逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - นาหาชชาวอัมโมนขึ้นไป และใช้กำลังล้อมเมืองยาเบชกิเลอาด บรรดาชายชาวยาเบชจึงพูดกับนาหาชว่า “ทำพันธสัญญากับพวกเรา และเราจะยอมรับใช้ท่าน”
- 新标点和合本 - 亚扪人的王拿辖上来,对着基列雅比安营。雅比众人对拿辖说:“你与我们立约,我们就服侍你。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 亚扪人拿辖上来,对着基列的雅比安营。雅比众人对拿辖说:“你与我们立约,我们就服事你。”
- 和合本2010(神版-简体) - 亚扪人拿辖上来,对着基列的雅比安营。雅比众人对拿辖说:“你与我们立约,我们就服事你。”
- 当代译本 - 亚扪人拿辖率军上来围困基列·雅比,城内的居民对拿辖说:“你与我们立约吧!我们愿意服侍你。”
- 圣经新译本 - 亚扪人拿辖上来,安营攻击基列.雅比。所有的雅比人都对拿辖说:“你与我们立约,我们就服事你。”
- 中文标准译本 - 亚扪人纳哈什上来,对着基列-雅比扎营。全体雅比人就对纳哈什说:“求你与我们立约,我们就服事你。”
- 现代标点和合本 - 亚扪人的王拿辖上来,对着基列雅比安营。雅比众人对拿辖说:“你与我们立约,我们就服侍你。”
- 和合本(拼音版) - 亚扪人的王拿辖上来,对着基列雅比安营。雅比众人对拿辖说:“你与我们立约,我们就服侍你。”
- New International Version - Nahash the Ammonite went up and besieged Jabesh Gilead. And all the men of Jabesh said to him, “Make a treaty with us, and we will be subject to you.”
- New International Reader's Version - Nahash was the king of Ammon. He and his army went up to Jabesh Gilead. They surrounded it and got ready to attack it. All the men of Jabesh spoke to Nahash. They said, “Make a peace treaty with us. Then we’ll be under your control.”
- English Standard Version - Then Nahash the Ammonite went up and besieged Jabesh-gilead, and all the men of Jabesh said to Nahash, “Make a treaty with us, and we will serve you.”
- New Living Translation - About a month later, King Nahash of Ammon led his army against the Israelite town of Jabesh-gilead. But all the citizens of Jabesh asked for peace. “Make a treaty with us, and we will be your servants,” they pleaded.
- The Message - So Nahash went after them and prepared to go to war against Jabesh Gilead. The men of Jabesh petitioned Nahash: “Make a treaty with us and we’ll serve you.”
- Christian Standard Bible - Nahash the Ammonite came up and laid siege to Jabesh-gilead. All the men of Jabesh said to him, “Make a treaty with us, and we will serve you.”
- New American Standard Bible - Now Nahash the Ammonite went up and besieged Jabesh-gilead; and all the men of Jabesh said to Nahash, “Make a covenant with us and we will serve you.”
- New King James Version - Then Nahash the Ammonite came up and encamped against Jabesh Gilead; and all the men of Jabesh said to Nahash, “Make a covenant with us, and we will serve you.”
- Amplified Bible - Now Nahash the Ammonite [king] went up and besieged Jabesh-gilead; and all the men of Jabesh said to Nahash, “Make a treaty [of peace] with us and we will serve you.”
- American Standard Version - Then Nahash the Ammonite came up, and encamped against Jabesh-gilead: and all the men of Jabesh said unto Nahash, Make a covenant with us, and we will serve thee.
- King James Version - Then Nahash the Ammonite came up, and encamped against Jabesh–gilead: and all the men of Jabesh said unto Nahash, Make a covenant with us, and we will serve thee.
- New English Translation - Nahash the Ammonite marched against Jabesh Gilead. All the men of Jabesh Gilead said to Nahash, “Make a treaty with us and we will serve you.”
- World English Bible - Then Nahash the Ammonite came up, and encamped against Jabesh Gilead: and all the men of Jabesh said to Nahash, “Make a covenant with us, and we will serve you.”
- 新標點和合本 - 亞捫人的王拿轄上來,對着基列‧雅比安營。雅比眾人對拿轄說:「你與我們立約,我們就服事你。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 亞捫人拿轄上來,對着基列的雅比安營。雅比眾人對拿轄說:「你與我們立約,我們就服事你。」
- 和合本2010(神版-繁體) - 亞捫人拿轄上來,對着基列的雅比安營。雅比眾人對拿轄說:「你與我們立約,我們就服事你。」
- 當代譯本 - 亞捫人拿轄率軍上來圍困基列·雅比,城內的居民對拿轄說:「你與我們立約吧!我們願意服侍你。」
- 聖經新譯本 - 亞捫人拿轄上來,安營攻擊基列.雅比。所有的雅比人都對拿轄說:“你與我們立約,我們就服事你。”
- 呂振中譯本 - 大約過了一個月 , 亞捫 人 拿轄 上來,紮營圍困 基列雅比 ; 雅比 人對 拿轄 說:『你和我們立約,我們就服事你。』
- 中文標準譯本 - 亞捫人納哈什上來,對著基列-雅比紮營。全體雅比人就對納哈什說:「求你與我們立約,我們就服事你。」
- 現代標點和合本 - 亞捫人的王拿轄上來,對著基列雅比安營。雅比眾人對拿轄說:「你與我們立約,我們就服侍你。」
- 文理和合譯本 - 亞捫人拿轄上、建營以攻基列雅比、雅比人謂拿轄曰、與我立約、我則事爾、
- 文理委辦譯本 - 亞捫王拿轄至基列之雅疋、建營攻之、雅疋人謂拿轄曰、與我結約、我服事爾。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 亞捫 王 拿轄 至 基列 之 雅比 、建營攻之、 雅比 人謂 拿轄 曰、爾與我立約、我欲事爾、
- Nueva Versión Internacional - Najás el amonita subió contra Jabés de Galaad y la sitió. Los habitantes de la ciudad le dijeron: —Haz un pacto con nosotros, y seremos tus siervos.
- 현대인의 성경 - 그 후에 암몬 사람 나하스가 길르앗의 야베스성을 치기 위해 군대를 이 끌고 와서 포진하자 야베스 사람들은 나하스에게 “우리와 조약을 맺읍시다. 그러면 우리가 당신들의 종이 되겠소” 하였다.
- Новый Русский Перевод - Аммонитянин Нахаш пришел и осадил Иавеш Галаадский. Все жители Иавеша сказали ему: – Заключи с нами союз, и мы будем подчиняться тебе.
- Восточный перевод - Аммонитянин Нахаш пришёл и осадил Иавеш Галаадский. Все жители Иавеша сказали ему: – Заключи с нами союз, и мы будем подчиняться тебе.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Аммонитянин Нахаш пришёл и осадил Иавеш Галаадский. Все жители Иавеша сказали ему: – Заключи с нами союз, и мы будем подчиняться тебе.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Аммонитянин Нахаш пришёл и осадил Иавеш Галаадский. Все жители Иавеша сказали ему: – Заключи с нами союз, и мы будем подчиняться тебе.
- La Bible du Semeur 2015 - Environ un mois plus tard , Nahash l’Ammonite vint mettre le siège devant Yabesh en Galaad . Les habitants de la ville dirent à Nahash : Conclus une alliance avec nous et nous te serons assujettis.
- リビングバイブル - さて、アモン人ナハシュが軍を率いて、イスラエル人の町ヤベシュ・ギルアデに迫りました。ヤベシュの人々は講和を求め、「どうか、お助けください。あなたがたにお仕えしますから」とすがりました。
- Nova Versão Internacional - O amonita Naás avançou contra a cidade de Jabes-Gileade e a cercou. E os homens de Jabes lhe disseram: “Faça um tratado conosco, e nos sujeitaremos a você”.
- Hoffnung für alle - Kurze Zeit später zog Nahasch, der König der Ammoniter, mit seinem Heer zur israelitischen Stadt Jabesch in der Gegend von Gilead und belagerte sie. Da machten die Einwohner von Jabesch Nahasch folgendes Angebot: »Schließ doch ein Bündnis mit uns: Du lässt uns am Leben, und dafür werden wir uns dir unterwerfen.«
- Kinh Thánh Hiện Đại - Khoảng một tháng sau, Vua Na-hách của Am-môn dẫn quân tiến đánh Ít-ra-ên tại Gia-be Ga-la-át. Người Ít-ra-ên trong thành Gia-be cầu xin hòa bình: “Xin kết hòa ước với chúng tôi, chúng tôi sẽ phục vụ ông.”
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ครั้งนั้นนาหาชชาวอัมโมนยกทัพมาล้อมเมืองยาเบชกิเลอาด ชาวเมืองยาเบชทั้งปวงจึงเจรจาว่า “พวกเราขอทำสัญญาสงบศึกและยอมสวามิภักดิ์”
交叉引用
- ผู้วินิจฉัย 11:8 - บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของกิเลอาดพูดกับเยฟธาห์ว่า “นั่นแหละ เราจึงหันมาหาท่านในเวลานี้ ท่านจะได้ไปกับเราเพื่อต่อสู้กับชาวอัมโมน และเป็นหัวหน้าของทุกคนในกิเลอาด”
- ผู้วินิจฉัย 11:9 - เยฟธาห์พูดกับบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของกิเลอาดว่า “ถ้าพวกท่านพาเรากลับบ้านอีกเพื่อต่อสู้กับชาวอัมโมน และพระผู้เป็นเจ้ามอบพวกเขาให้แก่เรา เราจะเป็นหัวหน้าพวกท่าน”
- ผู้วินิจฉัย 11:10 - บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของกิเลอาดพูดกับเยฟธาห์ว่า “พระผู้เป็นเจ้าจะเป็นพยานระหว่างเรา หากว่าพวกเราไม่ทำตามที่ท่านกล่าว”
- ผู้วินิจฉัย 11:11 - ดังนั้นเยฟธาห์จึงไปกับบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของกิเลอาด ประชาชนตั้งเขาให้เป็นหัวหน้าและผู้นำของพวกเขา และเยฟธาห์ก็พูดกับพระผู้เป็นเจ้าที่มิสปาห์เหมือนที่ได้พูดกับบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่
- ผู้วินิจฉัย 11:12 - ครั้นแล้วเยฟธาห์ก็ให้พวกผู้ส่งข่าวไปยังกษัตริย์ของชาวอัมโมน โดยกล่าวว่า “มีสิ่งใดที่ทำให้ท่านต่อต้านพวกเราจนถึงกับโจมตีประเทศเรา”
- ผู้วินิจฉัย 11:13 - กษัตริย์ของชาวอัมโมนตอบพวกผู้ส่งข่าวของเยฟธาห์ว่า “เพราะเมื่ออิสราเอลแยกตัวออกมาจากประเทศอียิปต์ ก็ได้ยึดดินแดนของเราไป ตั้งแต่อาร์โนนถึงยับบอก และถึงแม่น้ำจอร์แดน บัดนี้จงคืนดินแดนนั้นมาโดยสันติเถิด”
- ผู้วินิจฉัย 11:14 - เยฟธาห์จึงให้พวกผู้ส่งข่าวไปยังกษัตริย์ของชาวอัมโมน
- ผู้วินิจฉัย 11:15 - และกล่าวกับท่านว่า “เยฟธาห์กล่าวดังนี้ว่า อิสราเอลไม่ได้ยึดดินแดนโมอับ หรือดินแดนของชาวอัมโมน
- ผู้วินิจฉัย 11:16 - แต่เมื่อพวกเขาแยกตัวออกมาจากอียิปต์ อิสราเอลผ่านไปทางถิ่นทุรกันดารเพื่อไปยังทะเลแดง และมาถึงคาเดช
- ผู้วินิจฉัย 11:17 - จากนั้นอิสราเอลจึงให้พวกผู้ส่งข่าวไปยังกษัตริย์แห่งเอโดม โดยกล่าวว่า ‘โปรดให้พวกเราผ่านทางดินแดนของท่าน’ แต่กษัตริย์แห่งเอโดมไม่ฟัง พวกเขาส่งคำขอไปยังกษัตริย์แห่งโมอับด้วย แต่ท่านก็ปฏิเสธ ฉะนั้นอิสราเอลจึงอยู่ที่คาเดช
- ผู้วินิจฉัย 11:18 - แล้วพวกเขาเดินทางผ่านไปทางถิ่นทุรกันดาร และอ้อมดินแดนเอโดมและดินแดนโมอับ มาถึงด้านตะวันออกของดินแดนโมอับ และตั้งค่ายอยู่อีกฟากของอาร์โนน แต่พวกเขาก็ไม่ได้เข้าไปในอาณาเขตของโมอับ เพราะอาร์โนนเป็นพรมแดนโมอับ
- ผู้วินิจฉัย 11:19 - อิสราเอลจึงให้พวกผู้ส่งข่าวไปยังสิโหนกษัตริย์ของชาวอาโมร์ กษัตริย์แห่งเฮชโบน และอิสราเอลพูดกับท่านว่า ‘โปรดให้พวกเราผ่านดินแดนของท่านเพื่อไปยังประเทศของเราเถิด’
- ผู้วินิจฉัย 11:20 - แต่สิโหนไม่ไว้ใจให้อิสราเอลผ่านทางอาณาเขตของท่าน ดังนั้นสิโหนจึงรวบรวมคนของท่านและตั้งค่ายอยู่ที่ยาฮาส และได้ต่อสู้กับอิสราเอล
- ผู้วินิจฉัย 11:21 - พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลจึงมอบสิโหนและคนของท่านทั้งหมดไว้ในมือของอิสราเอล อิสราเอลได้ชัยชนะ จึงได้ยึดดินแดนทั้งหมดที่ชาวอาโมร์อาศัยอยู่ไว้เป็นเจ้าของ
- ผู้วินิจฉัย 11:22 - เขาได้ยึดอาณาเขตของชาวอาโมร์ทั้งหมด นับตั้งแต่อาร์โนนถึงแม่น้ำยับบอก และจากถิ่นทุรกันดารถึงแม่น้ำจอร์แดน
- ผู้วินิจฉัย 11:23 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลได้ขับไล่ชาวอาโมร์ไปต่อหน้าชาวอิสราเอลคนของพระองค์ แล้วพวกท่านจะมีสิทธิ์ยึดไว้อย่างนั้นหรือ
- ผู้วินิจฉัย 11:24 - ท่านจะไม่ยึดสิ่งที่เคโมช ซึ่งเป็นเทพเจ้าของท่านมอบให้ท่านเป็นเจ้าของหรือ ส่วนทุกคนที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราได้ขับไล่ออกไปต่อหน้าเรา เราก็จะยึดที่ของเขาไว้เป็นกรรมสิทธิ์
- ผู้วินิจฉัย 11:25 - พวกท่านดีกว่าบาลาคบุตรศิปโปร์กษัตริย์แห่งโมอับหรือ ท่านเคยวิวาทกับชาวอิสราเอลหรือ หรือว่าพวกท่านเคยทำสงครามกับพวกเขา
- ผู้วินิจฉัย 11:26 - เป็นเวลา 300 ปีที่ชาวอิสราเอลอาศัยอยู่ที่เมืองเฮชโบนและชานเมือง และที่เมืองอาโรเออร์และชานเมือง และที่เมืองต่างๆ ที่อยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โนน ทำไมพวกท่านจึงไม่ยึดไว้ในช่วงเวลานั้นเล่า
- ผู้วินิจฉัย 11:27 - ฉะนั้น เราไม่ได้กระทำผิดต่อท่าน แต่ท่านเป็นฝ่ายกระทำผิดต่อเราที่ทำสงครามกับเรา พระผู้เป็นเจ้า ผู้เป็นผู้พิพากษาจะตัดสินระหว่างชาวอิสราเอลและชาวอัมโมนในวันนี้”
- ผู้วินิจฉัย 11:28 - แต่กษัตริย์ของชาวอัมโมนไม่ใส่ใจในคำของเยฟธาห์ที่ส่งไป
- ผู้วินิจฉัย 11:29 - ครั้นแล้วพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าก็สถิตกับเยฟธาห์ และเขาจึงข้ามไปทางกิเลอาดและมนัสเสห์ แล้วผ่านต่อไปจนถึงมิสปาห์แห่งกิเลอาด จากมิสปาห์แห่งกิเลอาดเขาก็ได้ผ่านต่อไปจนถึงที่ของชาวอัมโมน
- ผู้วินิจฉัย 11:30 - และเยฟธาห์ให้คำสัญญาต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า “ถ้าหากว่าพระองค์จะมอบชาวอัมโมนไว้ในมือของข้าพเจ้า
- ผู้วินิจฉัย 11:31 - แล้วผู้ใดก็ตามที่ออกมาจากประตูบ้านของข้าพเจ้า มาพบข้าพเจ้าเวลาที่ข้าพเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยจากชาวอัมโมน ผู้นั้นจะเป็นของพระผู้เป็นเจ้า และข้าพเจ้าจะมอบให้เป็นของถวาย”
- ผู้วินิจฉัย 11:32 - แล้วเยฟธาห์ข้ามไปสู้รบกับชาวอัมโมน พระผู้เป็นเจ้ามอบพวกเขาไว้ในมือของเขา
- ผู้วินิจฉัย 11:33 - และเขาก็ได้ฆ่าฟันชาวอัมโมนจนราบเป็นหน้ากลอง ตั้งแต่อาโรเออร์ไปจนถึงละแวกใกล้เคียงของมินนิท 20 เมือง และไปไกลจนถึงอาเบลครามิม ดังนั้นชาวอัมโมนจึงอยู่ใต้บังคับชาวอิสราเอล
- อิสยาห์ 36:16 - อย่าฟังเฮเซคียาห์ เพราะกษัตริย์แห่งอัสซีเรียกล่าวดังนี้ว่า ‘จงยอมสงบศึกกับเรา และออกมาหาเรา แล้วพวกเจ้าแต่ละคนจะกินจากเถาองุ่นของตนเอง และจากต้นมะเดื่อของตนเอง และพวกเจ้าแต่ละคนจะดื่มน้ำจากบ่อของตนเอง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 23:3 - อย่าให้ชาวอัมโมนหรือชาวโมอับเข้าร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้า รวมถึงคนของพวกเขารุ่นต่อๆ ไปจน 10 ชั่วอายุคนก็อย่าให้เข้าร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้าตลอดกาล
- 1 ซามูเอล 31:11 - แต่เมื่อชาวเมืองยาเบชกิเลอาดได้ยินว่าชาวฟีลิสเตียกระทำอย่างไรต่อซาอูล
- 1 ซามูเอล 31:12 - ชายผู้กล้าหาญทุกคนก็เดินทางไปตลอดคืน และนำร่างของซาอูลและบุตรของท่านลงมาจากกำแพงเมืองเบธชาน เมื่อมาถึงเมืองยาเบชแล้ว ก็เผาศพที่นั่น
- 1 ซามูเอล 31:13 - พวกเขาเก็บกระดูกไปฝังที่ใต้ต้นแทมริสก์ที่ยาเบช และอดอาหาร 7 วัน
- ผู้วินิจฉัย 10:7 - ดังนั้นความโกรธของพระผู้เป็นเจ้าพลุ่งขึ้นตรงสู่อิสราเอล และพระองค์ให้พวกเขาตกอยู่ในมือของชาวฟีลิสเตียและชาวอัมโมน
- ผู้วินิจฉัย 21:10 - ดังนั้น มวลชนจึงให้ชายฉกรรจ์ 12,000 คนไปที่นั่น พร้อมกับสั่งว่า “จงไปฆ่าพลเมืองของยาเบชกิเลอาดด้วยคมดาบ ทั้งพวกผู้หญิงและเด็กเล็กด้วย
- ผู้วินิจฉัย 21:11 - สิ่งที่ต้องทำคือ ฆ่าชายและหญิงทุกคนที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย”
- ผู้วินิจฉัย 21:12 - พวกเขาพบว่าในบรรดาพลเมืองของยาเบชกิเลอาด มีพรหมจาริณีสาว 400 คนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับชายใด และพาพวกนางไปยังค่ายที่ชิโลห์ซึ่งอยู่ในดินแดนของคานาอัน
- ผู้วินิจฉัย 21:13 - จากนั้น ที่ประชุมทั้งหมดก็ให้คนไปบอกชาวเบนยามินที่อยู่ที่ศิลาริมโมน และประกาศสันติกับพวกเขา
- ผู้วินิจฉัย 21:14 - ชาวเบนยามินจึงกลับมาในคราวนั้น และได้ผู้หญิงชาวยาเบชกิเลอาดที่ชาวอิสราเอลไว้ชีวิต แต่ว่ามีจำนวนไม่พอเพียงสำหรับพวกเขา
- ผู้วินิจฉัย 21:15 - และประชาชนก็สงสารเบนยามิน เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าแยกพวกเขาออกจากเผ่าอื่นๆ ของอิสราเอล
- ผู้วินิจฉัย 21:16 - บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของที่ประชุมพูดว่า “พวกเราจะทำอย่างไรในเรื่องภรรยาให้กับพวกผู้ชายที่ยังมีชีวิตอยู่ ในเมื่อพวกผู้หญิงชาวเบนยามินถูกฆ่าแล้ว”
- ผู้วินิจฉัย 21:17 - พวกเขาพูดว่า “ชาวเบนยามินที่ยังมีชีวิตอยู่คงต้องมีผู้สืบเชื้อสายอยู่บ้าง เพื่อว่าเผ่าหนึ่งจะไม่ถูกลบล้างไปจากอิสราเอล
- ผู้วินิจฉัย 21:18 - แต่เราก็ยังให้บุตรสาวของพวกเราไปเป็นภรรยาพวกเขาไม่ได้” เพราะชาวอิสราเอลได้สาบานแล้วว่า “ใครที่ยกผู้หญิงให้แก่เบนยามินเป็นภรรยาจะถูกแช่งสาป”
- ผู้วินิจฉัย 21:19 - พวกเขาจึงพูดว่า “ดูเถิด มีเทศกาลประจำปีของพระผู้เป็นเจ้าที่ชิโลห์ ทางทิศเหนือของเบธเอล ทางทิศตะวันออกของถนนสายใหญ่ที่ขึ้นไปจากเบธเอลถึงเชเคม และอยู่ใต้เลโบนาห์”
- ผู้วินิจฉัย 21:20 - พวกเขาจึงสั่งชาวเบนยามินว่า “จงไปดักเป็นกองดักซุ่มอยู่ที่สวนองุ่น
- ผู้วินิจฉัย 21:21 - และเฝ้าดู ถ้าบรรดาบุตรสาวของชาวชิโลห์ออกมาร่ายรำ ก็จงรีบออกมาจากสวนองุ่น และฉุดผู้หญิงชาวชิโลห์ไว้เป็นภรรยาของตน และกลับไปยังดินแดนของเบนยามิน
- ผู้วินิจฉัย 21:22 - เมื่อพวกบิดาหรือพี่ชายของผู้หญิงเขามาบ่นกับพวกเรา เราจะบอกพวกเขาว่า ‘ขอให้ท่านมีใจกรุณาต่อพวกเราด้วยการช่วยเหลือพวกเขา เพราะว่าเราไม่ได้หาภรรยาให้พวกเขาในระหว่างสงคราม ในกรณีนี้ท่านก็ไม่ได้หาภรรยาให้พวกเขาเช่นกัน ฉะนั้นท่านไม่มีความผิดใดๆ’”
- ผู้วินิจฉัย 21:23 - ชาวเบนยามินจึงกระทำตามนั้น และได้ภรรยาไปตามจำนวนของพวกเขา เป็นหญิงที่ออกมาร่ายรำและถูกฉุดตัวไป เขาเหล่านั้นกลับไปยังดินแดนที่ได้รับเป็นมรดก และอาศัยอยู่ในเมืองที่ตนสร้างขึ้นใหม่
- ผู้วินิจฉัย 21:24 - คราวนั้นชาวอิสราเอลก็ออกไปจากที่นั่น กลับไปยังเผ่าและครอบครัวของตน แต่ละคนไปยังดินแดนที่ตนได้รับเป็นมรดก
- ผู้วินิจฉัย 21:25 - ในสมัยนั้นไม่มีกษัตริย์ในอิสราเอล ทุกคนทำอย่างที่เห็นว่าถูกต้องในสายตาของตนเอง
- อพยพ 23:32 - อย่าทำพันธสัญญากับพวกเขาหรือบรรดาเทพเจ้าของเขา
- โยบ 41:4 - มันจะให้คำมั่นสัญญากับเจ้า ให้เจ้ารับมันเป็นผู้รับใช้ของเจ้าไปตลอดกาลหรือ
- 1 พงศ์กษัตริย์ 20:34 - และเบนฮาดัดพูดกับท่านว่า “เมืองต่างๆ ที่บิดาของข้าพเจ้ายึดไปจากบิดาของท่าน ข้าพเจ้าจะคืนให้แก่ท่าน ท่านจะได้ตั้งศูนย์ค้าขายเป็นของท่านในเมืองดามัสกัส อย่างที่บิดาของข้าพเจ้าทำในสะมาเรีย” อาหับตอบว่า “เราจะปล่อยท่านไปตามข้อตกลงดังกล่าว” ดังนั้นท่านจึงทำสนธิสัญญากับเบนฮาดัด และปล่อยท่านไป
- ปฐมกาล 26:28 - พวกเขาตอบว่า “พวกเราเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่าน พวกเราจึงตัดสินใจว่าเราควรร่วมสาบานกันระหว่างท่านและเรา ให้พวกเราทำพันธสัญญากับท่านเถิด
- ผู้วินิจฉัย 21:8 - พวกเขาถามขึ้นว่า “มีเผ่าใดของอิสราเอลที่ไม่ได้ขึ้นมาประชุม ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าที่มิสปาห์” ดูเถิด ไม่มีผู้ใดจากยาเบชกิเลอาดที่ขึ้นมาประชุมที่ค่าย
- เอเสเคียล 17:13 - และเขาให้สมาชิกผู้หนึ่งของกษัตริย์ สาบานตนให้คำมั่นสัญญากับเขา และจับบรรดาผู้นำของแผ่นดินไปด้วย
- 1 ซามูเอล 12:12 - แต่เมื่อท่านเห็นว่านาหาชกษัตริย์ของชาวอัมโมนยกกองทัพมาโจมตีท่าน ท่านพูดกับเราว่า ‘ไม่ยอม เราต้องการกษัตริย์ปกครองพวกเรา’ ถึงแม้ว่าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเป็นกษัตริย์ของพวกท่าน