逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - สิ่งเหล่านี้เป็นคติสอนใจ ด้วยว่าหญิง 2 คนนั้นได้แก่พันธสัญญา 2 อย่าง พันธสัญญาหนึ่งมาจากภูเขาซีนาย คือนางฮาการ์ โดยมีบุตรภายใต้การเป็นทาส
- 新标点和合本 - 这都是比方:那两个妇人就是两约。一约是出于西奈山,生子为奴,乃是夏甲。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 这是比方:那两个妇人就是两个约;一个妇人是出于西奈山,生子为奴,就是夏甲。
- 和合本2010(神版-简体) - 这是比方:那两个妇人就是两个约;一个妇人是出于西奈山,生子为奴,就是夏甲。
- 当代译本 - 这些事都有寓意,两个妇人代表两个约。夏甲代表颁布于西奈山的约,她生的孩子是奴仆。
- 圣经新译本 - 这都是寓意的说法:那两个妇人就是两个约,一个是出于西奈山,生子作奴仆,这是夏甲。
- 中文标准译本 - 这些都是有寓意的。就是说,这两个女人是两个约。一个出于西奈山,生子为奴,她就是夏甲。
- 现代标点和合本 - 这都是比方:那两个妇人就是两约。一约是出于西奈山,生子为奴,乃是夏甲。
- 和合本(拼音版) - 这都是比方,那两个妇人就是两约。一约是出于西奈山,生子为奴,乃是夏甲。
- New International Version - These things are being taken figuratively: The women represent two covenants. One covenant is from Mount Sinai and bears children who are to be slaves: This is Hagar.
- New International Reader's Version - These things are examples. The two women stand for two covenants. One covenant comes from Mount Sinai. It gives birth to children who are going to be slaves. It is Hagar.
- English Standard Version - Now this may be interpreted allegorically: these women are two covenants. One is from Mount Sinai, bearing children for slavery; she is Hagar.
- New Living Translation - These two women serve as an illustration of God’s two covenants. The first woman, Hagar, represents Mount Sinai where people received the law that enslaved them.
- Christian Standard Bible - These things are being taken figuratively, for the women represent two covenants. One is from Mount Sinai and bears children into slavery — this is Hagar.
- New American Standard Bible - This is speaking allegorically, for these women are two covenants: one coming from Mount Sinai giving birth to children who are to be slaves; she is Hagar.
- New King James Version - which things are symbolic. For these are the two covenants: the one from Mount Sinai which gives birth to bondage, which is Hagar—
- Amplified Bible - Now these facts are about to be used [by me] as an allegory [that is, I will illustrate by using them]: for these women can represent two covenants: one [covenant originated] from Mount Sinai [where the Law was given] that bears children [destined] for slavery; she is Hagar.
- American Standard Version - Which things contain an allegory: for these women are two covenants; one from mount Sinai, bearing children unto bondage, which is Hagar.
- King James Version - Which things are an allegory: for these are the two covenants; the one from the mount Sinai, which gendereth to bondage, which is Agar.
- New English Translation - These things may be treated as an allegory, for these women represent two covenants. One is from Mount Sinai bearing children for slavery; this is Hagar.
- World English Bible - These things contain an allegory, for these are two covenants. One is from Mount Sinai, bearing children to bondage, which is Hagar.
- 新標點和合本 - 這都是比方:那兩個婦人就是兩約。一約是出於西奈山,生子為奴,乃是夏甲。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 這是比方:那兩個婦人就是兩個約;一個婦人是出於西奈山,生子為奴,就是夏甲。
- 和合本2010(神版-繁體) - 這是比方:那兩個婦人就是兩個約;一個婦人是出於西奈山,生子為奴,就是夏甲。
- 當代譯本 - 這些事都有寓意,兩個婦人代表兩個約。夏甲代表頒佈於西奈山的約,她生的孩子是奴僕。
- 聖經新譯本 - 這都是寓意的說法:那兩個婦人就是兩個約,一個是出於西奈山,生子作奴僕,這是夏甲。
- 呂振中譯本 - 這些都是有寓意的:那兩個婦人就是兩個約:一個屬於 西乃山 ,生子在奴役中,就是 夏甲 。
- 中文標準譯本 - 這些都是有寓意的。就是說,這兩個女人是兩個約。一個出於西奈山,生子為奴,她就是夏甲。
- 現代標點和合本 - 這都是比方:那兩個婦人就是兩約。一約是出於西奈山,生子為奴,乃是夏甲。
- 文理和合譯本 - 斯為寓言、蓋二女乃二約、一出自西乃山、所生者為僕、夏甲是也、
- 文理委辦譯本 - 斯可為二約譬、一則西乃山、使人為奴、夏甲是也、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 斯可為譬、二婦譬二約、一約自 西乃 山而傳、使人為奴、即 夏甲 、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 於此寓有象徵焉:彼二婦者、即二約也;一約出於 西乃山 、生子為奴、 夏甲 是也。
- Nueva Versión Internacional - Ese relato puede interpretarse en sentido figurado: estas mujeres representan dos pactos. Uno, que es Agar, procede del monte Sinaí y tiene hijos que nacen para ser esclavos.
- 현대인의 성경 - 이것은 비유로서 두 여자는 두 계약을 말합니다. 한 계약은 시내산에서 받은 것으로 종살이할 아기를 낳은 하갈을 의미합니다.
- Новый Русский Перевод - Здесь содержится иносказание: две женщины символизируют два завета. Один был заключен на горе Синай, и его символ – Агарь, рождающая детей в рабство.
- Восточный перевод - Здесь содержится иносказание: две женщины символизируют два священных соглашения. Одно было заключено на горе Синай , и его символ – Хаджар, рождающая детей в рабство Закона.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Здесь содержится иносказание: две женщины символизируют два священных соглашения. Одно было заключено на горе Синай , и его символ – Хаджар, рождающая детей в рабство Закона.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Здесь содержится иносказание: две женщины символизируют два священных соглашения. Одно было заключено на горе Синай , и его символ – Хаджар, рождающая детей в рабство Закона.
- La Bible du Semeur 2015 - Il y a là une analogie : ces deux femmes représentent deux alliances. L’une de ces alliances, conclue sur le mont Sinaï, donne naissance à des enfants esclaves, c’est Agar qui la représente.
- リビングバイブル - このことは、神様が人間を助けるために開かれた二つの道を示しています。一つは、律法を示して、それを守るようにとお命じになった道です。神様は、シナイ山でこの道をお示しになりました。その時、モーセに「十戒」をお与えになったのです。アラビヤ人はこのシナイ山を、「ハガル山」と呼んでいます。ここでアブラハムの奴隷である妻ハガルは、戒めに従うことによって神に喜ばれようとする生き方の象徴、ユダヤ人の母なる都エルサレムを表しています。そして、この生き方に従うユダヤ人は、すべてハガルが産んだ奴隷の子どもなのです。
- Nestle Aland 28 - ἅτινά ἐστιν ἀλληγορούμενα· αὗται γάρ εἰσιν δύο διαθῆκαι, μία μὲν ἀπὸ ὄρους Σινᾶ εἰς δουλείαν γεννῶσα, ἥτις ἐστὶν Ἁγάρ.
- unfoldingWord® Greek New Testament - ἅτινά ἐστιν ἀλληγορούμενα, αὗται γάρ εἰσιν δύο διαθῆκαι: μία μὲν ἀπὸ Ὄρους Σινά εἰς δουλείαν γεννῶσα, ἥτις ἐστὶν Ἁγάρ.
- Nova Versão Internacional - Isso é usado aqui como ilustração ; estas mulheres representam duas alianças. Uma aliança procede do monte Sinai e gera filhos para a escravidão: esta é Hagar.
- Hoffnung für alle - Am Beispiel dieser beiden Frauen will uns Gott zeigen, wie verschieden seine beiden Bündnisse mit den Menschen sind. Den einen Bund, für den Hagar steht, schloss Gott auf dem Berg Sinai mit dem Volk Israel, als er ihm das Gesetz gab. Dieses Gesetz aber versklavt uns.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chuyện ấy tượng trưng cho hai giao ước, là phương pháp Đức Chúa Trời cứu giúp dân Ngài. Đức Chúa Trời ban hành luật pháp trên núi Si-nai để dân Ngài vâng giữ.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เรื่องนี้ถือเป็นการเปรียบเทียบได้ หญิงทั้งสองหมายถึงสองพันธสัญญา พันธสัญญาหนึ่งมาจากภูเขาซีนาย คือ นางฮาการ์ให้กำเนิดลูกทาส
交叉引用
- ปฐมกาล 25:12 - ต่อไปนี้เป็นลำดับเชื้อสายของอิชมาเอล บุตรของอับราฮัมกับนางฮาการ์ชาวอียิปต์ที่เป็นหญิงรับใช้ของซาราห์
- เอเสเคียล 20:49 - แล้วข้าพเจ้าพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขากำลังพูดถึงข้าพเจ้าว่า ‘เขาเพียงแต่พูดเป็นอุปมาใช่ไหม’”
- ฮีบรู 10:15 - พระวิญญาณบริสุทธิ์ยืนยันกับเราด้วยว่า
- ฮีบรู 10:16 - “พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า นี่คือพันธสัญญา ที่เราจะทำกับพวกเขา และหลังจากนั้น เราจะให้กฎบัญญัติของเราประทับอยู่ในใจของเขา และจะจารึกไว้ในความคิดของเขา”
- ฮีบรู 10:17 - พระองค์กล่าวอีกว่า “เราจะไม่จดจำบาปและการกระทำ ที่ชั่วร้ายของเขาอีกต่อไป”
- ฮีบรู 10:18 - บัดนี้ เมื่อมีการยกโทษสิ่งเหล่านี้แล้ว จึงไม่มีการถวายสิ่งใดๆ เพื่อชดใช้บาปอีกต่อไป
- ฮีบรู 7:22 - เป็นเพราะคำปฏิญาณนี้ พระเยซูจึงได้มาเป็นผู้รับประกันของพันธสัญญาที่ดีกว่าเดิม
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:2 - ท่านกล่าวว่า “พระผู้เป็นเจ้ามาจากซีนาย และเบิกอโณทัยให้พวกเขาจากเสอีร์ พระองค์ทอแสงจากภูเขาปาราน ผู้บริสุทธิ์จำนวนนับหมื่นมากับพระองค์ แสงไฟแลบแปลบปลาบอยู่ที่มือขวาของพระองค์
- กาลาเทีย 5:1 - พระคริสต์ปลดปล่อยให้เราเป็นอิสระ เพื่อเราจะได้เป็นอิสระอย่างแท้จริง ฉะนั้นจงยืนหยัดไว้ และอย่าเข้าเทียมแอกเป็นทาสอีก
- ฮีบรู 12:24 - และได้มาถึงพระเยซูผู้เป็นคนกลางของพันธสัญญาใหม่ ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ และถึงโลหิตที่ประพรมซึ่งร้องด้วยคำพูดที่ดีกว่าโลหิตของอาเบล
- ลูกา 22:19 - ครั้นพระองค์หยิบขนมปังและกล่าวขอบคุณพระเจ้าแล้ว ก็บิเป็นชิ้น ยื่นให้แก่เหล่าสาวก พลางกล่าวว่า “นี่เป็นกายของเราซึ่งมอบไว้เพื่อพวกเจ้า จงปฏิบัติเช่นนี้เพื่อระลึกถึงเรา”
- ลูกา 22:20 - ในทำนองเดียวกัน หลังจากอาหารเย็น พระองค์หยิบถ้วยพลางกล่าวว่า “ถ้วยนี้เป็นพันธสัญญาใหม่ในโลหิตของเราซึ่งได้หลั่งเพื่อพวกเจ้า
- กาลาเทีย 3:15 - พี่น้องเอ๋ย ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างที่เป็นตามแบบของมนุษย์ แม้ว่าจะเป็นเพียงพันธสัญญาของมนุษย์ แต่เมื่อเป็นที่รับรองกันแล้ว ก็ไม่มีใครยกเลิกหรือเพิ่มเติมขึ้นอีก
- กาลาเทีย 3:16 - สัญญาทั้งหลายที่พระเจ้าได้กล่าวไว้กับอับราฮัมและผู้สืบเชื้อสายของท่าน พระคัมภีร์ไม่ได้ระบุว่า “และกับบรรดาผู้สืบเชื้อสาย” เหมือนกับอ้างถึงคนทั้งหลาย แต่เจาะจงถึงคนๆ เดียวคือ “และกับผู้สืบเชื้อสายของเจ้า” ซึ่งผู้นั้นคือพระคริสต์
- กาลาเทีย 3:17 - ข้าพเจ้าหมายถึงว่า กฎบัญญัติที่เกิดขึ้นมาภายหลังถึง 430 ปีไม่ได้ทำให้พันธสัญญาซึ่งพระเจ้าได้รับรองไว้แล้วกลายเป็นโมฆะ เท่ากับว่าเป็นการยกเลิกพระสัญญาไป
- กาลาเทีย 3:18 - ด้วยว่าถ้าการรับมรดกขึ้นอยู่กับกฎบัญญัติแล้ว ก็ไม่ขึ้นอยู่กับพระสัญญาอีก แต่พระเจ้าได้ให้แก่อับราฮัมทางพระสัญญา
- กาลาเทีย 3:19 - แล้วกฎบัญญัติมีไว้เพื่ออะไร มีเพิ่มขึ้นมาไว้เพื่อให้เห็นว่าการกระทำใดเข้าข่ายการละเมิด จนกว่าผู้สืบเชื้อสายตามพระสัญญาที่อ้างถึงนั้นมาแล้ว บรรดาทูตสวรรค์เป็นผู้ที่ช่วยส่งกฎบัญญัติให้โดยมีคนกลาง
- กาลาเทีย 3:20 - อย่างไรก็ตาม การจะใช้คนกลางได้ก็ต้องมีสองฝ่ายกระทำการ แต่พระเจ้าเป็นฝ่ายเดียว
- กาลาเทีย 3:21 - ฉะนั้น กฎบัญญัติขัดแย้งกับพระสัญญาของพระเจ้าหรือ ไม่ใช่แน่ เพราะหากว่ากฎบัญญัติที่พระเจ้าให้ไว้นั้นสามารถนำมาซึ่งชีวิตแล้ว ความชอบธรรมก็จะได้มาโดยการปฏิบัติตามกฎบัญญัติอย่างแน่นอน
- ฮีบรู 13:20 - ขอพระเจ้าแห่งสันติสุข ผู้โปรดให้พระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา คือผู้เลี้ยงดูฝูงแกะที่ยิ่งใหญ่ และฟื้นขึ้นจากความตายโดยโลหิตแห่งพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์
- ฮีบรู 8:6 - แต่บัดนี้พระเยซูได้รับงานอันสำคัญยิ่งกว่างานของปุโรหิตอื่นๆ คือพันธสัญญาที่พระองค์เป็นคนกลาง ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ ซึ่งเป็นพันธสัญญาที่ดีกว่า เพราะมีรากฐานจากพระสัญญาทั้งหลายซึ่งดีกว่า
- ฮีบรู 8:7 - ถ้าพันธสัญญาแรกไม่มีข้อบกพร่องแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมีพันธสัญญาอื่นอีก
- ฮีบรู 8:8 - แต่พระเจ้าเห็นว่ามนุษย์เหล่านั้นมีความผิด จึงกล่าวว่า “พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า ดูเถิด ใกล้จะถึงเวลาแล้ว ที่เราจะทำพันธสัญญาใหม่ กับพงศ์พันธุ์อิสราเอล และกับพงศ์พันธุ์ยูดาห์
- ฮีบรู 8:9 - เป็นพันธสัญญาที่จะไม่เหมือนกับที่ได้ทำไว้กับบรรพบุรุษของเขา คือตอนที่เรานำพวกเขา เหมือนกับตอนที่จูงมือออกจากประเทศอียิปต์ เพราะพวกเขาไม่ภักดีต่อพันธสัญญาของเรา และเราหันหลังให้พวกเขา พระผู้เป็นเจ้ากล่าวไว้เช่นนี้
- ฮีบรู 8:10 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า นี่คือพันธสัญญาที่เราจะทำกับพงศ์พันธุ์อิสราเอล และหลังจากนั้น เราจะทำให้พวกเขาระลึกถึงกฎบัญญัติของเรา และเราจะจารึกไว้ในใจของเขา เราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นชนชาติของเรา
- ฮีบรู 8:11 - ไม่มีใครในพวกเขาที่จะต้องสอนเพื่อนร่วมชาติ หรือในพวกพี่น้องทุกคนของตนว่า ‘จงรู้จักพระผู้เป็นเจ้า’ เพราะพวกเขาทุกคนจะรู้จักเรา ตั้งแต่คนต่ำต้อยที่สุดถึงคนใหญ่โตที่สุด
- ฮีบรู 8:12 - เพราะเราจะยกโทษความชั่วร้ายของเขา และจะไม่จดจำบาปของเขาไว้อีกต่อไป”
- ฮีบรู 8:13 - เมื่อพระเจ้ากล่าวว่า “พันธสัญญาใหม่” พระองค์ได้ทำให้พันธสัญญาแรกล้าสมัย และอะไรที่ล้าสมัยและล่วงพ้นกาลเวลาก็จะหายสาบสูญไป
- ปฐมกาล 16:3 - ดังนั้น หลังจากอับรามตั้งรกรากอยู่ในแผ่นดินคานาอันได้ 10 ปี นางซารายภรรยาของอับรามยกฮาการ์หญิงรับใช้ชาวอียิปต์ของนางให้เป็นภรรยาอีกคนหนึ่งของอับราม
- ปฐมกาล 16:4 - ท่านจึงข้องเกี่ยวกับนางฮาการ์ในฐานะภรรยา แล้วนางก็ตั้งครรภ์ เมื่อนางฮาการ์รู้ว่าตนเองตั้งครรภ์แล้ว นางก็มองนายสาวของตนด้วยสายตาดูหมิ่น
- ปฐมกาล 16:15 - ฮาการ์ให้กำเนิดบุตรชายแก่อับราม และอับรามตั้งชื่อบุตรชายที่ฮาการ์ให้กำเนิดว่า อิชมาเอล
- ปฐมกาล 16:16 - เมื่อฮาการ์ให้กำเนิดอิชมาเอลแก่อับราม ท่านมีอายุ 86 ปี
- ฮีบรู 9:15 - และด้วยเหตุนี้ พระคริสต์จึงเป็นคนกลางของพันธสัญญาใหม่ ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ เพื่อว่าบรรดาผู้ที่พระเจ้าเรียก จะได้รับมรดกอันเป็นนิรันดร์ซึ่งเป็นพระสัญญา เพราะพระองค์ได้สิ้นชีวิต เพื่อเป็นค่าไถ่ให้พวกเขาเป็นอิสระจากการล่วงละเมิดภายใต้บังคับของพันธสัญญาแรก
- ฮีบรู 9:16 - ในกรณีที่เกี่ยวกับหนังสือพินัยกรรม จำเป็นต้องพิสูจน์ว่าผู้ทำหนังสือนั้นตายแล้ว
- ฮีบรู 9:17 - เพราะหนังสือพินัยกรรมจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อคนนั้นตายแล้ว และยังใช้ไม่ได้หากว่าคนที่ทำหนังสือยังมีชีวิตอยู่
- ฮีบรู 9:18 - เหตุฉะนั้นแม้พันธสัญญาแรกจะใช้ได้ ก็ต่อเมื่อมีการใช้เลือด
- ฮีบรู 9:19 - เมื่อโมเสสได้ประกาศพระบัญญัติทุกข้อแก่คนทั้งปวงตามกฎบัญญัติแล้ว ท่านใช้ขนสัตว์สีแดงสดกับไม้หุสบ จุ่มเลือดลูกโคกับเลือดแพะผสมน้ำ ประพรมหนังสือม้วนและคนทั้งปวง
- ฮีบรู 9:20 - ท่านกล่าวว่า “นี่คือเลือดแห่งพันธสัญญา ซึ่งพระเจ้าได้สั่งให้พวกท่านรักษาไว้”
- ฮีบรู 9:21 - ในวิธีเดียวกันท่านก็ได้ประพรมกระโจมและทุกสิ่งที่ใช้ในพิธีด้วยเลือด
- ฮีบรู 9:22 - ตามกฎบัญญัติแล้ว เกือบทุกสิ่งได้รับการชำระด้วยเลือด และถ้าปราศจากการหลั่งเลือดแล้วก็จะไม่มีการให้อภัยโทษ
- ฮีบรู 9:23 - ฉะนั้น จึงจำเป็นต้องให้สิ่งที่ทำขึ้นตามแบบอย่างสวรรค์ ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้ แต่สิ่งซึ่งเป็นอย่างสวรรค์เองต้องมีเครื่องสักการะที่ดีกว่านี้
- ฮีบรู 9:24 - ด้วยว่าพระคริสต์ไม่ได้เข้าสู่สถานที่บริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งเป็นแบบของจริงด้วยมือมนุษย์ แต่ได้เข้าสู่สวรรค์อันแท้จริง และบัดนี้พระองค์ปรากฏต่อหน้าพระเจ้าเพื่อพวกเรา
- 1 โครินธ์ 10:4 - และดื่มสิ่งที่เป็นฝ่ายวิญญาณเหมือนกันหมด เพราะว่าทุกคนดื่มจากศิลาฝ่ายวิญญาณซึ่งร่วมเดินทางไปกับพวกเขา ศิลานั้นคือพระคริสต์
- ฮีบรู 11:19 - อับราฮัมเชื่อว่าพระเจ้าสามารถให้คนฟื้นคืนชีวิตจากความตาย ฉะนั้นกล่าวโดยอุปมาได้ว่า ท่านได้รับบุตรกลับคืนจากความตาย
- ปฐมกาล 16:8 - จึงกล่าวกับฮาการ์ว่า “ฮาการ์คนรับใช้ของซาราย เจ้ามาจากไหน และเจ้ากำลังจะไปไหน” นางพูดว่า “ข้าพเจ้ากำลังหนีซารายนายหญิงของข้าพเจ้า”
- โรม 8:15 - และท่านไม่ได้รับวิญญาณแห่งทาสซึ่งนำไปสู่ความกลัวได้อีก แต่ท่านได้พระวิญญาณแห่งการได้รับการยกฐานะเป็นบุตร และเราร้องเรียกว่า “อับบา พระบิดา” ได้ก็เพราะพระวิญญาณ
- กาลาเทีย 4:25 - นางฮาการ์เปรียบได้กับภูเขาซีนายในอาระเบีย ซึ่งเทียบได้กับเมืองเยรูซาเล็มในปัจจุบัน ด้วยว่านางอยู่ภายใต้การเป็นทาสร่วมกับบุตรทั้งหลาย
- ปฐมกาล 21:9 - นางซาราห์เห็นบุตรชายของนางฮาการ์กำลังเล่นกับอิสอัคบุตรชายของตน ฮาการ์เป็นชาวอียิปต์ที่ให้กำเนิดบุตรชายแก่อับราฮัม
- ปฐมกาล 21:10 - ซาราห์จึงบอกอับราฮัมว่า “จงไล่หญิงทาสคนนี้กับลูกของนางไปเสีย ด้วยว่าลูกของหญิงทาสคนนี้จะไม่มีวันรับมรดกร่วมกับอิสอัคลูกของฉัน”
- ปฐมกาล 21:11 - เรื่องนี้ทำให้อับราฮัมไม่สบายใจ เพราะเป็นเรื่องบุตรชายของท่าน
- ปฐมกาล 21:12 - แต่พระเจ้ากล่าวกับอับราฮัมว่า “จงอย่าทุกข์ใจเรื่องเด็กและหญิงทาสของเจ้าเลย ซาราห์ว่าอะไรก็ทำตามที่นางบอกเถิด เพราะว่าเจ้าจะมีบรรดาผู้สืบเชื้อสายโดยผ่านทางอิสอัค
- ปฐมกาล 21:13 - และเราจะให้บรรดาผู้สืบเชื้อสายจากลูกของหญิงทาสของเจ้าเป็นประชาชาติหนึ่งด้วย เพราะเขาก็สืบเชื้อสายมาจากเจ้าเช่นกัน”
- โฮเชยา 11:10 - พวกเขาจะตามพระผู้เป็นเจ้าไป พระองค์จะคำรามเหมือนสิงห์ เมื่อพระองค์คำราม บรรดาลูกๆ ของพระองค์จะมาด้วยตัวสั่นเทาจากทิศตะวันตก
- มัทธิว 13:35 - เพื่อเป็นไปตามที่ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้ากล่าวไว้คือ “เราจะเปิดปากของเรากล่าวคำอุปมา เราจะเล่าเรื่องที่ซ่อนเร้นตั้งแต่แรกสร้างโลก”
- 1 โครินธ์ 10:11 - เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาเหล่านั้น เพื่อเป็นตัวอย่าง และถูกจดบันทึกไว้สำหรับเตือนใจพวกเราที่ยังประสบกับยุคสุดท้ายอยู่