็นชิ้นๆ เพราะการทรยศของพวกเขาร้ายแรงนัก และชอบหวนกลับไปทำบาป
  • ปฐมกาล 46:21 - บุตรชายของเบนยามิน ได้แก่ เบลา เบเคอร์ อัชเบล เกรา นาอามาน เอไฮ โรช มัปปิม หุปปิม และอาร์ด
  • มัทธิว 7:15 - “จงระวังผู้เผยพระวจนะเท็จ เขามาหาพวกท่านในคราบแกะ แต่ภายในคือสุนัขป่าดุร้าย
  • ฟีลิปปี 3:5 - ข้าพเจ้าเกิดมาได้แปดวันก็เข้าสุหนัต ข้าพเจ้าเป็นคนอิสราเอลตระกูลเบนยามิน เป็นชาวฮีบรูแท้ ในด้านบทบัญญัติข้าพเจ้าเป็นฟาริสี
  • 1ซามูเอล 17:1 - ครั้งนั้นชาวฟีลิสเตียรวมพลมาสู้รบและชุมนุมกันที่โสโคห์ในยูดาห์ พวกเขาตั้งค่ายพักที่เอเฟสดัมมิมซึ่งอยู่ระหว่างโสโคห์กับอาเซคาห์
  • 1ซามูเอล 17:2 - ซาอูลและชนอิสราเอลมารวมพลและตั้งค่ายพักอยู่ที่หุบเขาเอลาห์ ตั้งแนวรบประจันหน้ากับชาวฟีลิสเตีย
  • 1ซามูเอล 17:3 - ชาวฟีลิสเตียยึดเนินเขาด้านหนึ่ง อิสราเอลยึดเนินเขาอีกด้านหนึ่ง มีหุบเขาคั่นกลาง
  • 1ซามูเอล 17:4 - ยอดนักรบชื่อโกลิอัทจากเมืองกัทออกมาจากค่ายฟีลิสเตีย เขาสูง 6 ศอกกับ 1 ฝ่ามือ
  • 1ซามูเอล 17:5 - เขาสวมหมวกเกราะทองสัมฤทธิ์และสวมเสื้อเกราะทองสัมฤทธิ์หนักประมาณ 57 กิโลกรัม
  • 1ซามูเอล 17:6 - ใส่สนับแข้งทองสัมฤทธิ์ มีหอกทองสัมฤทธิ์คล้องอยู่ที่บ่า
  • 1ซามูเอล 17:7 - ด้ามหอกเหมือนไม้กระพั่นทอผ้า ปลายหอกทำด้วยเหล็กหนักประมาณ 7 กิโลกรัม มีคนแบกโล่เดินนำหน้า
  • 1ซามูเอล 17:8 - โกลิอัทยืนร้องท้าทหารอิสราเอลว่า “พวกเจ้าจะมาตั้งแถวสู้รบกันทำไม? ข้าก็เป็นฟีลิสเตีย ส่วนพวกเจ้าก็เป็นบริวารของซาอูลไม่ใช่หรือ? จงเลือกคนหนึ่งลงมาสู้กับข้า
  • 1ซามูเอล 17:9 - ถ้าคนของเจ้าฆ่าข้าได้ พวกข้าจะยอมแพ้พวกเจ้า แต่ถ้าข้าชนะและฆ่าเขาได้ พวกเจ้าต้องยอมแพ้เป็นทาสรับใช้พวกข้า”
  • 1ซามูเอล 17:10 - ชาวฟีลิสเตียคนนั้นพูดว่า “วันนี้ข้าขอท้ากองทัพอิสราเอล! ส่งคนมาสู้กับข้าสิ”
  • 1ซามูเอล 17:11 - เมื่อซาอูลและชนอิสราเอลทั้งหมดได้ยินเช่นนี้ ก็พากันหวาดผวาและท้อแท้ใจ
  • 1ซามูเอล 17:12 - ฝ่ายดาวิดเป็นบุตรเจสซีชาวถิ่นเอฟราธาห์จากเบธเลเฮมในเขตยูดาห์ เจสซีมีบุตรชายแปดคน เขาก็ชราและมีอายุมากแล้วในสมัยที่ซาอูลเป็นกษัตริย์
  • 1ซามูเอล 17:13 - บุตรชายสามคนแรกของเจสซีที่ติดตามซาอูลไปรบมีดังนี้คือ เอลีอับบุตรหัวปี อาบีนาดับบุตรคนที่สอง และชัมมาห์บุตรคนที่สาม
  • 1ซามูเอล 17:14 - ดาวิดเป็นบุตรคนสุดท้อง พี่ชายสามคนแรกติดตามซาอูลไป
  • 1ซามูเอล 17:15 - ส่วนดาวิดไปๆ มาๆ ระหว่างซาอูลกับการเลี้ยงแกะของบิดาที่เบธเลเฮม
  • 1ซามูเอล 17:16 - ชาวฟีลิสเตียคนนี้มายืนร้องท้าเป็นประจำทุกเช้าเย็นตลอดสี่สิบวัน
  • 1ซามูเอล 17:17 - ฝ่ายเจสซีพูดกับดาวิดบุตรชายว่า “จงรีบเอาข้าวคั่วประมาณ 22 ลิตร กับขนมปังสิบก้อนนี้ไปให้พี่ชายของเจ้าที่ค่าย
  • 1ซามูเอล 17:18 - เอาเนยแข็งสิบชิ้นนี้ไปให้ผู้บังคับกอง ของพี่ๆ ด้วย จงดูว่าพวกพี่เป็นอย่างไรกันบ้าง แล้วนำข่าว จากพวกเขากลับมาบอกเราด้วย
  • 1ซามูเอล 17:19 - พวกเขาอยู่กับซาอูลและกองทัพอิสราเอลที่หุบเขาเอลาห์ระหว่างการสู้รบกับคนฟีลิสเตีย”
  • 1ซามูเอล 17:20 - ดาวิดทิ้งฝูงแกะไว้กับคนเลี้ยงอีกคนหนึ่ง แล้วออกเดินทางตามคำสั่งของเจสซีตั้งแต่เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นพร้อมด้วยของฝาก เขามาถึงค่ายพอดีกับที่กองทัพอิสราเอลกำลังจะยกออกไปสนามรบ มีเสียงตะโกนเสียงโห่ร้องออกศึก
  • 1ซามูเอล 17:21 - กองพลอิสราเอลและฟีลิสเตียต่างก็มาตั้งขบวนประจันหน้ากัน
  • 1ซามูเอล 17:22 - ดาวิดทิ้งข้าวของไว้กับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสัมภาระ แล้ววิ่งออกไปที่แนวรบและทักทายพวกพี่ๆ
  • 1ซามูเอล 17:23 - ขณะกำลังคุยกับพวกพี่ๆ โกลิอัทยอดนักรบชาวฟีลิสเตียจากเมืองกัทก้าวออกจากแถวมายืนร้องท้าเช่นเคย และดาวิดก็ได้ยิน
  • 1ซามูเอล 17:24 - ทันทีที่เห็นโกลิอัทคนอิสราเอลก็พากันวิ่งหนีด้วยความกลัวยิ่งนัก
  • 1ซามูเอล 17:25 - คนอิสราเอลพูดกันว่า “เจ้าเห็นคนนี้ไหม? เขาออกมาสบประมาทอิสราเอลอยู่เป็นประจำ กษัตริย์จะประทานทรัพย์สินมากมายให้แก่คนที่ฆ่าเขาได้ และจะยกพระธิดาให้เป็นภรรยา ยิ่งกว่านั้นครอบครัวของบิดาของเขาจะได้รับการยกเว้นภาษีด้วย”
  • 1ซามูเอล 17:26 - ดาวิดถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ว่า “ผู้ที่ฆ่าฟีลิสเตียคนนี้และกู้หน้าให้อิสราเอลจะได้รับบำเหน็จอะไรบ้าง? ชาวฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตคนนี้เป็นใครกัน ถึงบังอาจมาร้องท้ากองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่?”
  • 1ซามูเอล 17:27 - พวกเขาก็บอกซ้ำสิ่งที่พูดไปแล้วว่า “คนที่ฆ่าเขาสำเร็จจะได้รับสิ่งต่างๆ ดังกล่าว”
  • 1ซามูเอล 17:28 - เมื่อเอลีอับพี่ชายคนโตของดาวิดได้ยินดาวิดพูดกับคนนั้นก็โกรธ และถามว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ แล้วเจ้าทิ้งแกะไม่กี่ตัวในถิ่นกันดารไว้ให้ใครดูแล? ข้ารู้ว่าเจ้าชอบคุยโวและรู้จักใจชั่วช้าของเจ้า นึกอยากมาดูเขารบกันล่ะสิ”
  • 1ซามูเอล 17:29 - ดาวิดตอบว่า “ข้าทำอะไรผิดหรือ? ถามดูไม่ได้หรือ?”
  • 1ซามูเอล 17:30 - แล้วดาวิดเดินไปถามคนอื่นๆ อีกในเรื่องเดิม ก็ได้รับคำตอบอย่างเดียวกัน
  • 1ซามูเอล 17:31 - มีผู้ได้ยินคำพูดของดาวิดจึงไปทูลรายงานซาอูล พระองค์จึงให้คนไปตามตัวดาวิดมาเข้าเฝ้า
  • 1ซามูเอล 17:32 - ดาวิดทูลซาอูลว่า “อย่าให้ผู้ใดเสียขวัญเพราะชาวฟีลิสเตียคนนี้เลย ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทจะไปรบกับเขา”
  • 1ซามูเอล 17:33 - ซาอูลตรัสว่า “เจ้าออกไปสู้กับชาวฟีลิสเตียคนนั้นไม่ได้หรอก เจ้าเป็นเพียงเด็ก ส่วนเขาเป็นนักรบมาตั้งแต่หนุ่ม”
  • 1ซามูเอล 17:34 - แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทดูแลแกะของบิดา เมื่อมีสิงโตหรือหมีมาคาบแกะไปจากฝูง
  • 1ซามูเอล 17:35 - ข้าพระบาทจะไล่ตามฟาดฟันช่วยแกะนั้นออกมาจากปากของสิงโต หากมันหันมาเล่นงาน ข้าพระบาทก็จะกระชากขนของมัน ฟาดมัน และฆ่าเสีย
  • 1ซามูเอล 17:36 - ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าทั้งสิงโตและหมีมาแล้ว ชาวฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตคนนี้จะเป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้น เพราะเขามาสบประมาทกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
  • 1ซามูเอล 17:37 - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพระบาทจากเขี้ยวเล็บของสิงโตและหมี จะช่วยข้าพระบาทจากมือชาวฟีลิสเตียผู้นี้” ซาอูลตรัสกับดาวิดว่า “ไปเถิด ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเจ้า”
  • 1ซามูเอล 17:38 - จากนั้นซาอูลก็ให้ดาวิดสวมเครื่องทรงของซาอูลเอง มีเสื้อเกราะและหมวกเกราะทองสัมฤทธิ์
  • 1ซามูเอล 17:39 - ดาวิดสะพายดาบ ทับเสื้อเกราะ ลองเดินวนไปรอบๆ เพราะไม่คุ้นเคยกับชุดแบบนี้มาก่อน ดาวิดทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทออกไปอย่างนี้ไม่ได้เพราะไม่เคยชิน” แล้วดาวิดก็ถอดชุดนั้นออก
  • 1ซามูเอล 17:40 - จากนั้นเขาหยิบไม้เท้าและไปเก็บหินเกลี้ยงห้าก้อนจากลำธารใส่ไว้ในย่ามของเขา ในมือถือสลิง เดินเข้าไปหาชาวฟีลิสเตียคนนั้น
  • 1ซามูเอล 17:41 - ขณะนั้นโกลิอัทเดินเข้ามาหาดาวิด มีคนแบกโล่เดินนำหน้า
  • 1ซามูเอล 17:42 - เมื่อเห็นดาวิดซึ่งเป็นเพียงเด็กหนุ่มรูปหล่อผิวพรรณดี ก็นึกดูหมิ่น
  • 1ซามูเอล 17:43 - และกล่าวว่า “เห็นข้าเป็นหมาหรือไง ถึงได้ถือไม้เท้าออกมาหา?” แล้วก็แช่งด่าดาวิดโดยอ้างนามเทพเจ้าต่างๆ ของตน
  • 1ซามูเอล 17:44 - โกลิอัทพูดว่า “มาสิ เดี๋ยวข้าจะแล่เนื้อเจ้าให้นกกาและสัตว์ป่ากิน!”
  • 1ซามูเอล 17:45 - ดาวิดพูดว่า “ท่านถือดาบ ถือหอก และหอกซัดมาสู้กับเรา ส่วนเราจะสู้กับท่านในพระนามพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าของกองทัพอิสราเอลซึ่งท่านลบหลู่
  • 1ซามูเอล 17:46 - วันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบท่านแก่เรา เราจะฆ่าและตัดหัวท่าน วันนี้เราจะเอาซากศพของกองทัพฟีลิสเตียให้นกกาและสัตว์ป่ากิน แล้วทั้งโลกจะได้รู้ว่ามีพระเจ้าในอิสราเอล
  • 1ซามูเอล 17:47 - คนทั้งปวงที่ชุมนุมกันอยู่ที่นี่จะได้รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงช่วยให้รอดด้วยดาบหรือหอก การศึกครั้งนี้เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์จะทรงมอบเจ้าทุกคนไว้ในมือของพวกเรา”
  • 1ซามูเอล 17:48 - ขณะที่โกลิอัทเข้ามาใกล้เพื่อต่อสู้ ดาวิดก็วิ่งเข้าไปประจันหน้า
  • 1ซามูเอล 17:49 - เอามือล้วงลงไปในย่ามหยิบก้อนหินออกมาคล้องเข้ากับสลิง แล้วเหวี่ยงก้อนหินอัดเข้าที่หน้าผากของโกลิอัท ก้อนหินฝังจมเข้าไป โกลิอัทล้มคว่ำลงกับพื้น
  • 1ซามูเอล 17:50 - เป็นอันว่าดาวิดพิชิตชาวฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงและก้อนหิน แม้ไม่มีดาบแต่ก็ล้มเขาได้และฆ่าเขาเสีย
  • 1ซามูเอล 17:51 - ดาวิดวิ่งขึ้นไปยืนบนร่างของเขา ดึงดาบของโกลิอัทออกจากฝักและฆ่าเขา แล้วก็ตัดศีรษะออกมา เมื่อชาวฟีลิสเตียเห็นวีรบุรุษของตนตายเสียแล้ว ก็หันหลังวิ่งหนีไป
  • 1ซามูเอล 17:52 - คนอิสราเอลและยูดาห์จึงโห่ร้องมีชัย แล้วรุกไล่ฟีลิสเตียไปไกลถึงทางเข้าเมืองกัท และประตูเมืองเอโครน ศพชาวฟีลิสเตียเกลื่อนกลาดตลอดเส้นทางชาอาราอิมที่จะไปยังเมืองกัทและเมืองเอโครน
  • 1ซามูเอล 17:53 - หลังจากนั้นอิสราเอลก็กลับมาปล้นค่ายของชาวฟีลิสเตีย
  • 1ซามูเอล 17:54 - ดาวิดนำศีรษะของโกลิอัทไปยังเยรูซาเล็ม และเก็บอาวุธของเขาไว้ในเต็นท์ของตน
  • 1ซามูเอล 17:55 - ขณะซาอูลทอดพระเนตรดาวิดออกไปสู้กับโกลิอัท พระองค์ตรัสถามแม่ทัพอับเนอร์ว่า “อับเนอร์ เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร?” อับเนอร์ทูลตอบว่า “ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ข้าพระบาทไม่ทราบฉันนั้น”
  • 1ซามูเอล 17:56 - ซาอูลตรัสว่า “ไปสืบมาสิว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นลูกของใคร”
  • 1ซามูเอล 17:57 - ทันทีที่ดาวิดกลับจากสังหารโกลิอัท อับเนอร์นำตัวเขามาเข้าเฝ้าซาอูล ดาวิดยังหิ้วศีรษะของโกลิอัทอยู่
  • 1ซามูเอล 17:58 - ซาอูลตรัสถามว่า “พ่อหนุ่ม เจ้าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร?” ดาวิดทูลว่า “ข้าพระบาทเป็นบุตรของเจสซีแห่งเบธเลเฮม ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท”
  • มัทธิว 10:16 - เราส่งท่านไปเหมือนลูกแกะในหมู่สุนัขป่า ฉะนั้นจงเฉลียวฉลาดเหมือนงูและสุภาพไม่มีพิษภัยเหมือนนกพิราบ
  • กิจการของอัครทูต 20:29 - ข้าพเจ้าทราบว่าเมื่อข้าพเจ้าจากไปสุนัขป่าร้ายกาจจะเข้ามาในหมู่พวกท่านและจะไม่ปล่อยฝูงแกะทั้งสิ้นไว้เลย
  • กิจการของอัครทูต 8:3 - ฝ่ายเซาโลเริ่มทำลายล้างคริสตจักร เขาเข้าไปบ้านนั้นบ้านนี้ฉุดลากชายหญิงไปขังไว้ในคุก
  • 1ซามูเอล 14:1 - วันหนึ่งโยนาธานราชโอรสของซาอูลตรัสกับมหาดเล็กหนุ่มผู้เชิญอาวุธว่า “ให้เราข้ามไปยังกองทหารรักษาการณ์ของฟีลิสเตียข้างโน้นกันเถิด” แต่โยนาธานไม่ได้ทูลราชบิดา
  • 1ซามูเอล 14:2 - ซาอูลตั้งค่ายอยู่ที่ชายแดนเมืองกิเบอาห์ ใต้ต้นทับทิมที่มิโกรน ทหารทั้งหกร้อยคนอยู่กับพระองค์ด้วย
  • 1ซามูเอล 14:3 - ในจำนวนนี้มีอาหิยาห์ผู้สวมเอโฟดอยู่ด้วย เขาเป็นบุตรของอาหิทูบ พี่ชายของอีคาโบด อาหิทูบเป็นบุตรของฟีเนหัส บุตรเอลีซึ่งเป็นปุโรหิตขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ชิโลห์ ไม่มีผู้ใดทราบว่าโยนาธานไปแล้ว
  • 1ซามูเอล 14:4 - โยนาธานต้องข้ามช่องเขาซึ่งอยู่ระหว่างหน้าผาโบเซสและเสเนห์เพื่อไปยังกองทหารรักษาการณ์ของฟีลิสเตีย
  • 1ซามูเอล 14:5 - หน้าผาทางด้านเหนืออยู่ตรงหน้ามิคมาช ส่วนทางใต้อยู่ตรงหน้าเกบา
  • 1ซามูเอล 14:6 - โยนาธานกล่าวกับมหาดเล็กหนุ่มผู้เชิญอาวุธของเขาว่า “มาเถิด ให้เราไปยังกองทหารรักษาการณ์ด้านนอกของพวกที่ไม่เข้าสุหนัตเหล่านั้น บางทีองค์พระผู้เป็นเจ้าอาจจะทรงกระทำการเพื่อเรา ไม่มีสิ่งใดขัดขวางไม่ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วย ไม่ว่าคนจะมากหรือน้อย”
  • 1ซามูเอล 14:7 - ผู้เชิญอาวุธทูลว่า “ขอจงทำตามที่ท่านเห็นชอบเถิด ข้าพเจ้าสนับสนุนท่านเต็มที่”
  • 1ซามูเอล 14:8 - โยนาธานกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นมาเถิด เราจะข้ามไปหาพวกนั้นและให้เขาเห็นเรา
  • 1ซามูเอล 14:9 - ถ้าเขาพูดว่า ‘หยุดอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวเราจะไปหาพวกเจ้า’ เราก็จะหยุดอยู่ ไม่บุกเข้าไป
  • 1ซามูเอล 14:10 - แต่ถ้าเขาพูดว่า ‘ขึ้นมาสิ’ เราก็จะปีนขึ้นไป เพราะนั่นจะเป็นหมายสำคัญแก่เราว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของเราแล้ว”
  • 1ซามูเอล 14:11 - ดังนั้นทั้งสองจึงแสดงตัวให้กองรักษาการณ์ฟีลิสเตียเห็น ชาวฟีลิสเตียก็ตะโกนว่า “ดูแน่ะ! พวกฮีบรูคลานออกมาจากรูที่ซ่อนตัวแล้ว”
  • 1ซามูเอล 14:12 - พวกเขาก็ตะโกนบอกโยนาธานและผู้ติดตามว่า “ขึ้นมาสิ จะสอนบทเรียนให้” โยนาธานร้องบอกผู้เชิญอาวุธว่า “ปีนตามหลังเรามาเลย องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของอิสราเอลแล้ว”
  • 1ซามูเอล 14:13 - โยนาธานปีนขึ้นไป ผู้เชิญอาวุธปีนตามหลัง ชาวฟีลิสเตียล้มตายต่อหน้าโยนาธาน และผู้เชิญอาวุธของโยนาธานฆ่าฟันตามหลังมา
  • 1ซามูเอล 14:14 - ในการบุกโจมตีครั้งแรกนี้ โยนาธานกับผู้เชิญอาวุธฆ่าคนตายไปยี่สิบคนในเนื้อที่ราวหนึ่งไร่
  • 1ซามูเอล 14:15 - ความหวาดผวาแผ่ไปทั่วกองทัพฟีลิสเตีย ทั้งพวกที่อยู่ในค่ายและในท้องทุ่ง ทั้งพวกที่อยู่ในกองทหารรักษาการณ์และกองโจร และเกิดแผ่นดินไหว เป็นความหวาดผวาที่พระเจ้าส่งมา
  • กิจการของอัครทูต 9:1 - ขณะเดียวกันเซาโลยังข่มขู่จะเข่นฆ่าสาวกขององค์พระผู้เป็นเจ้า เซาโลเข้าพบมหาปุโรหิต
  • ปฐมกาล 35:18 - ขณะที่ราเชลกำลังจะสิ้นลมหายใจ นางตั้งชื่อลูกว่าเบนโอนี แต่ยาโคบเรียกเขาว่าเบนยามิน
  • เอเสเคียล 22:27 - ข้าราชบริพารในดินแดนนั้นเป็นเหมือนสุนัขป่าขย้ำเหยื่อ พวกเขาทำให้เกิดการนองเลือดและเข่นฆ่าคนเพื่อผลประโยชน์ที่ได้มาอย่างไม่ยุติธรรม
  • ผู้วินิจฉัย 20:21 - ชาวเบนยามินออกมาจากกิเบอาห์และฆ่าชาวอิสราเอลไป 22,000 คนในการรบวันนั้น
  • ผู้วินิจฉัย 20:25 - ครั้งนี้เมื่อชาวเบนยามินออกจากกิเบอาห์มาสู้รบ ก็ฆ่าฟันชาวอิสราเอลตายไป 18,000 คน ล้วนแต่เป็นพลดาบ
逐节对照交叉引用
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - “เบนยามินเป็นสุนัขป่าที่หิวโซ ในตอนเช้าเขาขย้ำเหยื่อ ในตอนเย็นเขาแบ่งของที่ยึดมาได้”
  • 新标点和合本 - “便雅悯是个撕掠的狼, 早晨要吃他所抓的, 晚上要分他所夺的。”
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 便雅悯是只抓撕掠物的狼, 早晨要吃他的猎物, 晚上要分他的掳物。”
  • 和合本2010(神版-简体) - 便雅悯是只抓撕掠物的狼, 早晨要吃他的猎物, 晚上要分他的掳物。”
  • 当代译本 - “便雅悯是匹贪婪的狼, 早晨吞吃猎物, 晚上瓜分战利品。”
  • 圣经新译本 - 便雅悯是只撕掠的豺狼, 早晨吞吃他的猎物, 晚上瓜分他的掳物。”
  • 中文标准译本 - 便雅悯是撕掠的狼, 早晨吞噬他的猎物, 晚上瓜分他的掠物。”
  • 现代标点和合本 - 便雅悯是个撕掠的狼, 早晨要吃他所抓的, 晚上要分他所夺的。”
  • 和合本(拼音版) - “便雅悯是个撕掠的狼, 早晨要吃他所抓的, 晚上要分他所夺的。”
  • New International Version - “Benjamin is a ravenous wolf; in the morning he devours the prey, in the evening he divides the plunder.”
  • New International Reader's Version - “Benjamin is a hungry wolf. In the morning he eats what he has killed. In the evening he shares what he has stolen.”
  • English Standard Version - “Benjamin is a ravenous wolf, in the morning devouring the prey and at evening dividing the spoil.”
  • New Living Translation - “Benjamin is a ravenous wolf, devouring his enemies in the morning and dividing his plunder in the evening.”
  • The Message - Benjamin is a ravenous wolf; all morning he gorges on his kill, at evening divides up what’s left over.
  • Christian Standard Bible - Benjamin is a wolf; he tears his prey. In the morning he devours the prey, and in the evening he divides the plunder.”
  • New American Standard Bible - “Benjamin is a ravenous wolf; In the morning he devours the prey, And in the evening he divides the spoils.”
  • New King James Version - “Benjamin is a ravenous wolf; In the morning he shall devour the prey, And at night he shall divide the spoil.”
  • Amplified Bible - “Benjamin is a ravenous wolf; In the morning he devours the prey, And at night he divides the spoil.”
  • American Standard Version - Benjamin is a wolf that raveneth: In the morning he shall devour the prey, And at even he shall divide the spoil.
  • King James Version - Benjamin shall ravin as a wolf: in the morning he shall devour the prey, and at night he shall divide the spoil.
  • New English Translation - Benjamin is a ravenous wolf; in the morning devouring the prey, and in the evening dividing the plunder.”
  • World English Bible - “Benjamin is a ravenous wolf. In the morning he will devour the prey. At evening he will divide the plunder.”
  • 新標點和合本 - 便雅憫是個撕掠的狼, 早晨要吃他所抓的, 晚上要分他所奪的。」
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 便雅憫是隻抓撕掠物的狼, 早晨要吃他的獵物, 晚上要分他的擄物。」
  • 和合本2010(神版-繁體) - 便雅憫是隻抓撕掠物的狼, 早晨要吃他的獵物, 晚上要分他的擄物。」
  • 當代譯本 - 「便雅憫是匹貪婪的狼, 早晨吞吃獵物, 晚上瓜分戰利品。」
  • 聖經新譯本 - 便雅憫是隻撕掠的豺狼, 早晨吞吃他的獵物, 晚上瓜分他的擄物。”
  • 呂振中譯本 - 便雅憫 是肆行抓掠的豺狼, 早晨喫所掠奪的, 晚上分所擄獲的。』
  • 中文標準譯本 - 便雅憫是撕掠的狼, 早晨吞噬他的獵物, 晚上瓜分他的掠物。」
  • 現代標點和合本 - 便雅憫是個撕掠的狼, 早晨要吃他所抓的, 晚上要分他所奪的。」
  • 文理和合譯本 - 便雅憫如攫物之狼、朝吞所獲、夕分所奪、○
  • 文理委辦譯本 - 便雅憫如狼、斷傷牲畜、朝吞所獲、夕分所得。○
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 便雅憫 如狼攫物、朝吞所獲、夕分所奪、○
  • Nueva Versión Internacional - »Benjamín es un lobo rapaz que en la mañana devora la presa y en la tarde reparte los despojos».
  • 현대인의 성경 - “베냐민은 사나운 이리와 같아서 아침에는 원수를 삼키고 저녁에는 그 약탈물을 나누리라.”
  • Новый Русский Перевод - Вениамин – прожорливый волк; утром он пожирает добычу, вечером делит награбленное добро.
  • Восточный перевод - Вениамин – прожорливый волк; утром он пожирает добычу, вечером делит награбленное добро.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Вениамин – прожорливый волк; утром он пожирает добычу, вечером делит награбленное добро.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Вениамин – прожорливый волк; утром он пожирает добычу, вечером делит награбленное добро.
  • La Bible du Semeur 2015 - Benjamin est semblable ╵à un loup qui déchire. Dès le matin, ╵il dévore sa proie, et sur le soir encore, ╵répartit le butin.
  • リビングバイブル - ベニヤミンはほえたける狼だ。明け方には敵を食い荒らし、夕べには戦利品を分け合う。」
  • Nova Versão Internacional - “Benjamim é um lobo predador; pela manhã devora a presa e à tarde divide o despojo”.
  • Hoffnung für alle - Benjamin gleicht einem reißenden Wolf, der morgens seine Feinde verschlingt und abends seine Beute teilt.«
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Bên-gia-min là chó sói săn mồi, buổi sáng con tiêu diệt kẻ thù, đến chiều phân chia chiến lợi phẩm.”
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เบนยามิน​ฉีก​เนื้อ​กิน​อย่าง​สุนัข​ป่า เขา​เขมือบ​เหยื่อ​ใน​ยาม​เช้า และ​แบ่ง​ปัน​สิ่ง​ที่​ชิง​มา​ได้​ใน​ยาม​เย็น”
  • เอเสเคียล 22:25 - บรรดาเจ้านาย ในดินแดนนั้น คบคิดการร้ายเหมือนสิงโตคำรามและฉีกเหยื่อ พวกเขาเขมือบชีวิตผู้คน ยึดทรัพย์สมบัติและของมีค่า และทำให้แม่ม่ายทวีจำนวนขึ้นในเขตแดน
  • 1ซามูเอล 11:4 - เมื่อผู้สื่อสารมาถึงเมืองกิเบอาห์ถิ่นของซาอูล แล้วแจ้งเงื่อนไขนี้แก่ประชากร ทุกคนพากันร้องไห้เสียงดัง
  • 1ซามูเอล 11:5 - ขณะนั้นเองซาอูลต้อนฝูงวัวกลับมาจากทุ่งนา จึงถามว่า “มีเรื่องอะไรหรือ? เหตุใดพวกเขาจึงร้องไห้?” พวกเขาก็แจ้งให้ซาอูลทราบข่าวจากยาเบช
  • 1ซามูเอล 11:6 - เมื่อซาอูลได้ยินเช่นนั้น พระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาสวมทับเขาด้วยฤทธานุภาพ และเขาโกรธมาก
  • 1ซามูเอล 11:7 - เขาจับวัวผู้สองตัวมาฟันเป็นท่อนๆ และให้ผู้สื่อสารแบกไปทั่วอิสราเอล พร้อมทั้งประกาศว่า “ใครไม่ยอมติดตามซาอูลกับซามูเอล วัวของเขาจะมีสภาพอย่างนี้” เหล่าประชากรเกิดความเกรงกลัวองค์พระผู้เป็นเจ้าเขาทั้งปวงจึงพร้อมใจกันมา
  • 1ซามูเอล 11:8 - เมื่อซาอูลตรวจพลที่เบเซกพบว่ามีชาวอิสราเอลสามแสนคนและมีคนยูดาห์อีกสามหมื่นคน
  • 1ซามูเอล 11:9 - พวกเขาบอกผู้สื่อสารทั้งหลายว่า “ให้กลับไปแจ้งชาวยาเบชกิเลอาดว่า ‘เราจะมาช่วยท่านก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้’ ” เมื่อชาวเมืองยาเบชได้ทราบข่าวแล้ว ก็ดีใจกันทั่วหน้า
  • 1ซามูเอล 11:10 - พวกเขาจึงบอกชาวอัมโมนว่า “พรุ่งนี้เราจะยอมแพ้ท่าน ท่านจะทำอะไรกับเราก็ได้ตามที่เห็นดี”
  • 1ซามูเอล 11:11 - วันรุ่งขึ้นซาอูลแบ่งกองทัพออกเป็นสามกอง บุกเข้าจู่โจมค่ายอัมโมนตั้งแต่เช้ามืด และฆ่าฟันพวกเขาตลอดช่วงเช้า ชาวอัมโมนที่เหลือก็กระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:12 - เขากล่าวถึงเผ่าเบนยามินว่า “ขอให้ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักพักพิงในพระองค์อย่างมั่นคงปลอดภัย เพราะพระองค์ทรงปกป้องเขาวันยังค่ำ และให้ผู้ที่พระองค์ทรงรักพักอยู่แนบพระทรวงของพระองค์”
  • เศฟันยาห์ 3:3 - ข้าราชการของกรุงนี้เป็นเหมือนสิงโตที่ร้องคำราม ผู้ครอบครองของกรุงนี้ก็เป็นดั่งสุนัขป่ายามเย็น ซึ่งไม่เหลืออะไรไว้ถึงเช้า
  • โฮเชยา 13:7 - ดังนั้นเราจึงจู่โจมเข้าใส่พวกเขาเหมือนสิงโต เราจะซุ่มอยู่ริมทางเหมือนเสือดาว
  • โฮเชยา 13:8 - เหมือนแม่หมีที่ถูกขโมยลูกไป เราจะเข้าโจมตีและฉีกพวกเขาออก เราจะเป็นดั่งราชสีห์ที่กลืนกินพวกเขา สัตว์ป่าจะฉีกพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ
  • ผู้วินิจฉัย 3:15 - อิสราเอลร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าอีกครั้งหนึ่ง และพระองค์ประทานผู้กอบกู้คือเอฮูดซึ่งเป็นคนถนัดซ้าย เอฮูดเป็นบุตรเกราชาวเบนยามิน ชนอิสราเอลให้เขานำส่วยไปมอบแก่กษัตริย์เอกโลนแห่งโมอับ
  • ผู้วินิจฉัย 3:16 - เอฮูดได้เตรียมดาบสองคมยาว 1 ศอก เล่มหนึ่งเหน็บไว้ที่ต้นขาขวาใต้เสื้อผ้า
  • ผู้วินิจฉัย 3:17 - เขานำส่วยไปมอบให้กษัตริย์เอกโลนแห่งโมอับซึ่งเป็นคนที่อ้วนมาก
  • ผู้วินิจฉัย 3:18 - หลังจากเอฮูดมอบส่วยเสร็จแล้ว เขาก็ให้ผู้คนที่แบกหามส่วยมานั้นกลับไป
  • ผู้วินิจฉัย 3:19 - เมื่อมาถึงที่ตั้งรูปเคารพต่างๆ ใกล้กิลกาล เอฮูดก็กลับมาหาเอกโลนและทูลว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ข้าพระบาทมีความลับจะกราบทูล” เอกโลนกล่าวว่า “จงเงียบ!” คนของเอกโลนก็ออกไปหมด
  • ผู้วินิจฉัย 3:20 - เอฮูดเดินเข้าไปหากษัตริย์เอกโลนซึ่งประทับนั่งอยู่เพียงลำพังในห้องชั้นบนของพระราชวังฤดูร้อน แล้วทูลว่า “ข้าพระบาทมีพระดำรัสจากพระเจ้าสำหรับฝ่าพระบาท” เอกโลนจึงลุกขึ้น
  • ผู้วินิจฉัย 3:21 - เอฮูดยื่นมือซ้ายชักดาบจากต้นขาขวาออกมาและแทงหน้าท้องของกษัตริย์เอกโลน
  • ผู้วินิจฉัย 3:22 - ดาบจมมิดด้ามทะลุหลัง เอฮูดไม่ได้ชักดาบกลับ ไขมันอาบดาบ
  • ผู้วินิจฉัย 3:23 - แล้วเอฮูดออกไปทางเฉลียง เขาปิดประตูห้องชั้นบนและลั่นกุญแจไว้
  • ผู้วินิจฉัย 3:24 - หลังจากเขาไปแล้ว เหล่าบริวารมาเห็นประตูห้องชั้นบนลั่นกุญแจไว้ พวกเขาจึงกล่าวว่า “พระราชาคงจะปลดทุกข์อยู่ที่ห้องชั้นใน”
  • ผู้วินิจฉัย 3:25 - พวกเขาคอยอยู่นานจนรู้สึกวุ่นวายใจ แต่กษัตริย์เอกโลนก็ไม่ได้เปิดประตูออกมา พวกเขาจึงหากุญแจมาเปิด ก็พบเจ้านายของตนนอนสิ้นชีวิตอยู่ที่พื้น
  • ผู้วินิจฉัย 3:26 - ขณะที่พวกเขารออยู่นั้น เอฮูดได้หลบหนีผ่านที่ตั้งรูปเคารพมาถึงเสอีราห์
  • ผู้วินิจฉัย 3:27 - เมื่อมาถึงที่นั่น เอฮูดก็เป่าแตรเขาสัตว์ในแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม ชนอิสราเอลก็ลงมาจากภูเขาต่างๆ โดยมีเอฮูดนำหน้า
  • ผู้วินิจฉัย 3:28 - เขาบัญชาว่า “จงตามข้าพเจ้ามา เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบชาวโมอับศัตรูของท่านไว้ในมือของท่านแล้ว” พวกเขาจึงตามเอฮูดลงไปยึดท่าข้ามแม่น้ำจอร์แดนซึ่งนำไปสู่โมอับ สกัดไม่ให้ผู้ใดข้ามไปมา
  • ผู้วินิจฉัย 3:29 - ครั้งนั้นพวกเขาสังหารชาวโมอับนับหมื่นคนซึ่งล้วนแต่แข็งแรงและมีกำลัง ไม่ปล่อยให้เล็ดลอดไปแม้สักคนเดียว
  • กันดารวิถี 23:24 - ประชากรเหล่านี้ผงาดขึ้นมาเยี่ยงนางสิงห์ พวกเขาตื่นขึ้นเยี่ยงราชสีห์ พวกเขาจะไม่หยุดพักจนกว่าจะได้เขมือบเหยื่อ และได้ดื่มเลือดของเหยื่อเสียก่อน”
  • เยเรมีย์ 5:6 - ฉะนั้นสิงโตจากป่าจะมาเล่นงานพวกเขา สุนัขป่าจากทะเลทรายจะเข้าขย้ำ เสือดาวจะซุ่มอยู่ใกล้เมืองต่างๆ ของพวกเขา คอยฉีกเนื้อคนที่ออกมานั้นเป็นชิ้นๆ เพราะการทรยศของพวกเขาร้ายแรงนัก และชอบหวนกลับไปทำบาป
  • ปฐมกาล 46:21 - บุตรชายของเบนยามิน ได้แก่ เบลา เบเคอร์ อัชเบล เกรา นาอามาน เอไฮ โรช มัปปิม หุปปิม และอาร์ด
  • มัทธิว 7:15 - “จงระวังผู้เผยพระวจนะเท็จ เขามาหาพวกท่านในคราบแกะ แต่ภายในคือสุนัขป่าดุร้าย
  • ฟีลิปปี 3:5 - ข้าพเจ้าเกิดมาได้แปดวันก็เข้าสุหนัต ข้าพเจ้าเป็นคนอิสราเอลตระกูลเบนยามิน เป็นชาวฮีบรูแท้ ในด้านบทบัญญัติข้าพเจ้าเป็นฟาริสี
  • 1ซามูเอล 17:1 - ครั้งนั้นชาวฟีลิสเตียรวมพลมาสู้รบและชุมนุมกันที่โสโคห์ในยูดาห์ พวกเขาตั้งค่ายพักที่เอเฟสดัมมิมซึ่งอยู่ระหว่างโสโคห์กับอาเซคาห์
  • 1ซามูเอล 17:2 - ซาอูลและชนอิสราเอลมารวมพลและตั้งค่ายพักอยู่ที่หุบเขาเอลาห์ ตั้งแนวรบประจันหน้ากับชาวฟีลิสเตีย
  • 1ซามูเอล 17:3 - ชาวฟีลิสเตียยึดเนินเขาด้านหนึ่ง อิสราเอลยึดเนินเขาอีกด้านหนึ่ง มีหุบเขาคั่นกลาง
  • 1ซามูเอล 17:4 - ยอดนักรบชื่อโกลิอัทจากเมืองกัทออกมาจากค่ายฟีลิสเตีย เขาสูง 6 ศอกกับ 1 ฝ่ามือ
  • 1ซามูเอล 17:5 - เขาสวมหมวกเกราะทองสัมฤทธิ์และสวมเสื้อเกราะทองสัมฤทธิ์หนักประมาณ 57 กิโลกรัม
  • 1ซามูเอล 17:6 - ใส่สนับแข้งทองสัมฤทธิ์ มีหอกทองสัมฤทธิ์คล้องอยู่ที่บ่า
  • 1ซามูเอล 17:7 - ด้ามหอกเหมือนไม้กระพั่นทอผ้า ปลายหอกทำด้วยเหล็กหนักประมาณ 7 กิโลกรัม มีคนแบกโล่เดินนำหน้า
  • 1ซามูเอล 17:8 - โกลิอัทยืนร้องท้าทหารอิสราเอลว่า “พวกเจ้าจะมาตั้งแถวสู้รบกันทำไม? ข้าก็เป็นฟีลิสเตีย ส่วนพวกเจ้าก็เป็นบริวารของซาอูลไม่ใช่หรือ? จงเลือกคนหนึ่งลงมาสู้กับข้า
  • 1ซามูเอล 17:9 - ถ้าคนของเจ้าฆ่าข้าได้ พวกข้าจะยอมแพ้พวกเจ้า แต่ถ้าข้าชนะและฆ่าเขาได้ พวกเจ้าต้องยอมแพ้เป็นทาสรับใช้พวกข้า”
  • 1ซามูเอล 17:10 - ชาวฟีลิสเตียคนนั้นพูดว่า “วันนี้ข้าขอท้ากองทัพอิสราเอล! ส่งคนมาสู้กับข้าสิ”
  • 1ซามูเอล 17:11 - เมื่อซาอูลและชนอิสราเอลทั้งหมดได้ยินเช่นนี้ ก็พากันหวาดผวาและท้อแท้ใจ
  • 1ซามูเอล 17:12 - ฝ่ายดาวิดเป็นบุตรเจสซีชาวถิ่นเอฟราธาห์จากเบธเลเฮมในเขตยูดาห์ เจสซีมีบุตรชายแปดคน เขาก็ชราและมีอายุมากแล้วในสมัยที่ซาอูลเป็นกษัตริย์
  • 1ซามูเอล 17:13 - บุตรชายสามคนแรกของเจสซีที่ติดตามซาอูลไปรบมีดังนี้คือ เอลีอับบุตรหัวปี อาบีนาดับบุตรคนที่สอง และชัมมาห์บุตรคนที่สาม
  • 1ซามูเอล 17:14 - ดาวิดเป็นบุตรคนสุดท้อง พี่ชายสามคนแรกติดตามซาอูลไป
  • 1ซามูเอล 17:15 - ส่วนดาวิดไปๆ มาๆ ระหว่างซาอูลกับการเลี้ยงแกะของบิดาที่เบธเลเฮม
  • 1ซามูเอล 17:16 - ชาวฟีลิสเตียคนนี้มายืนร้องท้าเป็นประจำทุกเช้าเย็นตลอดสี่สิบวัน
  • 1ซามูเอล 17:17 - ฝ่ายเจสซีพูดกับดาวิดบุตรชายว่า “จงรีบเอาข้าวคั่วประมาณ 22 ลิตร กับขนมปังสิบก้อนนี้ไปให้พี่ชายของเจ้าที่ค่าย
  • 1ซามูเอล 17:18 - เอาเนยแข็งสิบชิ้นนี้ไปให้ผู้บังคับกอง ของพี่ๆ ด้วย จงดูว่าพวกพี่เป็นอย่างไรกันบ้าง แล้วนำข่าว จากพวกเขากลับมาบอกเราด้วย
  • 1ซามูเอล 17:19 - พวกเขาอยู่กับซาอูลและกองทัพอิสราเอลที่หุบเขาเอลาห์ระหว่างการสู้รบกับคนฟีลิสเตีย”
  • 1ซามูเอล 17:20 - ดาวิดทิ้งฝูงแกะไว้กับคนเลี้ยงอีกคนหนึ่ง แล้วออกเดินทางตามคำสั่งของเจสซีตั้งแต่เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นพร้อมด้วยของฝาก เขามาถึงค่ายพอดีกับที่กองทัพอิสราเอลกำลังจะยกออกไปสนามรบ มีเสียงตะโกนเสียงโห่ร้องออกศึก
  • 1ซามูเอล 17:21 - กองพลอิสราเอลและฟีลิสเตียต่างก็มาตั้งขบวนประจันหน้ากัน
  • 1ซามูเอล 17:22 - ดาวิดทิ้งข้าวของไว้กับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสัมภาระ แล้ววิ่งออกไปที่แนวรบและทักทายพวกพี่ๆ
  • 1ซามูเอล 17:23 - ขณะกำลังคุยกับพวกพี่ๆ โกลิอัทยอดนักรบชาวฟีลิสเตียจากเมืองกัทก้าวออกจากแถวมายืนร้องท้าเช่นเคย และดาวิดก็ได้ยิน
  • 1ซามูเอล 17:24 - ทันทีที่เห็นโกลิอัทคนอิสราเอลก็พากันวิ่งหนีด้วยความกลัวยิ่งนัก
  • 1ซามูเอล 17:25 - คนอิสราเอลพูดกันว่า “เจ้าเห็นคนนี้ไหม? เขาออกมาสบประมาทอิสราเอลอยู่เป็นประจำ กษัตริย์จะประทานทรัพย์สินมากมายให้แก่คนที่ฆ่าเขาได้ และจะยกพระธิดาให้เป็นภรรยา ยิ่งกว่านั้นครอบครัวของบิดาของเขาจะได้รับการยกเว้นภาษีด้วย”
  • 1ซามูเอล 17:26 - ดาวิดถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ว่า “ผู้ที่ฆ่าฟีลิสเตียคนนี้และกู้หน้าให้อิสราเอลจะได้รับบำเหน็จอะไรบ้าง? ชาวฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตคนนี้เป็นใครกัน ถึงบังอาจมาร้องท้ากองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่?”
  • 1ซามูเอล 17:27 - พวกเขาก็บอกซ้ำสิ่งที่พูดไปแล้วว่า “คนที่ฆ่าเขาสำเร็จจะได้รับสิ่งต่างๆ ดังกล่าว”
  • 1ซามูเอล 17:28 - เมื่อเอลีอับพี่ชายคนโตของดาวิดได้ยินดาวิดพูดกับคนนั้นก็โกรธ และถามว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ แล้วเจ้าทิ้งแกะไม่กี่ตัวในถิ่นกันดารไว้ให้ใครดูแล? ข้ารู้ว่าเจ้าชอบคุยโวและรู้จักใจชั่วช้าของเจ้า นึกอยากมาดูเขารบกันล่ะสิ”
  • 1ซามูเอล 17:29 - ดาวิดตอบว่า “ข้าทำอะไรผิดหรือ? ถามดูไม่ได้หรือ?”
  • 1ซามูเอล 17:30 - แล้วดาวิดเดินไปถามคนอื่นๆ อีกในเรื่องเดิม ก็ได้รับคำตอบอย่างเดียวกัน
  • 1ซามูเอล 17:31 - มีผู้ได้ยินคำพูดของดาวิดจึงไปทูลรายงานซาอูล พระองค์จึงให้คนไปตามตัวดาวิดมาเข้าเฝ้า
  • 1ซามูเอล 17:32 - ดาวิดทูลซาอูลว่า “อย่าให้ผู้ใดเสียขวัญเพราะชาวฟีลิสเตียคนนี้เลย ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทจะไปรบกับเขา”
  • 1ซามูเอล 17:33 - ซาอูลตรัสว่า “เจ้าออกไปสู้กับชาวฟีลิสเตียคนนั้นไม่ได้หรอก เจ้าเป็นเพียงเด็ก ส่วนเขาเป็นนักรบมาตั้งแต่หนุ่ม”
  • 1ซามูเอล 17:34 - แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทดูแลแกะของบิดา เมื่อมีสิงโตหรือหมีมาคาบแกะไปจากฝูง
  • 1ซามูเอล 17:35 - ข้าพระบาทจะไล่ตามฟาดฟันช่วยแกะนั้นออกมาจากปากของสิงโต หากมันหันมาเล่นงาน ข้าพระบาทก็จะกระชากขนของมัน ฟาดมัน และฆ่าเสีย
  • 1ซามูเอล 17:36 - ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าทั้งสิงโตและหมีมาแล้ว ชาวฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตคนนี้จะเป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้น เพราะเขามาสบประมาทกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
  • 1ซามูเอล 17:37 - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพระบาทจากเขี้ยวเล็บของสิงโตและหมี จะช่วยข้าพระบาทจากมือชาวฟีลิสเตียผู้นี้” ซาอูลตรัสกับดาวิดว่า “ไปเถิด ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเจ้า”
  • 1ซามูเอล 17:38 - จากนั้นซาอูลก็ให้ดาวิดสวมเครื่องทรงของซาอูลเอง มีเสื้อเกราะและหมวกเกราะทองสัมฤทธิ์
  • 1ซามูเอล 17:39 - ดาวิดสะพายดาบ ทับเสื้อเกราะ ลองเดินวนไปรอบๆ เพราะไม่คุ้นเคยกับชุดแบบนี้มาก่อน ดาวิดทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทออกไปอย่างนี้ไม่ได้เพราะไม่เคยชิน” แล้วดาวิดก็ถอดชุดนั้นออก
  • 1ซามูเอล 17:40 - จากนั้นเขาหยิบไม้เท้าและไปเก็บหินเกลี้ยงห้าก้อนจากลำธารใส่ไว้ในย่ามของเขา ในมือถือสลิง เดินเข้าไปหาชาวฟีลิสเตียคนนั้น
  • 1ซามูเอล 17:41 - ขณะนั้นโกลิอัทเดินเข้ามาหาดาวิด มีคนแบกโล่เดินนำหน้า
  • 1ซามูเอล 17:42 - เมื่อเห็นดาวิดซึ่งเป็นเพียงเด็กหนุ่มรูปหล่อผิวพรรณดี ก็นึกดูหมิ่น
  • 1ซามูเอล 17:43 - และกล่าวว่า “เห็นข้าเป็นหมาหรือไง ถึงได้ถือไม้เท้าออกมาหา?” แล้วก็แช่งด่าดาวิดโดยอ้างนามเทพเจ้าต่างๆ ของตน
  • 1ซามูเอล 17:44 - โกลิอัทพูดว่า “มาสิ เดี๋ยวข้าจะแล่เนื้อเจ้าให้นกกาและสัตว์ป่ากิน!”
  • 1ซามูเอล 17:45 - ดาวิดพูดว่า “ท่านถือดาบ ถือหอก และหอกซัดมาสู้กับเรา ส่วนเราจะสู้กับท่านในพระนามพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าของกองทัพอิสราเอลซึ่งท่านลบหลู่
  • 1ซามูเอล 17:46 - วันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบท่านแก่เรา เราจะฆ่าและตัดหัวท่าน วันนี้เราจะเอาซากศพของกองทัพฟีลิสเตียให้นกกาและสัตว์ป่ากิน แล้วทั้งโลกจะได้รู้ว่ามีพระเจ้าในอิสราเอล
  • 1ซามูเอล 17:47 - คนทั้งปวงที่ชุมนุมกันอยู่ที่นี่จะได้รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงช่วยให้รอดด้วยดาบหรือหอก การศึกครั้งนี้เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์จะทรงมอบเจ้าทุกคนไว้ในมือของพวกเรา”
  • 1ซามูเอล 17:48 - ขณะที่โกลิอัทเข้ามาใกล้เพื่อต่อสู้ ดาวิดก็วิ่งเข้าไปประจันหน้า
  • 1ซามูเอล 17:49 - เอามือล้วงลงไปในย่ามหยิบก้อนหินออกมาคล้องเข้ากับสลิง แล้วเหวี่ยงก้อนหินอัดเข้าที่หน้าผากของโกลิอัท ก้อนหินฝังจมเข้าไป โกลิอัทล้มคว่ำลงกับพื้น
  • 1ซามูเอล 17:50 - เป็นอันว่าดาวิดพิชิตชาวฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงและก้อนหิน แม้ไม่มีดาบแต่ก็ล้มเขาได้และฆ่าเขาเสีย
  • 1ซามูเอล 17:51 - ดาวิดวิ่งขึ้นไปยืนบนร่างของเขา ดึงดาบของโกลิอัทออกจากฝักและฆ่าเขา แล้วก็ตัดศีรษะออกมา เมื่อชาวฟีลิสเตียเห็นวีรบุรุษของตนตายเสียแล้ว ก็หันหลังวิ่งหนีไป
  • 1ซามูเอล 17:52 - คนอิสราเอลและยูดาห์จึงโห่ร้องมีชัย แล้วรุกไล่ฟีลิสเตียไปไกลถึงทางเข้าเมืองกัท และประตูเมืองเอโครน ศพชาวฟีลิสเตียเกลื่อนกลาดตลอดเส้นทางชาอาราอิมที่จะไปยังเมืองกัทและเมืองเอโครน
  • 1ซามูเอล 17:53 - หลังจากนั้นอิสราเอลก็กลับมาปล้นค่ายของชาวฟีลิสเตีย
  • 1ซามูเอล 17:54 - ดาวิดนำศีรษะของโกลิอัทไปยังเยรูซาเล็ม และเก็บอาวุธของเขาไว้ในเต็นท์ของตน
  • 1ซามูเอล 17:55 - ขณะซาอูลทอดพระเนตรดาวิดออกไปสู้กับโกลิอัท พระองค์ตรัสถามแม่ทัพอับเนอร์ว่า “อับเนอร์ เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร?” อับเนอร์ทูลตอบว่า “ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ข้าพระบาทไม่ทราบฉันนั้น”
  • 1ซามูเอล 17:56 - ซาอูลตรัสว่า “ไปสืบมาสิว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นลูกของใคร”
  • 1ซามูเอล 17:57 - ทันทีที่ดาวิดกลับจากสังหารโกลิอัท อับเนอร์นำตัวเขามาเข้าเฝ้าซาอูล ดาวิดยังหิ้วศีรษะของโกลิอัทอยู่
  • 1ซามูเอล 17:58 - ซาอูลตรัสถามว่า “พ่อหนุ่ม เจ้าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร?” ดาวิดทูลว่า “ข้าพระบาทเป็นบุตรของเจสซีแห่งเบธเลเฮม ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท”
  • มัทธิว 10:16 - เราส่งท่านไปเหมือนลูกแกะในหมู่สุนัขป่า ฉะนั้นจงเฉลียวฉลาดเหมือนงูและสุภาพไม่มีพิษภัยเหมือนนกพิราบ
  • กิจการของอัครทูต 20:29 - ข้าพเจ้าทราบว่าเมื่อข้าพเจ้าจากไปสุนัขป่าร้ายกาจจะเข้ามาในหมู่พวกท่านและจะไม่ปล่อยฝูงแกะทั้งสิ้นไว้เลย
  • กิจการของอัครทูต 8:3 - ฝ่ายเซาโลเริ่มทำลายล้างคริสตจักร เขาเข้าไปบ้านนั้นบ้านนี้ฉุดลากชายหญิงไปขังไว้ในคุก
  • 1ซามูเอล 14:1 - วันหนึ่งโยนาธานราชโอรสของซาอูลตรัสกับมหาดเล็กหนุ่มผู้เชิญอาวุธว่า “ให้เราข้ามไปยังกองทหารรักษาการณ์ของฟีลิสเตียข้างโน้นกันเถิด” แต่โยนาธานไม่ได้ทูลราชบิดา
  • 1ซามูเอล 14:2 - ซาอูลตั้งค่ายอยู่ที่ชายแดนเมืองกิเบอาห์ ใต้ต้นทับทิมที่มิโกรน ทหารทั้งหกร้อยคนอยู่กับพระองค์ด้วย
  • 1ซามูเอล 14:3 - ในจำนวนนี้มีอาหิยาห์ผู้สวมเอโฟดอยู่ด้วย เขาเป็นบุตรของอาหิทูบ พี่ชายของอีคาโบด อาหิทูบเป็นบุตรของฟีเนหัส บุตรเอลีซึ่งเป็นปุโรหิตขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ชิโลห์ ไม่มีผู้ใดทราบว่าโยนาธานไปแล้ว
  • 1ซามูเอล 14:4 - โยนาธานต้องข้ามช่องเขาซึ่งอยู่ระหว่างหน้าผาโบเซสและเสเนห์เพื่อไปยังกองทหารรักษาการณ์ของฟีลิสเตีย
  • 1ซามูเอล 14:5 - หน้าผาทางด้านเหนืออยู่ตรงหน้ามิคมาช ส่วนทางใต้อยู่ตรงหน้าเกบา
  • 1ซามูเอล 14:6 - โยนาธานกล่าวกับมหาดเล็กหนุ่มผู้เชิญอาวุธของเขาว่า “มาเถิด ให้เราไปยังกองทหารรักษาการณ์ด้านนอกของพวกที่ไม่เข้าสุหนัตเหล่านั้น บางทีองค์พระผู้เป็นเจ้าอาจจะทรงกระทำการเพื่อเรา ไม่มีสิ่งใดขัดขวางไม่ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วย ไม่ว่าคนจะมากหรือน้อย”
  • 1ซามูเอล 14:7 - ผู้เชิญอาวุธทูลว่า “ขอจงทำตามที่ท่านเห็นชอบเถิด ข้าพเจ้าสนับสนุนท่านเต็มที่”
  • 1ซามูเอล 14:8 - โยนาธานกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นมาเถิด เราจะข้ามไปหาพวกนั้นและให้เขาเห็นเรา
  • 1ซามูเอล 14:9 - ถ้าเขาพูดว่า ‘หยุดอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวเราจะไปหาพวกเจ้า’ เราก็จะหยุดอยู่ ไม่บุกเข้าไป
  • 1ซามูเอล 14:10 - แต่ถ้าเขาพูดว่า ‘ขึ้นมาสิ’ เราก็จะปีนขึ้นไป เพราะนั่นจะเป็นหมายสำคัญแก่เราว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของเราแล้ว”
  • 1ซามูเอล 14:11 - ดังนั้นทั้งสองจึงแสดงตัวให้กองรักษาการณ์ฟีลิสเตียเห็น ชาวฟีลิสเตียก็ตะโกนว่า “ดูแน่ะ! พวกฮีบรูคลานออกมาจากรูที่ซ่อนตัวแล้ว”
  • 1ซามูเอล 14:12 - พวกเขาก็ตะโกนบอกโยนาธานและผู้ติดตามว่า “ขึ้นมาสิ จะสอนบทเรียนให้” โยนาธานร้องบอกผู้เชิญอาวุธว่า “ปีนตามหลังเรามาเลย องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของอิสราเอลแล้ว”
  • 1ซามูเอล 14:13 - โยนาธานปีนขึ้นไป ผู้เชิญอาวุธปีนตามหลัง ชาวฟีลิสเตียล้มตายต่อหน้าโยนาธาน และผู้เชิญอาวุธของโยนาธานฆ่าฟันตามหลังมา
  • 1ซามูเอล 14:14 - ในการบุกโจมตีครั้งแรกนี้ โยนาธานกับผู้เชิญอาวุธฆ่าคนตายไปยี่สิบคนในเนื้อที่ราวหนึ่งไร่
  • 1ซามูเอล 14:15 - ความหวาดผวาแผ่ไปทั่วกองทัพฟีลิสเตีย ทั้งพวกที่อยู่ในค่ายและในท้องทุ่ง ทั้งพวกที่อยู่ในกองทหารรักษาการณ์และกองโจร และเกิดแผ่นดินไหว เป็นความหวาดผวาที่พระเจ้าส่งมา
  • กิจการของอัครทูต 9:1 - ขณะเดียวกันเซาโลยังข่มขู่จะเข่นฆ่าสาวกขององค์พระผู้เป็นเจ้า เซาโลเข้าพบมหาปุโรหิต
  • ปฐมกาล 35:18 - ขณะที่ราเชลกำลังจะสิ้นลมหายใจ นางตั้งชื่อลูกว่าเบนโอนี แต่ยาโคบเรียกเขาว่าเบนยามิน
  • เอเสเคียล 22:27 - ข้าราชบริพารในดินแดนนั้นเป็นเหมือนสุนัขป่าขย้ำเหยื่อ พวกเขาทำให้เกิดการนองเลือดและเข่นฆ่าคนเพื่อผลประโยชน์ที่ได้มาอย่างไม่ยุติธรรม
  • ผู้วินิจฉัย 20:21 - ชาวเบนยามินออกมาจากกิเบอาห์และฆ่าชาวอิสราเอลไป 22,000 คนในการรบวันนั้น
  • ผู้วินิจฉัย 20:25 - ครั้งนี้เมื่อชาวเบนยามินออกจากกิเบอาห์มาสู้รบ ก็ฆ่าฟันชาวอิสราเอลตายไป 18,000 คน ล้วนแต่เป็นพลดาบ
圣经
资源
计划
奉献